X-Men: First Class Fanfiction by Tippuri~ii *
* แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบังเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boys’ love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
ถึงความเจ็บปวดจะกัดกินร่างเพียงไร…ชาร์ลส์ เซเวียร์ในอ้อมแขนของเขากลับยังมีสายตาที่มั่นคง
นัยน์ตาสีน้ำเงินสดใสนั้นจ้องตรงมา…สบประสานกับดวงตาสีเหล็กของเขาอย่างแน่วแน่ ริมฝีปากสีทับทิมขยับเป็นถ้อยคำเดียวซ้ำไปซ้ำมา มือเรียวที่แบออกเผยให้เห็นกระสุนปืนที่บุบเบี้ยวจากทรงเดิม
เสียงทุ้มพร่ำเรียกชื่อของร่างในอ้อมแขน…สั่นสะท้านราวกับจะขาดใจ หากประกายแสงก็เริ่มเลือนจากดวงตาของอีกฝ่าย…ราวกับเจ้าตัวไม่อาจได้ยินเสียงใด
นัยน์ตาสีน้ำเงินสดใส…ที่สูญเสียประกายของชีวิตไปด้วยฝีมือของเขา
ลูกกระสุนบุบเบี้ยวร่วงหล่นจากฝ่ามือ แต่คราวนี้…มันตกกระทบพื้นอย่างไร้เสียง เพราะมีเสียงที่ดังกว่าสะท้อนไปมาในห้วงความฝัน…ถ้อยคำของชายหนุ่มที่กำลังสิ้นลมหายใจ
สายตาเกลียดชังนั้นมองตรงมายังผู้ที่หยิบยื่นความตายให้แก่ตน
* * * * * * * * * * * *
ชาร์ลส์ เซเวียร์ยังไม่หลับตอนที่ประตูห้องนอนของเขาถูกเปิดโดยไม่มีการบอกกล่าว
คราวนี้…มือแข็งแรงไม่ได้กระชากตัวเขาเหมือนทุกครั้ง อีริคโอบร่างของเขาขึ้นมา…อ้อมกอดที่อ่อนแรงนั้นบอกชาร์ลส์ว่าความกังวลของอีกฝ่ายนั้นเพิ่มขึ้นมากเพียงใด
“ชาร์ลส์…”
เสียงทุ้มแผ่วระโหยนั้นทำให้ใจคนฟังเจ็บหนึบ ชายหนุ่มผมดำแนบหน้ากับแผ่นอกกำยำ เสียงนุ่มกล่าวหนักแน่น
“ฉันอยู่ตรงนี้…อีริค”
อ้อมแขนโอบเขาแน่นขึ้น คำถามเดิมถูกถามอีกครั้ง “ชาร์ลส์ ถ้านายโดนฆ่าตาย…นายจะแค้นคนที่ฆ่านายหรือเปล่า?”
ความเงียบกั้นกลาง ก่อนที่คนถามจะเอ่ยคำถามที่แท้จริง
“ถ้านายโดนฉันฆ่าตาย…นายจะเกลียดฉันหรือเปล่า?”
ร่างสมส่วนผละออกจากอ้อมกอด นัยน์ตาสีน้ำเงินจ้องตรงไปในดวงตาสีเทาเข้มชั่วครู่…มือบางแตะลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย นิ้วเรียวไล้ตามเส้นผมสีน้ำตาลไหม้แผ่วเบา
“ไม่…อีริค” รอยยิ้มของชายหนุ่มดูอ่อนโยนยิ่งนักในแสงจันทร์ “ต่อให้นายจะทำร้ายฉันหรือฆ่าฉันก็ตาม…ฉันก็จะไม่เกลียดนายแน่นอน”
เสียงนุ่มนวลนั้นหนักแน่นเสียจนคนฟังนึกสงสัย
“อะไรทำให้นายมั่นใจได้ขนาดนั้น?” คราวนี้ชายหนุ่มผมน้ำตาลพยายามจะสบสายตากับนัยน์ตาสีแซฟไฟร์บ้าง…แต่อีกฝ่ายกลับเสเบือนหน้าไปทางอื่นจนมือแกร่งต้องเลื่อนไปเชยคางเรียวนั้นไว้ เสียงทุ้มย้ำ “ชาร์ลส์…ตอบฉันมาสิ”
“ฉันตอบคำถามของนายไปแล้ว อีริค” ร่างสมส่วนเริ่มดิ้นรน มือเรียวผลักแผ่นอกแกร่งให้ออกห่าง “เพราะงั้นนายก็น่าจะพอใจแล้วก็ปล่อยฉันซะที”
การดิ้นรนและมือที่ผลักไสทำให้ความหงุดหงิดใจก่อตัว…มือแกร่งจึงรวบร่างในอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิมกว่าจะเหวี่ยงไปบนพื้นเตียง เสียงนุ่มอุทานอย่างตกใจเมื่อมือของตนโดนอีกฝ่ายจับไว้แน่นหนา…แต่แล้ว เสียงทั้งหมดก็พลันหายไปจากลำคอของชาร์ลส์เมื่อใบหน้าคมคายนั้นโน้มลงมาใกล้
“ตอบฉันมา…ชาร์ลส์” เสียงทุ้มนั้นเฉียบขาด…แต่แววระริกในดวงตาสีเทานั้นเป็นยิ่งกว่าคำขอร้องใดๆ จากปากของชายหนุ่มผู้ทรนงอย่างอีริค
ชาร์ลส์นิ่งมองวงหน้าคมคายนั้น…นัยน์ตาสีน้ำเงินเจือไปด้วยความปวดร้าว เสียงนุ่มนวลเอ่ยแผ่วเบา
“ฉันขอโทษ อีริค…ฉันบอกนายไม่ได้”
“เพราะอะไรกัน?! เป็นเพราะฉันยังไม่ได้ตอบคำถามของนายงั้นหรือ?!!” เสียงทุ้มตวาดออกมาอย่างหมดความอดทน “ได้…ถ้านายอยากรู้นักก็ตามใจ!! ฉันฝัน ชาร์ลส์…ฉันฝันว่าฉันฆ่านาย!”
อีริคหอบหายใจ…ทุกสิ่งทุกอย่างพร่างพรูออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
“นายโดนกระสุนเพราะฉัน…ฉันรับนายเอาไว้ได้ แต่ก็สายไปแล้ว” นัยน์ตาสีเทาฉายแววเจ็บปวดอย่างที่ชาร์ลส์ไม่เคยเห็นมาก่อน “นายกำลังจะตาย…นายพูดซ้ำไปซ้ำมาว่าฉันเป็นคนฆ่านาย…”
มือใหญ่ที่รวบข้อมือเขาไว้คลายออก…เลื่อนมาไล้ผิวแก้มของร่างบนเตียงแผ่วเบา
“นายเกลียดฉัน ชาร์ลส์…ถึงฉันจะรู้ว่ามันเป็นความฝัน แต่มันก็ทำให้ฉันแทบบ้า”
ชายหนุ่มผมดำนิ่งงันกับสิ่งที่ได้รับรู้…เข้าใจในทันใดว่าทำไมอีริคถึงได้เข้ามาตอนกลางดึกทุกคืน นั่นก็เพียงเพื่อจะได้ยืนยันกับตัวเองว่าเขายังมีลมหายใจ…ยังชีวิตอยู่ในอ้อมแขนของตน
“สบายใจเถอะ อีริค” เสียงอ่อนโยนพูด “ฉันยังอยู่ตรงนี้กับนาย…และต่อให้นายจะฆ่าฉัน ฉันก็ไม่มีวันเกลียดนาย”
“ทำไม…?” ชายหนุ่มผมน้ำตาลยังคงรุกไล่จะเอาเหตุผล…คำถามที่ทำให้นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มมองสบ ความเจ็บปวดฉายชัด
“ฉันบอกนายไม่ได้ อีริค…” เสียงนุ่มกระซิบ ถ้อยคำขาดห้วงไม่ปะติดปะต่อ “ฉันรู้…นายกับเรเวน…เพราะอย่างนั้น ฉันพูดออกไปไม่ได้หรอก…”
สีแซฟไฟร์นั้นเจือแววโศกเศร้าราวกับเจ้าของกำลังหลั่งน้ำตา
“นายเป็นคนเดียวที่รู้เสมอว่าฉันคิดอะไร อีริค…จนฉันสงสัย…ว่านายไม่รู้จริงๆ หรือว่าฉันจะตอบว่าเพราะอะไร?”
ชายหนุ่มผมน้ำตาลนิ่งงันไปกับสิ่งที่ได้ฟัง ก่อนที่จะหลุดยิ้มมุมปากออกมา มือหนาสางปอยผมสีดำที่ปรกวงหน้าขาวตรงหน้าออกเบาๆ
“ชาร์ลส์ ในหัวนายนี่มีแต่ความคิดจริงๆ…ทั้งความคิดของตัวเองแล้วก็ที่มาคิดแทนฉัน” เสียงทุ้มกล่าวอย่างระอา…หากอ่อนโยน “ฉันชื่นชมสิ่งที่เรเวนมี…ก็แค่นั้นเอง”
ชาร์ลส์นิ่งฟัง…ความงุนงงฉายชัดบนใบหน้า
“อย่างน้อยนายก็พูดจริงเรื่องที่ไม่ได้อ่านใจฉัน” วงหน้าคมคายขยับยิ้ม “เพราะถ้านายทำ…นายคงรู้ไปแล้วว่าในหัวฉันน่ะมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับนาย ฉันเอาแต่คิดถึงนายจนตัวฉันเองยังรู้สึกหงุดหงิดเลยรู้ไหม?”
นัยน์ตาสีน้ำเงินกระพริบปริบๆ อย่างประหลาดใจ…หากผิวแก้มที่ขึ้นสีเรื่อบอกอีริคว่าคนฟังกำลังปะติดปะต่อเรื่องได้เองแล้ว เสียงทุ้มจึงเอ่ยประโยคสุดท้ายออกไป
“ในเมื่อนายชอบมาคิดแทนฉันนัก…งั้นก็ช่วยคิดทีละกัน ว่าฉันกำลังรู้สึกยังไงกับนายกันแน่?”
ร่างสมส่วนรีบผลุดลุกขึ้นนั่ง หากก็ไปไหนได้ไม่ไกล…แผ่นหลังเบียดเข้ากับหัวเตียงและท่อนแขนแข็งแรงของชายหนุ่มผมน้ำตาลก็กางกั้นเขาไว้ทั้งสองทาง ใบหน้าหล่อเหลาที่เข้ามาชิดนั้นทำให้คนที่เยือกเย็นอยู่เสมอคิดอะไรไม่ออก…ไม่มีคำพูดใดหลุดลอดออกมาจากเรียวปากบาง
หากคนที่รุกถามมาตลอดก็ไม่คิดรอคำตอบแล้ว…มือแกร่งเชยคางเรียวไว้ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้าใกล้ ชาร์ลส์ขืนตัวออกห่าง เสียงนุ่มพูดรัวเร็ว
“ไม่ได้…อีริค นายทำแบบนี้ไม่ได้…นายจูบเรเวน และเรเวนก็ชอบนาย…เพราะงั้น…”
“นายเป็นห่วงทุกคน ชาร์ลส์…และก็คิดถึงความสุขของคนอื่นเสมอ” เสียงทุ้มพูดอ่อนโยน “จนบางครั้ง…ฉันก็รู้สึกว่านายลืมที่จะคิดถึงตัวเอง”
มืออบอุ่นรั้งร่างสมส่วนเข้ามากอดไว้
“ชาร์ลส์…ตอนนี้ไม่มีใครอื่น มีแค่ฉันกับนายเท่านั้น” เสียงกระซิบข้างหูอ่อนหวานนักในใจคนฟัง “ถ้านายอยากให้ฉันไป…ฉันก็จะไป แค่บอกฉันมา…บอกฉันมาว่านายต้องการอะไร”
ชาร์ลส์ผละตัวออกจากอ้อมกอด จ้องลึกไปในดวงตาสีเทาเข้ม…เนิ่นนาน ก่อนที่เสียงนุ่มจะกระซิบแผ่วเบา
“ได้โปรด…อยู่กับฉัน อีริค”
นัยน์ตาสีน้ำเงินหลับลงเมื่อริมฝีปากของตนถูกทาบทับ…จูบนุ่มนวลหากก็ทำให้ใจเต้นรัว ร่างสมส่วนเกร็งเมื่อเรียวปากไล้เรื่อยลงมาที่ต้นคอ…ทิ้งสัมผัสอุ่นๆ ไว้บนผิวเปลือยเปล่า แผ่นอกบางสัมผัสได้ถึงไอเย็นในอากาศเมื่อมือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อนอนของเขาออกจนหมด…ผิวขาวจัดนั้นดูนุ่มนวลกลางแสงจันทร์
อีริคไล้มือไปบนแผ่นอกของอีกฝ่าย…ริมฝีปากประทับรอยสีกุหลาบบนผิวสีน้ำนม นัยน์ตาสีเทาเหลือบขึ้นมอง…ก่อนจะก้มลงจุมพิตริมผีปากสีเรื่อ แขนเรียวของอีกฝ่ายที่โอบรอบคอเขาไว้หลวมๆ ราวไม่แน่ใจทำให้เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น จูบลึกล้ำทำให้ร่างสมส่วนหอบหายใจแผ่วเบา…หากชัดเจนในความเงียบงัน
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มมองชายหนุ่มตรงหน้า…แววเว้าวอนฉายชัดในสีแซฟไฟร์พริบพราวนั้น
มือใหญ่เลื่อนลงต่ำ…มอบสัมผัสลึกล้ำให้กับร่างในอ้อมแขน มือเรียวของอีกฝ่ายจิกแน่นบนไหล่หนายามความเจ็บปวดชำแรกเข้ามา อีริคจุมพิตที่ข้างหู…รู้สึกได้ถึงความเกร็งขึงของชายหนุ่มผมดำที่ค่อยๆ หลอมละลาย เสียงนุ่มนวลร้องครางแผ่วเบาเมื่อเขาแทรกกายเข้าไป…ก่อนที่เสียงร้องแว่วหวานจะถูกเปล่งออกมายามที่อารมณ์ทั้งหมดนั้นมากมายเกินจะต้านทาน
อีริคปัดผมสีดำที่ตกลงมาปรกใบหน้าออกให้…ก่อนจะจูบหน้าผากของร่างในอ้อมแขน ชาร์ลส์ขยับยิ้มนุ่มนวลเหมือนทุกทีก่อนจะหยัดตัวขึ้นจุมพิตริมฝีปากของอีกฝ่ายเบาๆ
นัยน์ตาสีน้ำเงินที่ฉายแววอ่อนหวานในแสงจันทร์นั้นเป็นดั่งภาพฝันแสนงดงามที่อีริคไม่มีวันลืม
tbc.
ชอบฉากนั้นเหมือนกันเลย หลั่งน้ำตาทุกคนั้งที่ได้เห็น คือแบบสายตาที่เขาทองกันทันถ่ายทอดหลายๆ คำพูดอ่ะ (ว่าไปนั่น) 5555555
โอยยยยย ชอบอ่ะ ทำไงดี ชอบคู่นี้จริงๆ ฟินนนนน ขอบคุณที่เขียนออกมานะคะ
LikeLike
โอยยย พี่ทิพย์คะ ตอนนี้แบบ…หฟ่าดวกดดา่กหาด่กดห /ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว น้องตายไปแล้วค่ะ ตายไปตั้งแต่ตอนจูบกันแล้ว ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
LikeLike
ชอบมากเลยค่าาาชอบที่ไรเตอร์เขียนฉากเรทได้ดูโรแมนติกมากเลยค่ะ บรรยายได้รื่นไหลนุ่มนวล แสดงถึงความรักของเชริคได้เลยค่าา
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์แต่งคุ่นค้ออกมาเยอะๆนะค่ะ
ปล.ชอบคู่นี้มากตอนดูหนังตอนแรกนึกว่ามีเราจิ้นคนเดียวพออมาเจอฟิคไรเตอร์ นี้หละใช่เลยยยย55555
LikeLike
กรี้ดดดดดด…ดด //ร้องลั่นไปสามบ้าน
นึกว่าไม่มีเรท ดันมีซะงั้น (ม้วนเขิน)
หวานจรูงง😳
LikeLike
กรี๊สๆๆๆๆๆๆๆๆๆ //สครีมลั่นห้อง
มันคืออัลไลเนี่ยตอนหลัง5555555
รู้สึกอยากให้มีในหนัง#หืม?!?!
สนุกมั่กเลยค่ะ อะไรมันจะทั้งดราม่า ทั้งโรแมนติกขนาดนี้>////< //ดราม่าอย่า
เดียวจิงๆนะะะ
LikeLike
พี่ทิพย์คะ เห่ทห่ปทแาดมทก้กทกทมฟาฟกสสดใดมกาก่ก ตายแล้วค่ะ ตายยยฟฟฟฟฟฟหหกดา
//ขูดจอ
LikeLike
“ได้โปรด…อยู่กับฉัน อีริค” กว่าจะเรียงออกมาเป็นคำพูดได้นะ ^_^
ตอนท้ายนี่อีริคฝากรอยรักไว้เป็นที่ระลึกเต็มที่สินะ
LikeLike
Please Stay by my side //นึกภาพ
นี่คือเหตุการณ์หลังจากที่ทุกคนหลับไปแล้วในคืนสุดท้ายก่อนโกทูคิวบาสินะคะ
หึหึ หุหุ
LikeLike
ฮึ้ยยยยยย ตอนนี้ฟินมากฮออลลลล
ตอนที่พูดว่า “ได้โปรด…อยู่กับฉัน อีริค”(/ก็อปแปะเรย) แล้วอีริคก็รุกเลย /เอื้ออ
อีริครุกได้จังหวะมากๆค่ะฟฟฟฟฟฟฟ นึกภาพตามออกเลยก๊าาาาก///// /เขินแพ๊พ
ก่อนหน้านั้นตอนชาร์ลส์รู้ความจริงนี่ก็แบบฟหกดฟหกดหทกทกากา
เขินใช่มั๊ยล่ะะะ ดีใจล่ะสิยยย ฮรึ้ยยยยยย /////
เวลาสองคนนี้กอดกันบ่อยๆคนอ่านยังรู้สึกอบอุ่นไปด้วยเลย แต่งได้อบอุ่นมากๆค่ะแงงง ,,- -,,
/ตอนสามมฟฟฟฟฟ
LikeLike
“ต่อให้นายจะทำร้ายฉันหรือฆ่าฉันก็ตาม…ฉันก็จะไม่เกลียดนายแน่นอน”
T T
ฉากที่เอริคจูบเรเวนนี่ร้องไห้แทนชาร์ลส์เลย คิดอยู่เหมือนกันว่าชาร์ลส์จะรู้มั้ยเรื่องที่เรเวนไปหาเอริคคืนนั้น หรือชารลส์อาจจะเพิ่งได้อ่านความคิดของเรเวนตอนที่โดนยิงที่ชายหาดก็ได้
แล้วตอนนั้นเอริคจูบเรเวนด้วยความรู้สึกแบบไหนกันแน่?
LikeLike
วู้ฮู้
ตอนหนึ่งยังไม่เม้น มาเม้นให้ตอนสองก่อน//โดนตบ
เอื้อกกก ตอนนี้มีฉากเรทที่ไม่คิดว่าจะมีด้วยค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
สงสารชาร์ลส์เหมือนกันที่ไม่อยากเกินเลยกับอีริคเพราะเรเวน (แต่เราไม่ได้เกลียดเรเวนนะคะ) อารมณ์ชาร์ลส์แบบฉันก็รักนายนะ แต่น้องสาวฉันก็รักนายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันยอมถอยดีกว่า อะไรประมานนี้ค่ะ
สรุปแล้วตอนนี้หวานมากๆเลยค่ะ
LikeLike
ฟหกดเ้่่่าสวว กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คือหนูกำลังฟังเพลงOur first time ของ Brono Mars อยู่ด้วยยยย
ดิ้นจะตกเก้าอี้แล้วค่ะะะ ฮือออออออออออออออ;////////////////////////;
อีริคช่างเป็นคนที่แบบบ ต้านทานไม่ได้จริงๆ นิ่งๆ ยิ้มนิดๆ////////////
ถ้าเป็นชาร์ลส์ คงระทวยไปกองกับเตียงก่อนแล้วแน่ๆค่ะ////////
LikeLike
แมร่มมมมมมมมมมมมมม กริ๊ดกร๊าดวี๊ดว้ายอยู่คนเดียวในห้องแล้วตอนนี้ >O< หวานได้อีกๆๆ
LikeLike
มีความหึงฉากที่อีริคกับเรเวนค่ะ โกรธแทนชาร์ลเบาๆ (เอ๊ะ) รักที่เค้าเคลียร์กันในฟิคเรื่องนี้ รักที่อีริคเลือกชาร์ล รักจูบนั้น รักความอบอุ่นในบรรยากาศที่ลอยฟรุ้งฟริ้งเต็มไปหมดเลยค่ะ
“โด้โปรด…อยู่กับฉัน อีริค”
ตายค่ะจุดนี้ คำพูดสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความหมายว่าเลือกแล้วคนนี้ต่อให้อนาคตจะโดนยิงข้างหลังทะลุถึงไหนก็ช่างมันขอแค่มีกันและกัน มีนาย มีเรา อาจจะคิดไม่เหมือนกันบ้างก็ไม่เป็นไร ชาร์ลเลือกผู้ชายคนนี้แล้ว /บรรเลงเพลงคู่ชีวิต โอย เขิน
LikeLike
เราว่ามันซับซ้อนเหมือนจะรัพแต่มันก็ไม่สุดเพราะชาร์ลสรู้ว่ามันผิด (โดยเฉพาะต่อเรเวน) แต่มีฉากฮีโรติกด้วย แอร้ยยย >__<
LikeLike