[The Hobbit Fic][RichardMartin] A Bloody Orange Box

 
 
A Bloody Orange Box

RichardMartin fanfiction by Tippuri~ii *

 

 
 

 

Pairing: Richard Armitage x Martin Freeman


 
 

 * แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *

 

 

 

 REMARK: คำหยาบเยอะหน่อยนะคะ ฟรีแมนชอบสบถเหลือเกินฟฟฟฟฟ

 

 

*****************************

 

 

 

              

 

“คัท!!”

              

 

 

 

 

ทุกคนถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินคำนี้…ก่อนที่บรรดานักแสดงจะเริ่มเดินออกไปจากฉาก บ่นปนหัวเราะกับเครื่องแต่งกายที่เต็มไปด้วยเฟอร์และแผ่นเกราะของพวกตน เสียงขอบคุณเซ็งแซ่ถูกแลกเปลี่ยน…ทั้งจากทีมงานที่ได้ฉากดีๆ แบบที่ต้องการและจากบรรดานักแสดงที่ได้รับน้ำดื่มและการพัดให้คลายร้อน

              

 

 

 

 

ริชาร์ด อาร์มิเทจบิดขี้เกียจ…หนักอึ้งไปทั้งตัวด้วยวิกผมและเครื่องแต่งกาย ฉากที่เพิ่งถ่ายสำเร็จไปคือฉากที่เหล่าคนแคระทานอาหารเย็นที่แบ็กเอนด์และธอรินตามมาเป็นคนสุดท้าย…อากาศค่อนข้างอบอ้าวเลยทีเดียวเพราะต้องถ่ายภายในอาคารแคบๆ แถมเขาก็อยู่ในชุดเกราะเต็มยศแบบนี้

           

 

 

 

 

รองจากมิสเตอร์แมคเคลเลน…คนที่น่าอิจฉาถัดมาก็คงเป็นมาร์ตินนี่แหละ…

              

 

 

 

 

เขามองคนที่ยืนอยู่ข้างตัว…บิลโบ แบ็กกินส์แต่งตัวด้วยชุดง่ายๆ ตามแบบฮอบบิททั่วไป นั่นจึงทำให้คนแสดงดูจะไม่ต้องมาทุกข์ร้อนอะไรกับสภาพอากาศเลย หากริชาร์ดไม่ได้รู้ว่าถึงจะได้แต่งตัวสบายกว่าคนอื่น…มาร์ติน ฟรีแมนเองก็มีเรื่องให้งุ่นง่านใจเช่นเดียวกัน

              

 

 

 

 

“ให้ตายเถอะ…นี่มันโคตรน่าอาย อย่าให้รู้เชียวนะว่าไอ้เลวหน้าไหนจะถ่ายรูปไอ้ลังเวรตะไลนี่ไปลงในวีดีโอเบื้องหลัง…”

              

 

 

 

 

คำสบถยาวเหยียดตามนิสัยของคนตัวเล็ก…ยืนย่ำๆ เท้าอย่างโมโหบนลังไม้ เจ้าลังนี่ถูกใช้บรรจุส้มมาให้คนในกองถ่ายทานในวันแรกที่เปิดกล้อง และสุดท้ายก็ได้รับเกียรติให้มาอยู่ในการถ่ายทำด้วยเพราะความสูงของมาร์ตินไม่ถึงมุมกล้องอย่างที่คิดไว้ในทีแรกแล้วเจ้าลังนี่ก็ทำให้ทุกอย่างพอดีเป๊ะจนคุณผู้กำกับสั่งให้เก็บมันไว้

           

 

 

 

 

น่าเจ็บใจชะมัด…ทำไมเขาไม่เกิดมาสูงเท่าริชาร์ดนะ…

              

 

 

 

 

มาร์ตินแอบมองคนตรงหน้า…ถึงจะรับบทหัวหน้าคณะเดินทาง แต่ริชาร์ด อาร์มิเทจตัวจริงนั้นห่างไกลคำว่า ‘คนแคระ’ เป็นร้อยเท่า ส่วนสูงน่าอิจฉานั่นทำให้เหล่าทีมงานต้องทำงานหนักในการออกแบบมุมกล้อง…ถึงมาร์ตินเองจะได้รับการเอาใจใส่ที่ไม่ต่างกัน แต่อย่างน้อยริชาร์ดก็ไม่ต้องมายืนบนลังส้มบ้าๆ ให้รู้สึกเจ็บใจกับชีวิตแบบเขาตอนนี้

           

 

 

 

 

ฮึ่มมมมมมมมม…โคตรน่าโมโหจริงๆ เลย!!!

              

 

 

 

 

ริชาร์ดมองคนที่ขมวดคิ้วราวกับโกรธอะไรอยู่พร้อมกำลังกระทืบเท้าโครมๆ ใส่ลังส้ม…งงนิดหน่อยแต่ก็เป็นห่วงมากกว่า เลยถามด้วยเสียงใส่ใจ

              

 

 

 

 

“มาร์ติน…คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

              

 

 

 

 

“ไม่เลย! ไม่มีอะไร!” คำพูดไม่ชวนให้เชื่อสักนิดเพราะคนพูดยังคงทำหน้ามู่ทู่พร้อมย่ำเท้า “มันก็แค่…ไอ้ลังบัดซบนี่…”

              

 

 

 

 

ริชาร์ดมองอย่างงงยิ่งกว่าเก่า…พยายามคิดหาข้อสรุปเองว่าทำไมอีกฝ่ายถึงอารมณ์เสีย ก่อนจะลงตัวที่ความคิดคนละเรื่องตามประสาคนมองโลกในแง่ดี…ริชาร์ดพิจารณา ถึงลังส้มนี่สูงพอใช้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเดินลงมาเองไม่ได้ หากการเคลื่อนไหวก็ยังอาจจะลำบากเพราะมาร์ตินต้องแต่งเท้าให้เหมือนฮอบบิท ชายหนุ่มจึงก้าวเข้าไปใกล้อย่างหวังดี

              

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรๆ…เดี๋ยวผมช่วยนะ”

              

 

 

 

 

ก่อนที่มาร์ตินจะทันได้ถามว่าช่วยอะไร…แขนแข็งแรงของริชาร์ดก็โอบมารอบตัว เขาโดนอุ้มขึ้นจนลอยหวือลงมายืนบนพื้น…ยังคงกระพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะค่อยๆ หน้าแดงขึ้นช้าๆ…ทั้งเจ็บใจทั้งเขินไปพร้อมๆ กัน

           

 

 

 

 

ให้ตาย…นี่…นี่ริชาร์ดคิดว่าเขาเตี้ยจนเดินลงมาจากไอ้ลังส้มโง่ๆ นี่เองไม่ได้เรอะ??!!

              

 

 

 

 

“โอเคไหม?” คนตัวสูงก้มถาม เอามือจับๆ เสื้อที่ยับของคนตรงหน้าให้กลับมาเรียบดังเดิม “คุณคงเดินลำบากสินะ…วันหลังบอกผมตรงๆ ก็ได้”

              

 

 

 

 

“ฉันลงมาเองได้!!” มาร์ตินโวย ก่อนจะหันไปเตะลังไม้ดังตุ้บ “แต่ฉันแค่หงุดหงิด! ไอ้ลังงี่เง่านี่…แม่งโคตรตอกย้ำเลย!! ทุเรศชะมัด!!!”

              

 

 

 

 

“โอ…” ริชาร์ดกระพริบตา เขาค่อนข้างชินแล้วกับคำสบถอันมากมายของอีกฝ่าย…แต่ไม่เคยเห็นมาร์ตินโมโหแบบนี้มาก่อน จึงพยายามคิดหาคำพูดมาปลอบใจ “ไม่หรอกนะ…ผมว่าไม่มีใครคิดมากหรอก”

              

 

 

 

 

“แต่ฉันคิด!” คนที่กำลังอารมณ์เสียทำเสียงฟึดฟัด ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงงุ่นง่านเสียใจแผ่วเบา  “ฉันเกลียดชะมัด…ทำไมฉันต้องสูงแค่นี้นะ…”

              

 

 

 

 

ริชาร์ดมองคนหน้าเศร้า…ตบบ่าเบาๆ พร้อมพูดปลอบต่อ

              

 

 

 

 

“แต่ผมว่าคุณก็ดูดีแล้วนะ” รอยยิ้มอบอุ่นถูกระบายบนเรียวปาก หวังจะทำให้คนมองสบายใจ “สูงเท่านี้ก็ดีแล้วนี่ ผมน่ะจะดีใจมากเลยนะถ้ามีแฟนตัวเท่าคุณ…เวลากอดคงน่ารักดี”

              

 

 

 

 

มาร์ตินขมวดคิ้วใหม่กับประโยคหลัง…หากสาเหตุไม่ใช่เพราะหงุดหงิดแล้ว เขากำลังไม่มั่นใจว่าตัวเองได้ยินผิดไปไหม…แต่สีหน้าชะงักค้างของคนพูดก็บอกให้รู้ว่ามันถูกต้องทุกคำ ส่วนริชาร์ดเองก็อยากเตะตัวเองนัก…คำพูดบ้าๆ นี่ชวนให้คิดมากแล้วมันก็ไม่ดีเลย

           

 

 

 

 

แถมหัวใจก็ดันมาเต้นแรงไปด้วยอีก…บ้าชะมัด!!

              

 

 

 

 

“โอเค…”

              

 

 

 

 

มาร์ตินตัดสินใจทำลายความเงียบชวนเขินนี่…ทำให้ริชาร์ดพยักหน้าตาม ชายหนุ่มพึมพำแผ่วเบาว่าดีใจที่อีกฝ่ายสบายใจขึ้น…ด่าตัวเองในหัวรัวๆ ว่านี่มันไม่เท่เลยสักนิดเดียว

           

 

 

 

 

ริชาร์ด คริสปิน อาร์มิเทจ…นายมันงี่เง่าที่สุด

              

 

 

 

 

หากเพราะกำลังสวดตัวเองเสียยับอยู่ในใจแบบนี้นี่เองที่ทำให้ริชาร์ดไม่ได้สนใจคนตรงหน้า…ชายหนุ่มจึงประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาใกล้ ยกแขนสั้นๆ ขึ้นกอดเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอยออกมายืน

              

 

 

 

 

“ขอบคุณมากที่…เอ่อ…ช่วยให้กำลังใจ แล้วก็…แล้วก็…นี่ฉันให้ตัวอย่างการกอดเอาไว้ เผื่อนายจะคิดว่ามันไม่ได้น่ารักแล้วก็เปลี่ยนใจอยากได้แฟนตัวสูงกว่านี้…”

              

 

 

 

 

มาร์ตินก้มหน้างุดก็จริง…แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวกำลังหน้าแดง แถมประโยคยาวเหยียดนั่นก็ถูกพูดอย่างเร็วปรื๋อราวกับคนพูดพยายามซ่อนความเขิน ส่วนริชาร์ดก็ยังคงพูดไม่ออก…เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสรุปบทสนทนานี้ลงดื้อๆ

              

 

 

 

 

“เออๆ…แค่นี้แหละ บาย”

              

 

 

 

 

ร่างเล็กจ้ำตุ้บตั้บจากไปทันทีราวกับจะหนี…ซึ่งริชาร์ดเองก็ไม่ได้คิดจะไล่ตามเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ เขากำลังหัวใจเต้นแรงเกินกว่าจะพูดจาได้รู้เรื่องแล้วในวินาทีนี้ ชายหนุ่มพยายามสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกสติ…แต่ก็เหลือบตาไปเห็นลังส้มลังเก่าที่เป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมด จึงเม้มริมฝีปากแน่น…เขินมากกว่าเดิม

           

 

 

 

 

มาร์ติน ฟรีแมน…นี่คงไม่ได้รู้ตัวเลยใช่ไหมว่ายิ่งทำให้เขามั่นใจว่าแฟนตัวเล็กๆ น่ะน่ารักกว่าชัดๆ…?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Fin.

 

************************************** 

 

 

ไฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮอ /แจกส้มทั่วทิศ

 

 

 

อย่าถือสาหาเหตุผลใดกับฟิคนี้…เพราะทิพย์ไม่มีให้ /ทำหน้าเท่ //โดนเตะ มันเกิดขึ้นแค่เพราะว่าวันก่อนทิพย์ดูฮอบบิทแบบซูมอีกรอบ…แล้วก็ฮาไม่หายกับฉาก “เจ้าชายเจอยัยร้านชำพ่อค้าโชห่วย” ค่ะ คือในเรื่องบิลโบตัวเตี้ยกว่าธอรินนิดนุง แต่ตัวจริง ฟรีแมนโคตรเตี้ยกว่าอาร์มิเทจเลยค่ะเคร๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฮ่กแฮ่ก โมเอะนัก แล้วทิพย์ก็คิดต่อค่ะว่า ตอนถ่ายทำเขาจะทำยังไงนะ จบลงที่การเดาว่ามาร์ตินคงยืนบนลังส้มแหงเลยก้ากกกกกก

 

 

 

…แต่ทำไมต้องลังส้มก็ไม่รู้ สงสัยตอนนั้นคงอยากกินเองอยู่ O<-<

 

 

 

เลยออกมาเป็นฟิคบ้าๆบอๆเรื่องนี้ค่ะ สั้นจิ๊ดเดียวเองด้วย อ่านเล่นๆเอามันส์ละกันนะคะ

 

 

 

 

ไปละ!

 

 

 

ทิพย์เอง

 

 

 

              

8 responses to “[The Hobbit Fic][RichardMartin] A Bloody Orange Box

  1. โหหหห น่ารักอ่ะ
    เค้าก็อยากได้แฟนตัวสูงๆเหมือนกันนะ
    แง่ง~ขอลาไปกินส้มก่อนนะฮะ

    Like

  2. นั่งยิ้มค้างกับฟิค.. -กัดผ้าสครีม-
    อะไรนะงอแงขี้โวยวาย โมเอะอะไรขนาดนั้นคะมาร์ติน ส่วนคุณริชนี่ก็พูดซะทำให้มาร์ตินเขิน
    ทำซะอยากกินส้มเชียวค่ะ เอ่อะ..

    Like

  3. น่ารักมุ้งมิ้ง แบบว่าขี้โวยเขินง่าย โฮฮฮฮฮ~ อยากวิ่งไปฟัด

    Like

  4. โอ้ยยยยย พ่อริชาร์ดดดด นายยยย พูดอะไรแบบนั้น อีกฝ่ายเขาเขินตายแล้วนะะ
    ฟรีแมนก็เหมือนกานนน ยืนบนลังส้ม แงงงง น่ารักไปแล้วนะ !

    Like

  5. อ่า ธอริน ที่ใจใส่และ เป็นสุภาพบุรุษ โอ๊ยยย นึกภาพแล้วมันมุ้งมิ้งมากกกก //ลังส้มสุโค่ย!

    Like

  6. น่ารักกกกกก เขินแทนทั้งคู่เลยค่ะ///บิดตัวไปมา
    สูงขนาดนี้น่ารักแล้วค่ะมาร์ตินนนนนน สูงขนาดนี้น่ารักน่ากอดดีออกน้าาาา
    ทั้งคู่อย่าพยายามทำตัวน่ารักใส่กันสิคะ ตามกรี๊ดไม่ทัน งื้อออออ
    อะไรจะเขินได้ขนาดนี้ >< ฟิคพี่ทิพย์น่ารักมากจริงค่ะ
    รู้สึกอยากอ่านริชาร์ดกะมาร์ตินเหมือนกัน(ห๊า?) นั่งดูไปดูมาก็อยากชิพคู่นี้ด้วยค่ะ(ฮา)

    Like

Leave a reply to บางทีแม็คก็คิดนะ.... (@FunkyJangle) Cancel reply