[RichardLee] A Brighter Word Than Bright, A Fairer Word Than Fair (3)

 
 
 
A Brighter Word Than Bright, A Fairer Word Than Fair

RichardLee fanfiction by Tippuri~ii *

  

 

 

 

 

 

Pairing: Richard Armitage x Lee Pace

Type: AU Fanfiction

 

 

 

 

 * แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ * 


 


 

 

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
 
 

Where love is great, the littlest doubts are fear;

When little fears grow great, great love grows there.

 
— Hamlet, Act III, Sc. II  
 
 
 
 
 
*****
 
 
 

 
 
Chapter 3
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

วลีว่า ‘เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก’ ยังคงเป็นจริงเสมอ…และสำหรับอาชีพที่มีงานยุ่งให้สะสางทุกวันอย่างคนเป็นครูลีจึงพบว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลาของเขาในโรงเรียนมิดเดิ้ลเอิร์ธไฮนี้ผ่านไปจวนจะครบสองเดือนแล้ว

 

 

 

 

 

ถึงอดัม ดีน และไอเดนเองก็ยุ่งไม่แพ้กัน…แต่นั่นก็ไม่เท่ากับชายหนุ่มผมน้ำตาลอยู่ดี เพราะเกรดสิบที่เขารับผิดชอบอยู่นั้นจะต้องมีสอบย่อยพิเศษขึ้นมาตามประสาระดับชั้นที่ต้องกวดขันเพื่อเตรียมตัวสำหรับสอบระดับประเทศตอนจบปีการศึกษา ลีผู้ต้องออกข้อสอบเป็นครั้งแรกในชีวิตจึงกังวลปนกดดันตามประสามือใหม่…ส่งผลให้ชายหนุ่มยิ่งทุ่มเทหาข้อมูลมากกว่าเดิม และในขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสอนให้เนื้อหาจบทันตามที่กำหนดไว้ด้วย

 

 

 

 

 

และถึงเพื่อนๆ จะไม่ต้องมาเดือดร้อนในจุดนี้ด้วยเพราะชั้นเรียนของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องมีการสอบย่อย…แต่ทั้งสามต่างก็ไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเท่าที่ช่วยได้และคอยแนะนำในจุดที่ตนรู้ หากเมื่อลีร่างข้อสอบออกมาและแก้แล้วแก้อีกจนคิดว่าลงตัวได้แล้วสองชุด…ไอเดน ดีน และอดัมก็พูดตรงๆ ว่าพวกตนไม่กล้าช่วยตัดสินใจว่าจะใช้ชุดไหนดี

 

 

 

 

 

“พวกเราก็ไม่ใช่มือโปรอ่ะลี” ทั้งสามพูดจ๋อยๆ หลังนั่งเงียบอยู่สักพักในร้านกาแฟแถวโรงเรียน สถานที่ที่เพื่อนๆ บอกลีว่าเป็นจุดประจำสำหรับครูๆ ที่จะมาคุยกันเรื่องข้อสอบให้พ้นหูพ้นตานักเรียน “ถ้าถามพวกเรามันก็ใช้ได้หมดนะ แต่ก็วัดไม่ได้ป่ะ…เพราะเราเป็นครูนี่นา แต่สำหรับเด็กนี่สิ…”

 

 

 

 

 

ทุกคนดูลำบากใจที่จะปฏิเสธตามตรงแบบนี้ แต่ลีก็เข้าใจ…เพราะข้อสอบที่ยากหรือง่ายเกินไปย่อมไม่ให้ผลดีกับคนที่ควรได้รับอย่างนักเรียน วงหน้าที่ก้มหงอยๆ ของน้องใหม่ทำให้พี่กลางทั้งสามส่งสายตาให้กัน…สถานการณ์แบบนี้ทำให้รู้สึกผิดได้เสมออยู่แล้ว แต่สำหรับสถานการณ์แบบนี้ที่อีกฝ่ายคือลี กรินเนอร์ เพซแล้ว…ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นแย่กว่าเผลอพลั้งมือแกล้งกระต่ายเกินไปจนมันห่อตัวอย่างเศร้าหงอยเสียอีก(แม้ว่าในกรณีนี้กระต่ายจะตัวสูงเกือบสองเมตรก็ตาม)

 

 

 

 

 

“อย่าทำหน้างั้นดิลี…นายทำดีแล้ว…”

 

 

 

 

 

“อีกแค่นิดเดียวก็จบแล้วเนี่ย…อย่าเพิ่งท้อสิ…”

 

 

 

 

 

คู่รักบ่อเป็ดเริ่มต้นประสานเสียงคำปลอบใจ ส่วนอดัมก็หยิบกระดาษข้อสอบสองชุดมาอ่าน…แบ่งอีกมือที่ว่างอยู่ไปตบๆ แขนของลีแปะๆ เบาๆ อย่างให้กำลังใจ ก่อนจะนั่งหลังตรงขึ้นมา…ร้องโอ๊ยอย่างเจ็บใจกับความพลาดของทุกคน

 

 

 

 

 

“ให้ตาย…!” หนุ่มตัวเล็กสบถแล้วหันมาสบตาเพื่อนสามคน “…แล้วทำไมไม่ไปถามริชาร์ดล่ะ??”

 

 

 

 

 

สีหน้ากระต่ายหงอยของลีเปลี่ยนเป็นความอึกอักปกติของเจ้าตัวทันที “ระ ริชาร์ดเหรอ…ไม่ดีมั้ง…เขาก็ยุ่งอยู่นะ…”

 

 

 

 

 

และไม่ใช่ยุ่งธรรมดาด้วย…ต้องยุ่งมากๆ เลยล่ะ… 

 

 

 

 

 

เช่นเดียวกับลี…คุณหัวหน้าแผนกที่สอนสองระดับชั้นโตสุดก็ต้องรับผิดชอบการเตรียมข้อสอบย่อยให้เด็กเกรดสิบสองที่ก็จะต้องมีสอบระดับประเทศเหมือนกัน เนื้อหาในเกรดเก้ากับสิบและในสิบเอ็ดกับสิบสองนั้นต่อกันเพราะต่างก็ใช้หนังสือแค่ชุดเดียว…แต่ระบบการศึกษาที่พวกเขาต้องยึดตามในการออกข้อสอบนั้นแตกต่าง ข้อสอบของลียังพอใจดีอยู่บ้างตรงที่มีคำถามสั้นๆ ไปจนถึงถามแค่ว่าตัวละครกำลังทำอะไรอยู่ในองก์หรือบทกลอนนั้นๆ…แต่สำหรับเกรดสิบสองแล้ว ข้อสอบที่ริชาร์ดต้องออกจะเป็นแค่เรียงความล้วนๆ เท่านั้น ฟังแล้วเหมือนง่ายดายเพราะคำถามก็เป็นแค่หัวข้อที่แค่ต้องกระชับจนไม่เป็นการบอกใบ้มากเกินไป…แต่ในทางกลับกัน มันก็ต้องแจกแจงถึงสิ่งที่ต้องการให้นักเรียนบรรยายมากพอด้วย แล้วไหนจะการต้องเลือกอีกว่าหัวข้อแบบไหนที่จะทำให้วัดได้ว่านักเรียนเข้าใจเนื้อหาที่สอนไปจริงๆ

 

 

 

 

 

แล้วนี่ยังไม่ได้พูดถึงข้อสอบไวยากรณ์อีกฉบับด้วยนะ… 

 

 

 

 

 

นั่นจึงทำให้ลีที่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีฉบับร่างของข้อสอบทั้งวิชาวรรณคดีและไวยากรณ์หมดแล้วไม่อยากไปกวนเวลาอันมีค่าของคุณหัวหน้าแผนกเลย เขาขยับจะบอกปัดคำเสนอของอดัมต่ออีก แต่ไอเดนก็พูดแทรก

 

 

 

 

 

“ไร้สาระน่า…ริชาร์ดน่ะเป็นพระเจ้าการออกข้อสอบรู้มั้ย เผลอๆ ตอนนี้เขานั่งซีรอกซ์รอแจกวันสอบแล้วมั้งเนี่ย” หนุ่มไอริชหัวเราะ ก่อนจะเลิกคิ้วถามลี “แล้วยังไงเขาก็ต้องดูข้อสอบนายก่อนใช้จริง…พวกเราต้องเอาข้อสอบให้หัวหน้าแผนกรับรองว่าผ่านก่อนถึงจะถือว่าโอเคนะ ไม่รู้เหรอ?”

 

 

 

 

 

“ว่าไม่ได้…พวกเราก็ลืมบอกไป…” ดีนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แบบเนียนๆ ราวกับไม่รู้เลยว่าแขนไอเดนพาดวางอยู่ตรงนั้น และก็ยังคงไม่รู้เลยจริงๆ ต่อไปตอนที่คุณแฟนจะขยับๆ แขนมาพาดบนไหล่ตนแทน “ฉันว่านี่มันโอเคหมดแล้วนะ…นายเอาไปให้ริชาร์ดเลือกเลยละกัน ถ้าต้องแก้เดี๋ยวเขาก็บอกมาเองแหละ”

 

 

 

 

 

นั่นจึงทำให้ลีหอบแฟ้มใส่ข้อสอบฉบับร่างมาตอนเช้าวันจันทร์…เขาจำได้แล้วจากตารางสอนของทุกระดับชั้นที่อดัมเขียนมาแปะไว้ตรงกระดานประกาศข่าวในห้องพักครูว่าริชาร์ดเองก็จะว่างคาบบ่ายตรงกับตนในวันนี้ จึงเป็นโอกาสเหมาะในการขอความเห็นจากอีกฝ่าย

 

 

 

 

 

มื้อกลางวันจบลงด้วยการที่เพื่อนทั้งสามก็แยกย้ายกันไปตามชั้นเรียนที่ตัวเองรับผิดชอบและลีที่นั่งรอในห้องพักครูให้คุณหัวหน้าแผนกกลับมาจากโรงอาหาร…ซึ่งชายหนุ่มผมน้ำตาลก็ใช้เวลาช่วงที่รอนี่แหละในการจัดแจงหยิบข้อสอบขึ้นมาอ่านทวนๆ อีกทีแม้ว่าจะจำได้ขึ้นใจแล้วก็ตาม

 

 

 

 

 

“อ้าว…ร่างเสร็จแล้วเหรอ?”

 

 

 

 

 

ลีแอบสะดุ้งกับเสียงทุ้มต่ำที่ทักถาม เอี้ยวคอไปมองด้านหลังและก็พบว่าจริงดังคาด…ริชาร์ดยืนชะโงกตัวนิดๆ ข้ามไหล่เขาที่นั่งอยู่เพื่อมามองกระดาษข้อสอบอย่างสนอกสนใจ ร่างสูงโปร่งผงกกลับไปยืนตัวตรงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลีหันหน้ามามอง

 

 

 

 

 

ชายหนุ่มผมน้ำตาลพยักหน้าตอบคำถามแรกนั้น เขยิบๆ เก้าอี้ให้หันไปหาอีกฝ่ายนิดๆ เพื่อจะได้คุยถนัดๆ “แต่มันก็เป็นฉบับทดลองทั้งคู่เลยน่ะนะ…ผมยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าโอเคไหม…”

 

 

 

 

 

ริชาร์ดเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะเอ่ยได้ก่อนที่จะได้ฟังเสียอีก…ร่างสูงเลยลากเก้าอี้ตัวข้างๆ มานั่งลง ลีแอบประหลาดใจกับความใกล้ชิดนี้…และยิ่งเขินชอบกลเมื่อคุณหัวหน้าแผนกยิ้มนุ่มๆ มาให้อย่างใจดีอีกแล้ว

 

 

 

 

 

“ไหน…ขอฉันดูหน่อยสิ”

 

 

 

 

 

ลีวุ่นวายกับการเรียงหน้ากระดาษให้เรียบร้อยก่อนจะส่งให้…ระยะเวลาสั้นๆ ที่เปิดโอกาสให้ริชาร์ดได้พับแขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของตนไปเหนือข้อศอก คำขอบคุณทุ้มต่ำสำเนียงบริติชดังขึ้นเมื่อคุณหัวหน้าแผนกรับข้อสอบไป…แล้วคลื่นความเงียบก็เติมเต็มห้องอีกครั้งระหว่างที่ชายหนุ่มผมดำอ่านแต่ละคำถามและคนร่างต้นฉบับนั่งรอความเห็น

 

 

 

 

 

ในความเงียบนี้เองที่ลีได้มีโอกาสมองคุณหัวหน้าแผนกแบบใกล้ๆ…แม้ว่าชายหนุ่มจะเตะตัวเองในใจให้หลุบตากลับลงไปจ้องโต๊ะ แต่สุดท้ายก็เผลอแอบๆ เงยหน้าขึ้นมามองคนข้างตัวจนได้อยู่ดี ริชาร์ดตอนกำลังอ่านแบบนี้ดูตั้งใจจดจ่อราวกับเจ้าตัวลืมโลกรอบด้านไปหมด…นัยน์ตาสีฟ้าซีดไล่เรื่อยไปตามบรรทัด มือข้างที่ว่างขยับไปเสยผมที่ปรกลงมาให้พ้นกลับไป…การเคลื่อนไหวเล็กน้อยเชื่องช้าที่ดูเป็นธรรมชาติและชวนมองเหลือเกิน และไรเคราบางๆ กับแขนเสื้อที่โดนพับขึ้นก็ยิ่งเสริมมาดสบายๆ นั้นเข้าไปอีก

 

 

 

 

 

หยุดจ้องสิเฮ้ยลี…หยุดจ้อง…หยุดจ้อง…หยุด…จ้อง…จ้อง…จ้อง… 

 

 

 

 

 

ลีดุตัวเองสลับกับสติหลุดไปหลายรอบจนกระทั่งริชาร์ดอ่านข้อสอบทั้งสองฉบับจนเสร็จ…ก่อนจะรีบขยับมานั่งหลังตรงอย่างตั้งใจเมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูด

 

 

 

 

 

“ฉันว่าโอเคทั้งสองฉบับนะ…แต่จะดีเลยถ้านายเอามันรวมกัน” กระดาษถูกพลิกไปมาเพื่อหาหน้าที่ต้องการ “อย่างฉบับบีเนี่ย…ข้อแรกนี่เข้าท่า แต่ข้อนี้น่าจะตัดออกแล้วเอาจากฉบับเอมาใส่แทนมากกว่า…แล้วก็ข้อเรียงความ…”

 

 

 

 

 

ปลายนิ้วที่จิ้มถี่ๆ ลงบนข้อสอบทำให้ลีรีบเลื่อนปากกาเมจิคสีน้ำเงินสดของตนเข้าไปให้ ริชาร์ดส่งเสียงฮึมฮัมเล็กๆ เป็นเชิงขอบคุณก่อนหยิบไป…เปิดฝามันแล้วหมุนด้ามปากกาให้ตวัดกลับมาพร้อมใช้ด้วยมือเดียว เริ่มต้นวงตรงนั้นตรงนี้บนหน้ากระดาษประกอบคำอธิบาย…ลีคิดว่าตนควรหยิบสมุดมาจด แต่สุดท้ายก็นั่งฟังเท่านั้นแทนเพราะริชาร์ดจดโน้ตส่วนที่เขาเองก็คิดว่าสำคัญลงไปให้หมดแล้ว

 

 

 

 

 

การเลือกคำถามจบลงได้แบบไม่ยากเลยเมื่อมีการช่วยเหลือจากคุณหัวหน้าแผนก…ก่อนที่ลีจะอธิบายบางจุดที่ตนยังไม่แน่ใจเช่นว่าคำถามของเขาไม่ลงลึกพอหรือต้องการรายละเอียดตรงไหนมากไปหรือเปล่า ซึ่งริชาร์ดก็ไม่ปฏิเสธที่จะดูให้แบบข้อต่อข้อ…ซึ่งนอกจากข้อสอบจะได้รับการปรับปรุงแล้ว ชายหนุ่มผมดำยังช่วยบอกทริคหรือจุดที่ควรจำไว้ในใจตอนร่างข้อสอบให้ลีได้รู้แบบใจเย็นที่สุดในโลกอีกด้วย

 

 

 

 

 

“แค่นี้แหละ…” ปากกาตวัดเติมโน้ตประโยคสุดท้าย…ก่อนที่ริชาร์ดจะพับกระดาษให้กลับมาเป็นหน้าแรกเริ่ม “ใช้ได้แล้ว…นายแก้เสร็จแล้วเอาไฟล์มาให้ฉันก็น่าจะเรียบร้อยแล้วล่ะ”

 

 

 

 

 

“โอเค…” ลีรับข้อสอบมา…ดวงตาสีน้ำตาลอมเขียวจ้องมองหน้ากระดาษ หมึกปากกาตัดกับตัวพิมพ์ดำสนิท…สีน้ำเงินสดใสนั้นเป็นทั้งลูกศรที่ตวัดโยง เส้นตรงที่ขีดฆ่า รูปดาวตรงจุดสำคัญ และลายมือหวัดแกมบรรจงของริชาร์ดที่เขียนโน้ตตรงนั้นตรงนี้ปนกับลายมือตัวกลมๆ ของเขาเองที่จดบางอย่างเสริมเข้าไปอีกที

 

 

 

 

 

ก็แค่นั้นเอง…แต่ลีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเห็นแล้วหัวใจมันถึงได้รู้สึกเขินๆ ชอบกลอีกแล้ว

 

 

 

 

 

ได้เวลาที่พวกเขาเลิกงานกลับบ้านได้แล้ว…แต่ริชาร์ดยังคงไม่ได้เริ่มลุกไปเก็บของ ร่างสูงนั่งรออยู่ข้างๆ เขาราวกับให้เวลาลีถ้าหากชายหนุ่มยังคงต้องการจะถามอะไรเพิ่มเติม แต่เพราะได้รับการแนะนำแบบชัดเจนจนไร้ที่ติมาตลอดช่วงบ่าย…ชายหนุ่มผมน้ำตาลจึงยิ้มให้อย่างขอบคุณเหมือนคำพูดพร้อมเก็บข้อสอบใส่แฟ้ม ริชาร์ดตอบรับแล้วลุกขึ้น…บอกลาเขาเมื่อตัวเองเก็บกระเป๋ากับสวมแจ็คเก็ตเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 

“แล้วก็ข้อสอบนายน่ะ…” คุณหัวหน้าแผนกยิ้มให้อย่างใจดีอ่อนโยนเหมือนทุกที “ดีมากแล้วนะสำหรับคนเพิ่งเคยออกข้อสอบครั้งแรก…ฉันพูดจริงนะเนี่ย”

 

 

 

 

 

ประโยคนั้นตามมาด้วยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิมจนแทบจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ…และลีก็หาสาเหตุไม่ได้เช่นเคยว่าทำไมหัวใจถึงยิ่งรู้สึกเขินๆ เข้าไปอีกแบบนี้

 

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

 

การสอบยาวนานสองสัปดาห์…และในเมื่อภาษาอังกฤษเป็นวิชาแรกในตาราง ลีจึงมีเวลาตรวจข้อสอบตั้งแต่วันแรกยันวันสอบวันสุดท้าย ซึ่งถ้าเทียบกับการออกข้อสอบแล้ว…การตรวจข้อสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิตของชายหนุ่มไม่มีอะไรให้กังวลเลย เพราะเขาก็เคยได้ช่วยดูๆ เรียงความและการบ้านให้เพื่อนมาตั้งแต่สมัยไฮสคูลยันมหาวิทยาลัยแล้ว…การตรวจข้อสอบนักเรียนจึงเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกคุ้นชินมากกว่าออกข้อสอบเยอะ

 

 

 

 

 

นั่นจึงทำให้ลีจัดการงานในมือเสร็จตั้งแต่วันศุกร์ของสัปดาห์แรกในการสอบ…เขามีสอนเกรดเก้าอยู่ดีเลยต้องมาที่โรงเรียน คาบสุดท้ายควรจบลงตอนสามโมงครึ่ง แต่กว่าลีจะตอบคำถามหลังคาบของเหล่านักเรียนได้ครบถ้วนทุกคนเวลาก็ปาไปสี่โมงนิดๆ แล้ว…หากเพราะไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนให้ต้องรีบไปไหน ชายหนุ่มจึงเดินสบายๆ กลับห้องพักครู…คิดในใจว่าเย็นนี้จะทำอะไรกินได้บ้างจากวัตถุดิบในตู้เย็นที่บ้าน

 

 

 

 

 

ห้องพักครูว่างเปล่าเพราะเลยเวลาของการเก็บของกลับบ้านหลังเลิกงานไปแล้ว หากก็ไม่ได้ว่างเปล่าจนเกินไปนัก…เพราะยังมีคุณหัวหน้าแผนกนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่ตรงกลางห้อง ปึกกระดาษหลายกองวางอยู่รอบๆ และมีปากกากับเครื่องคิดเลขอยู่ใกล้มือ…บอกให้รู้โดยไม่ต้องถามว่าริชาร์ดกำลังคิดคะแนนรวมของเด็กแต่ละคนอยู่

 

 

 

 

 

“อ้าวลี…” ชายหนุ่มผมดำหยัดตัวขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา ดูประหลาดใจเล็กน้อยแบบไม่ปิดบัง…ก่อนจะยิ้มเล็กๆ อย่างรู้สึกผิด “โทษที…วันนี้ฉันไม่เห็นนายเลย นี่นึกว่านายไม่ได้เข้ามานะเนี่ย”

 

 

 

 

 

“ผมเข้ามาตอนบ่ายน่ะ…เมื่อเช้าอยู่บ้านรวมคะแนนเด็ก” ลียิ้มตอบ ก่อนจะผงกหัวไปทางนาฬิกาบนผนัง “สี่โมงแล้วนะ คุณยังไม่กลับเหรอ?”

 

 

 

 

 

“ไม่ล่ะๆ…อยากให้นี่เสร็จก่อน” ริชาร์ดบุ้ยใบ้ไปที่ปึกกระดาษทั้งหมด ก่อนจะดูประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าเขาชัดๆ…สายตาจ้องตรงมาทำให้ลีเริ่มเขินพิกลๆ “อ้าว…ทำไมไม่ใส่แว่นล่ะวันนี้?”

 

 

 

 

 

“อะ อ๋อ…” บทสนทนาที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนจากเรื่องสัพเพเหระมาเป็นหัวข้อใกล้ตัวทำให้ชายหนุ่มผมน้ำตาลตั้งตัวไม่ทันชอบกล “…นี่ใส่คอนแทคเลนส์น่ะ” ลีกระพริบๆ ตานิดหน่อยเพื่อหาเรื่องหลุบตามองพื้นแทนจ้องตอบริชาร์ด…แก้ตัวงุบงิบอย่างอับอายกับความจริง “ปกติผมตื่นสายเลยไม่ค่อยได้ใส่…”

 

 

 

 

 

ริชาร์ดหัวเราะออกมาดังๆ…เสียงหัวเราะทุ้มต่ำกังวานเหมือนระฆังใบใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นเป็นเชิงขออภัย “โทษทีๆ…แต่คิดภาพตามแล้วมันตลกน่ะ แล้วก็เหมือนกันเลย…ฉันก็ตื่นสายวันนี้…”

 

 

 

 

 

มือใหญ่โบกๆ ตรงข้างๆ ขมับตัวเอง…เจาะจงถึงแว่นเลนส์ใสไร้กรอบทรงสี่เหลี่ยมที่ตนสวมอยู่ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ลีรู้สึกหวานๆ ตลกๆ ใหม่ตั้งแต่แรกเห็นแล้วเพียงแค่ไม่กล้าทักถาม…และถ้าจะให้ตอบว่าริชาร์ดตอนมีหรือไม่มีแว่นนั้นแบบไหนหล่อกว่ากัน ชายหนุ่มผมน้ำตาลก็คงต้องบอกว่าต่อให้ให้เวลาเขาคิดอีกสักล้านปีแสงก็คงยังเลือกไม่ได้อยู่ดี

 

 

 

 

 

“แล้ว…” ลีรีบไล่ความรู้สึกตลกๆ อันงี่เง่านั้นออกไปจากใจด้วยการเสเปลี่ยนเรื่อง “…คุณรวมเสร็จไปกี่ห้องแล้วล่ะ?”

 

 

 

 

 

“อ๋อ…นี่น่ะเหรอ…” ดวงตาหลังเลนส์แว่นของคุณหัวหน้าแผนกหลุบกลับไปมองกองกระดาษกับเครื่องคิดเลขชั่วครู่ “ฉันคิดคะแนนรวมของแต่ละคนแล้วนะ นี่เหลือแค่รวมคะแนนของพาร์ทไวยากรณ์กับวรรณคดีแล้วหาเปอร์เซ็นต์อีกที…”

 

 

 

 

 

เสียงทุ้มต่ำเบาลงเรื่อยๆ จนเหมือนกับตอนที่เจ้าตัวสารภาพว่าชอบไอศกรีมช็อกโกแล็ต…สัญญาณที่บอกให้รู้ว่าริชาร์ด อาร์มิเทจกำลังอายได้ที่ที่ต้องยอมรับความจริง “แต่ฉันคิดเลขทำนองนี้ไม่ได้เรื่องเลย…ก็เลยชักช้าอยู่เนี่ย…”

 

 

 

 

 

“อ๋อ…โอเค…” ลีนิ่งไปนิดนึง…พยายามไม่อุทานว่าว้าวออกมาดังๆ เพราะมันเป็นอะไรที่เสียมารยาทมาก แต่ก็ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าตนกำลังได้รับรู้สิ่งมหัศจรรย์หายากของโรงเรียนมิดเดิ้ลเอิร์ธไฮนี้ที่มีชื่อเรียกว่า ‘เรื่องที่ริชาร์ด อาร์มิเทจไม่ถนัด’ อยู่

 

 

 

 

 

“ก็…นั่นแหละ…” ชายหนุ่มผมดำยักไหล่แบบเก้อเขิน “นายจะกลับแล้วใช่มั้ย…แล้วเจอกันวันจันทร์นะ”

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรๆ” ลีเดินมาลากเก้าอี้ตัวข้างๆ ริชาร์ดแล้วนั่งลง เสนออย่างมีน้ำใจ…เพราะนี่ยังถือว่าเล็กน้อยนักถ้าเทียบกับสิ่งที่อีกฝ่ายคอยช่วยเหลือเขามา “เดี๋ยวผมช่วยคิดแล้วกัน จะได้เสร็จไวๆ”

 

 

 

 

 

“ไม่ต้อง…นายกลับบ้านเถอะ” คุณหัวหน้าแผนกโบกมือ ดึงเครื่องคิดเลขให้พ้นรัศมีการหยิบจับของลี “งานนี้มันส่วนของฉันเอง…เดี๋ยวฉันจัดการเองนี่แหละ ขอบใจมากนะ”

 

 

 

 

 

ยิ้มบางๆ บนหน้าหล่อเหลาอาจทำให้ใจเต้น…แต่ไม่สามารถทำให้ลีใจอ่อนได้ ชายหนุ่มผมน้ำตาลฉวยปากกาไปก่อนที่ริชาร์ดจะหยิบหนีทัน ยิ้มล้อๆ เหมือนเด็กซน

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรน่า…คุณช่วยผมมาตั้งเยอะแล้ว คิดเลขแค่นี้เอง…ไม่นานหรอก” ลีพูดอย่างร่าเริง ขำนิดๆ ตอนล้อเล่นในประโยคหลัง “ผมอาจจบเอกอังกฤษมา…แต่สมัยไฮสคูลนี่ก็ชอบเรียนเลขนะ”

 

 

 

 

 

ริชาร์ดหัวเราะออกมาจนได้ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจตอนยอมส่งเครื่องคิดเลขให้อีกฝ่าย “ฉันจบเอกอังกฤษมาแล้วก็ไม่เคยชอบเรียนเลขเลย…ยอมแพ้แล้วครับคุณครูเพซ”

 

 

 

 

 

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่มุกตลก…แต่ลีก็เผลอเขินแบบผิดจุดประสงค์คนพูดไปแล้วเรียบร้อย จึงแค่ยิ้มไวๆ ให้อีกทีแล้วเริ่มต้นกดปุ่มเครื่องคิดเลข…คอยพูดจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ได้ของแต่ละคนให้คุณหัวหน้าแผนกได้ทำการจดตามไปเรื่อยๆ

 

 

 

 

 

การคิดเลขไม่ใช่เรื่องยุ่งยากแต่ก็กินเวลาเพราะจำนวนเด็กไม่ใช่น้อยเลยแถมต้องเช็คอีกรอบด้วยว่าไม่ได้คิดคะแนนผิดไปตรงไหน ข้อสอบฉบับสุดท้ายมาถึงมือลีเมื่อเข็มนาฬิกาชี้เลยเวลาห้าโมงครึ่งไปแล้ว…เขาดีใจนักเมื่อตัวเองพูดจำนวนเปอร์เซ็นต์ของมันออกมาแล้วได้วางเครื่องคิดเลขลงเสียที

 

 

 

 

 

ริชาร์ดรวบแผ่นกระดาษจดคะแนนมารวมเป็นปึกเดียวกันแล้วเคาะๆ กับโต๊ะให้มุมเสมอกันทุกมุม ก่อนจะยิ้มเป็นเชิงขอบคุณและขอโทษไปพร้อมๆ กันให้ “โทษทีนะ…แต่ก็ขอบใจมากเลย ถ้าไม่ได้นายช่วยนี่เผลอๆ ฉันคงต้องค้างที่นี่แน่”

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก…” ลีส่ายหน้า ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะตอบอย่างไรให้ริชาร์ดจับไม่ได้ว่าตนกำลังเขินแบบตลกๆ อยู่อีกแล้ว…หากทุกความรู้สึกก็พลันหายวับไปราวกับเสียงเพลงที่จู่ๆ ก็หยุดบรรเลงตอนได้ก้มมองมือของอีกฝ่ายที่ถือรวบกระดาษไว้อยู่

 

 

 

 

 

ที่นิ้วนางข้างซ้าย…แหวนเรียบๆ สีเงินวาววับอยู่บนนั้น

 

 

 

 

 

ลีไม่ได้สังเกตมาเลยตั้งแต่แรกเพราะนั่งชิดทางขวาของริชาร์ดและก็มัวแต่สนใจเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่…ภาพแหวนเงินจึงไม่ต่างอะไรจากน้ำหนักมหาศาลที่จู่ๆ ก็ถ่วงลงมาในใจสักนิด ดวงตาสีน้ำตาลอมเขียวจ้องมันอยู่อย่างนั้น…วินาทีสั้นๆ ระหว่างบทสนทนาดูยาวนานเสียเหลือเกิน อาจเป็นเพราะความคิดของเขาเหมือนจะหยุดลงเช่นเดียวกับลมหายใจที่ติดขัดขึ้นมาเสียเฉยๆ

 

 

 

 

 

“ลี…?”

 

 

 

 

 

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกอย่างแปลกใจว่าทำไมจู่ๆ คนตรงหน้าก็เงียบไป…แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสซักถามอะไรอีกเพราะเสียงย่ำเท้าไวๆ ที่พรวดพราดเข้ามา

 

 

 

 

 

“อ้าว! ยังไม่กลับเหรอริชาร์ด…” อดัมถามอย่างประหลาดใจพอๆ กับสองคนในห้องที่ได้เห็นอีกฝ่าย “อ้าวลี! นายก็ยังอยู่เหรอเนี่ย…นี่จะหกโมงแล้วนะ…”

 

 

 

 

 

หนุ่มตัวเล็กพิจารณาภาพคนทั้งสองเงียบๆ…ลีคิดว่าตนไม่ได้มองผิดไปเองว่าดวงตาโตของเพื่อนมีแววของความเข้าใจจุดวาบขึ้นในชั่ววินาที หากอดัมก็เบือนหน้าหนีการสบตาใดๆ…พูดต่อไปราวกับไม่ได้คิดอะไรมากมาย

 

 

 

 

 

“แต่ก็ดีแล้วที่พวกนายยังไม่กลับกัน” พูดไปพลางเดินไปโต๊ะส่วนตัวของตน…เปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอาถุงผ้าแบนๆ ทรงสี่เหลี่ยมที่ใส่ไอแพดไว้ออกมา “นี่ฉันนึกว่าจะต้องรอจนวันจันทร์แล้วซะอีกถึงจะมาเอาได้…หรือถ้าหายไปฉันตายแน่ อะไรสำคัญๆ อยู่ในนี้หมด…”

 

 

 

 

 

ริชาร์ดถอนหายใจอย่างระอาเล็กๆ “วันหลังอย่าลืมแบบนี้อีกนะอดัม…โรงเรียนเราปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่ว่าของจะหายไม่ได้นะ”

 

 

 

 

 

“รู้แล้วครับหัวหน้าแผนก~” หนุ่มตัวเล็กร้องเป็นเพลงตอบ ก่อนจะมองทั้งสองสลับไปมาอย่างบอกให้รู้ว่าคำถามของตนมีให้ทั้งลีและริชาร์ด “แล้วนี่พวกนายจะกลับกันรึยัง? ยังไม่ได้กินมื้อเย็นกันเลยล่ะสิท่า?”

 

 

 

 

 

“ยังเลย…แต่นี่เสร็จแล้วล่ะ” ชายหนุ่มผมดำตอบ หันไปทางลีนิดๆ แล้วพูดยิ้มๆ “อยากกินร้านไหนเลือกเลยคุณครูเพซ…เดี๋ยวฉันเลี้ยงขอบคุณนายเอง”

 

 

 

 

 

“อะ อ๋อ…ไม่เป็นไรหรอก…” ลีรู้สึกว่าตนพูดคำนี้บ่อยจนฟังดูไม่มีความหมายไปแล้ว…แต่นี่เป็นครั้งแรกของวันที่เขารู้สึกว่าความหมายของมันนั้นตรงข้ามกับความจริงปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง “ผมกลับเลยดีกว่า…เย็นมากแล้ว”

 

 

 

 

 

“แต่…”

 

 

 

 

 

ลีตัดบทริชาร์ดด้วยการทำเป็นไม่ได้ยิน “อดัม นายมาแท็กซี่ใช่มั้ย? กลับเส้นไหนน่ะ?”

 

 

 

 

 

อดัมแจกแจงถึงที่อยู่ของตนอย่างคร่าวๆ…และชายหนุ่มผมน้ำตาลก็ดีใจนักที่เส้นทางที่ว่านั้นผ่านถนนที่ตั้งอพาร์ตเมนต์ของตน ลีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนถึงได้เสียใจขึ้นมาขนาดนี้ แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือว่าไม่มีอะไรที่ตนต้องการในนาทีนี้มากไปกว่าระยะห่างระหว่างตัวเองกับริชาร์ด อาร์มิเทจในขั้นที่ไม่รับรู้ถึงกันและกันเลยสักนิด…และถ้าคุณหัวหน้าแผนกจะสงสัยอะไรกับท่าทีรวบรัดปุบปับของลี เจ้าตัวก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แค่ยิ้มสุภาพแล้วกล่าวลาด้วยเสียงทุ้มนุ่มเหมือนเคยเท่านั้นเอง

 

 

 

 

 

และจนเมื่อร่างสูงโปร่งนั้นหายออกไปจากห้องพักครูแล้วนั่นเอง…ที่ลีค้นพบว่าความเสียใจที่มีตอนนี้คงจะมาจากการที่ตระหนักได้ว่าเขาเพิ่งเสียสิ่งที่ไม่เคยเป็นของตนมาตั้งแต่แรกไปเสียแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

tbc.

 

*************************************

 

 

ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ เค้าไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้นะตะเอง เคร๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

 

ฮือ ฟิคนี้แม่งงี่เง่ามากฟฟฟฟ อะไรก็ไม่รู้ ทำลายชีวิตให้เราต้องเขียนตลอดเลยฟฟฟฟฟฟ นี่ขุดพุชชิ่เดซี่มาดูอีกรอบด้วยค่ะ แล้วก็เปิดฮอบบิทใหม่…ตะโกนใส่คอมตอนต้นเรื่องที่ธรันดี้มาป๊ะหน้าธอรินวัยเอ๊าะหกดเกหดเหกดเหกดเหกดเ อาห์หหหหหหห ฉันทำเชี่ยอัลไลกันนะ……………..O}——{

 

 

 

บทนี้ ตอนแรกจะมีแค่นับคะแนนด้วยกันค่ะ อิร่างข้อสอบนี่กะจะแค่บรรยายสักพารากราฟเดียว…สุดท้าย………………..ฟฟฟฟฟฟ อย่างที่อ่านๆกันไปแหละค่ะ ทิพย์ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ จริงๆนะห์ 

 

 

 

…………….

 

 

……

 

 

 

 

 

อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม…ย้อนอ่านอีกรอบ ทำไมมันดราม่าได้ล่ะ ฟฟฟฟฟ ช่างมันเถอะเนอะจุ๊บุจุ๊บิ UuU 

 

 

 

แล้วก็อยากจะบอกว่าไอ้ประโยคเชคสเปียร์ตอนก่อนเปิดเรื่องอ่ะค่ะ มันไม่ได้ใส่มาเกร๋ๆนะเค๊อะ มันมีฟามหมายยยยย 

 

 

 

โอเค…ทิพย์พูดไม่รู้เรื่องแล้ว เจอกันเอนทรีต่อไปค่ะ

 

 

 

 

ทิพย์เอง

 

 

 

 

ปอลอ เปอร์เซ็นต์การย้ายบล็อกไป wordpress ถาวรเพิ่มสูงขึ้นทุกวันค่ะ ฟฟฟฟฟ

ปอลอสอง ขอบคุณพี่มาร์สำหรับคำว่า “คู๋รักบ่อเป็ด” นะคะ ถถถถ

 

 

23 responses to “[RichardLee] A Brighter Word Than Bright, A Fairer Word Than Fair (3)

  1. โธ่ เศร้าเลยนะเนี่ยคุณกระต่ายลี…ทั้งๆที่วันนี้เหมือนจะดีแท้ ๆ
    ดูบรรยากาศเป็นใจ แว่นก็ไม่ได้ใส่(เกี่ยวอะไร?) แถมได้ช่วยงานครูริชด้วย มาจบแบบนี้จุกเลย ;_; (แถมตอนนี้มีคนเค้ารู้ทันแล้วสิคะเนี่ยครูลี)

    ขอบคุณน้องทิพย์สำหรับสารอาหารนะคะ (หา?) 555+

    ปล.’คู่รักบ่อเป็ด’ คำนี้มันใช่เลยน้องทิพย์ อ่านที่บรรยายมารอบก่อนแล้วคิดคำอื่นไมาออกจริงๆ พูดเองยังฮาเอง เหมาะสมกับคู่นี้มาก 555+

    Like

    • 55555 ทิพย์เขียนไปก็งงๆค่ะว่าทำไมมันมาจบแบบนี้ได้ฟฟฟฟฟ
      ครูริชใส่แว่นต้องหล่ออบอุ่นมากแน่ค่ะแงงงง เลยจับใส่ซะเลยตอนนี้ฟฟฟฟฟ

      คู่รักบ่อเป็ดของพี่นี่มันเป๊ะมากค่ะแงงงงงง
      อ่านกี่รอบก็ขำ ตอนพิมพ์เองยังขำ 555555555555

      Like

  2. ขอ 5 บรรทัด อนันต์ขอตะโกนก่อน
    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    โอยยยยยยยยย ตอนแรกมันกิ๊วก๊าว ตอนสองมันมุ้งมิ้ง แล้วทำไมตอนสามมันดราม่าล่ะคะพี่ทิพย์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ YvY

    ฮือ คือแบบ มันหวานๆขมๆง่า ทีแรกที่เขาปรึกษากันเรื่องข้อสอบนี่น่ารักมากเลยนะ แบบ คุณหัวหน้าแผนกแกแบบ ดูไนซ์มาก คอยช่วยเหลือ คอยให้คำปรึกษา มีการจดโน้ตลงให้อีก โอยยยยยยยยย แล้วที่มันน่ารักสุดๆเลยคือมีลายมืออยู่ด้วยกันมันดูกิ๊วก๊าวแบบที่ลีเขินเป๊ะเลยง่ะฟฟฟฟฟฟ บั่บ ลายมือคุณริชาร์ดดดดดดดดดดดดดดฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    แล้วนิสัยวาดดาวในจุดที่สำคัญนี่น่ารักมากกกกกกกกก แงงงงงง อนันต์ก็เป็นนะนิสัยนี้ฟฟฟ แบบผู้ใหญ่ตัวหมีๆแบบคุณหัวหน้าแผนกมาวาดอะไรกิ๊วก๊าวแบบนี้มันน่ารักฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    แล้วลี การที่นายบอกตัวเองว่าหยุดจ้องแล้วเหลือแต่จ้องนั่นมันอัลไลลลลลล 55555555555555555555555555555555+ โอยยยยย ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ลีน่ารักแงงงง น่าอิจฉาด้วย ขอสลับที่ได้ไหมฟฟฟฟ
    แถมคุณริชาร์ดมีการชมก่อนไปด้วย แหมมมมมมม ฟกาหสวฟาดหก เราอิจฉาาาาาาาา

    ลีไม่ใส่แว่นฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ลีไม่ใส่แว่นครั้งเดียวทำเอาขุ่นหัวหน้าตะลึงไปปป หลงแล้วล่ะสิขุ่นท่าน!! ,,YvY,, แต่คุณหัวหน้าใส่แว่นแทนนี่มันฟฟฟฟฟฟ ลีไม่ต้องเลือกหรอกว่าใส่แว่นหรือไม่ใส่แว่นริชารืดจะหล่อกว่ากัน เพราะเขาหล่ออลังทุกท่วงท่าฟฟฟฟ (แต่เราแนะนำนายนะลี เชียร์ให้คุณริชาร์ดไม่ใส่ดีที่สุด เชื่อเราสิ เพราะจมูกคุณริชาร์ดมาเจสติกอยู่แล้วงาย ใส่แว่นเดี๋ยวมันนลำบากเวลาทำซัมติงนะฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ //นี่อนันต์แนะนำอะไร //ไม่ย์ๆ //แต่เราจริงจังนะ)
    ฮือ เค้าช่วยกันทำงานดูน่ารักมาก บรรยากาศมันแบบ หวานๆ ฟุ้งๆ กลิ่นวนิลาฟฟฟฟฟฟฟ แต่พอเจอแหวนนั่นแบบ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ทำไมพี่ทิพย์ทำอย่างเน้ ; [ ] ;

    น้องรอตอนต่อไปนะพี่ทิพย์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ น้องกดดันฟฟฟฟฟฟฟฟ น้องน่ากลัวนะและน้องกำลังกดดันพี่ทิพย์อยู่ UvU ฟฟฟฟฟฟฟ

    ลี อนันต์ขอโทษ จริงๆแล้วน่ะนะ บนนิ้วนางข้างซ้ายของอนันต์ก็มีแหวนสีเงินแบบนั้น อนันต์ขอโทษนะลี อนันต์ขอโทษ YvY //พี่ทิพย์ตบ

    Like

    • วัฟเฟิลคอมเมนต์ยาวสะใจคนเขียนอีกแล้วฟกฟหกดฟดเหกดเฟดกเฟดกเ //กอดแน่นๆ
      ริชาร์ดตอนอ่านเนี่ยเขาตั้งใจจดจ่อมากแงงงง เวลาดูตามคลิปสภ.แล้วใจละลาย
      ผู้ชายหล่อเข้มเสียงทุ้มนุ่มกับสีหน้าตั้งใจและจมูกมาเจสติกโง่ๆนั่นฟฟฟฟฟฟ //จูบมั๊วอย่างก้าวร้าว
      คิดตอนซ้อมท่องบทกับลีแล้ว……………………………………………………O}–{
      ริชาร์ดใส่แว่นมั่งนะในฟิคเพราะพี่อยากเห็นฟดฟหกดฟหกดฟดเ

      ส่วนแหวนนั่น…น้องอนันต์จะขอโทษทำไมคะ คุณริชเขาใส่คู่กับพี่ตะหาก เคร๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

      Like

      • ไม่จริงน้องไม่เชื่อฟฟฟฟฟฟฟ เมื่อวานเค้ายังมาขอน้องแต่งงานในฝันอยู่เลย YvY ใส่แหวนให้กับมือด้วยนะฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

        Like

  3. ตามงานคุณทิพย์มาซักพักแล้วค่ะแต่ไม่ค่อยได้เม้นต์ 555

    ปกติไม่ได้ชิปคู่นี้เลยนะแต่พออ่านเรื่องนี้แล้วแบบ….

    คือ

    มันน่ารักงุ้งงิ้งมากเลยอะค่ะ อ่านแล้วเขินแทนลี 5555+ พ่อกระต่ายไซส์บิ๊ก

    ริชาร์ดดูหล่อมากกกกกกกก
    ถ้ามีอาจารย์อย่างนี้จะตั้งใจเข้าเรียนทุกคาบไม่ขาดเลย
    จะไปนั่งจ้องคุณครูบ้าง555

    แล้วตอนคิดเลขนั่่นคือ…. น่าร๊ากกกมากกกกกกกกกกกก
    ริชาร์ดตอนเขินเป็นอะไรที่สุดยอด555

    ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้แล้วก็รอตอนต่ออยู่นะคะ5555

    .

    Like

    • ฮิฮิฮิ มาค่ะมา ขึ้นเรือริชลีมาเร็ว…//พาเดินมาแบบเนียนๆ
      ริชาร์ดตอนตั้งใจกับตอนเขินนี่ทำให้หัวใจระเบิดเป็นสายรุ้งมากค่ะฟฟฟฟฟ

      Like

  4. มาเมนท์แย้ววววววววว เมื่อวานโดนไล่ไปนอนก่อน เมนท์ไม่ทันเบยยยย
    ตอนนี้มัน bittersweeeeeeeeeeeeetttttttt แงงงงงงงงงงงงงงงงง
    น้องทิพย์ใจร้ายยยยย ลูบหลังจนเคลิ้มจะหลับละตบหัวสะดุ้งอย่างแรง
    เริ่มตอนได้น่ารักสุด ๆ คุณครูกระต่ายยักษ์ของหนูววววววววววววววววว
    อยากจะเข้าไปช่วยโอ๋ให้หายหงอยฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ตอนช่วยร่างข้อสอบนั่นอะไร โอ๊ยยยยยยยยย ชุ่มชื่นหัวจัยยยยยยห์
    แล้วก็นั่น! ความลับของคุณหัวหน้าแผนกมันช่าง…น่ารักเกินไปนะคะะะะะ
    แถมเป็นตอนไม่ใส่แว่นอีกกกก โอ้ยยยยยยย ตาย ๆ ๆ ๆ เข้าใจหลีเลย
    กระต่ายยักษ์ของเราอุตส่าห์ได้ใกล้ชิดกับคุณริชาร์ดแล้วแท้ ๆ
    แต่เวลาแห่งความสุขมันช่างสั้น โฮฮฮฮฮฮฮ *กัดผ้าเช็ดหน้าอย่างรวดร้าว*
    จะรอตอนต่อไปอย่างมีความหวังนะจ๊ะนะห์ ;////v////;
    ป.ล. เมนท์ไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน หวังว่าน้องทิพย์จะเข้าใจ ❤

    Like

    • ขุ่นหลีเหมือนกระต่ายยักษ์จริงๆนะคะฟหกดฟหกดฟหกดฟหกด
      /ดันเพ่ริชเข้าไปอุ้มกระต่ายดเหกดเหกดเหกดเหกดเ
      ตอนนี้เริ่มมางุงิแต่ทำไมจู่ๆจบดราม่าก็ไม่รู้ค่ะฟฟฟฟฟ น้องไม่รู้อะไรทั้งนั้นส์สสส
      ตอนต่อจะมาอีกสามพันปีแสงค่ะ UvU ฮุฮิย์

      Like

  5. อ่านไปฮาคู่รักบ่อเป็ดไปค่ะ เหมือนเป็นเพื่อนตัวเอกคอยให้กำลังใจ น่าย้ากมากก
    (แอบลุ้นครูอดัมกับลุงหมีอย่างมีความหวัง ฟฟฟ=w=)
    ตอนช่วยคิดเลขเป็นอะไรที่ฟินนนนนสุดๆค่ะ นึกภาพครูริชาร์ดอายๆแล้วมันก๊าวมาก ก้ตอนเขินๆอายๆมันมีเสน่ห์อ้ะ //แต่เขินบีบคอพิธีกรนั่นไม่นับนะคะ (แต่ก้น่ารักอยู่ดี เอาเหอะ) = =
    ต้องมาลุ้นคุณครูกระต่ายหลีให้มีชีวิตรอดกับมรสุมแหวนวงนั้นไม่เป็นกระต่ายเฉาตายไปก่อน TvT หลีสู้ๆน้ะ //ทึ้งหมอนด้วยความลุ้นระทึก ฟฟฟฟฟ
    ตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไปกับคณะครูวเเห่งมิดเดิ้ลเอิร์ธไฮนะคะ -v-

    Like

    • คู่รักบ่อเป็ดชอบขโมยซีนค่ะ5555 ส่วนอดัมกับลุงหมี…………………//เหม่อมองขอบฟ้า
      ริชาร์ดเขินทีไรมันงี่เง่างุงิไปหมดจริงๆค่ะแงงงง
      ส่วนกระต่ายจะเฉาตายเพราะแหวนมั้ย รออ่านต่อไปนะคะ ฟฟฟฟ

      Like

  6. กระต่ายยักษ์อึกอักน่ารักสุดๆอ่ะ-//////-
    คูรักบ่อเป็ดคืดระ??? ฮาตลอดอ่ะตลกดีชอบ
    แหวน???
    แหวน????
    แหวน?????
    ริชาร์ดไปแต่งอะไรกะใครตอนไหนฟร้ะโน่ววววววว
    กระต่ายเฉาตายหมดแล้วเคลียร์ให้กระจ่างด่วนนนน

    ลีไม่ใส่แว่น….นอนตาย…

    Like

  7. กำลังสนุกมากมายค่ะ ชอบริชลีมานานแล้วค่ะ แต่เพิ่งจะได้อ่านฟิกเลยยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก

    Like

  8. ง่า.. ตอนท้ายๆเศร้าไปกับคุณลีแฮะะะ
    ไม่รู้ว่าแหวนจะมีความหมายหรือไม่มีอะไรยังไงแต่จะให้คิดว่าคนดีๆอย่างคุณริชยังโสดก็แลจะโลกสวยไปใช่ม้าาา
    แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้นะคุณลี สู้ๆนะ ><
    รอติดตามนะค้าาา

    Like

  9. โหดร้ายมากค่ะ งื้ออออออออออ สงสารลี ออกตัวช่วยริชแท้ๆแต่ดันมาเจออะไรเช่นนี้
    ไม่แน่อาจจะไม่ใช่แหวนแบบที่ลีคิดอยู่ก็ได้นะ มองโลกในแง่ดีไว้
    อดัมกะลุงหมีหายไปปปปปปป….

    กลับมาคุยเรื่องลีต่อก่อน ฟฟฟฟ ทำไมความสุขไม่ยั่งยืนเช่นนี้
    ไม่รู้แหล่ะ ริชต้องไปปรับความเข้าใจกับลีเลยยย ไปปรับความเข้าใจกันที่อพาร์ตเมนต์ลีน้าา
    จะได้คุยกันง่ายๆหน่อย(เกี่ยวไหมมม)

    รออัพต่อค่าาา สู้ๆเน้อทุกคนนนน//โบกธงเชียร์

    Like

    • สวัสดีค่ะ : D เห็นคอมเมนต์ของน้องทุกอันนะคะ ขอรวบมาตอบตรงนี้ละกันเน้อ
      ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่าน พี่ชอบริชลีมากเลย ชิปตั้งแต่ช่วงแถวๆฮอบบิทภาคสองจนตอนนี้
      ดีใจที่เริ่มมีคนรู้จัก+ชิปมากขึ้น เพราะช่วงแรกๆนั่นเป็นเรือไม้จิ้มฟันเลยค่ะ ริชลีเนี่ย TvT
      ส่วนฟิคคุณครูเรื่องนี้ พี่เขียนจบแล้วล่ะค่ะ รอรวมเล่มเท่านั้นแล้วเน้อ :3
      ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่สนใจงานของพี่ และขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ทุกอันด้วยค่ะ ><

      Like

      • เรามาสานต่อเรือริชลีกันเถอะค่ะ! อ่านฟิคของพี่ทิพย์แล้วรู้สึกอยากแต่งริชลีมั่งเลยย
        รอรวมเล่มต่อนะคะ ฟิคพี่ทิพย์น่ารักขนาดนี้ไม่สนใจได้ยังไงกันนน ><
        ทางนี้ก็ต้องขอบคุณที่พาลงเรือริชลีด้วยนะคะ จะรอดูผลงานพี่ทิพย์ต่อไปปปป

        Like

  10. เราเพิ่งรู้นะคะว่าการออกข้อสอบสักครั้งของครูหนึ่งคนมันยากลำบากขนาดนี้
    ต้องหาอันที่ดีที่สุด แล้วใช่ว่าจะได้มันมาง่ายๆ พอได้อันที่ดีที่สุดมาแล้ว
    ก็อาจจะไม่ดีที่สุดสำหรับนักเรียน ก็ต้องมาสังเคราะห์ใหม่อีกหลายๆ ทบ
    จนกว่าจะได้ข้อสอบที่ดีขนาดนี้ มิน่าล่ะอาจารย์ถึงดูเคร่งเครียดกับมันนัก
    แถมยังต้องติดป้ายห้ามเข้าเพราะมันอาจจะต้องปรึกษาครูด้วยกันสินะ
    รู้สึกนับถืออาชีพครูขึ้นมาทันทีทันใดเลยค่ะ

    ตัดมาที่ริชลีค่ะ (ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะซาบซึ้งความเป็นครูได้เป็นย่อหน้า แต่…นั่นแหละ)
    ลีนี่ก็ขี้เกรงใจจังเง้อ เอะอะก็กลัวไปรบกวนพี่ริชเขา เขายินดี เชื่อเราสิ เชื่อเราาาาา
    ตอนพี่ริชอ่านข้อสอบเรานึกภาพตามงี้ค่ะ ข้างค่ะถือข้อศอกพิงโต๊ะ ตัวหันมาทางลี
    ขานั่งไขว้ห่าง มือที่ว่างจับคาง ลูบคางบ้างเป็นระยะ หน้าตาเคร่งๆ จริงจัง
    “…………………………………” #มีติ่งตายหนึ่งชีวิต #ต้องการการปฐมพยาบาลด่วนค่ะฟฟฟฟฟ
    คือมันหล่อออออออ หล่อตับพัง ต่อปอดฉีก หล่อลืมหายใจลมหายใจสะดุดขาดห้วงฟหกด่าสว
    ลีไม่ตายให้มันรู้ไปเซ่วววววว เอาเถอะ ถึงลีไม่ตาย เราตายเอง O</<

    แล้วตอนคอมเมนต์ข้อสอบลีดูมืออาชีพมากกกกกก เป็นมืออาชีพที่หล่อมาก
    ผู้ชายอะไรทำคนหวั่นไหวได้ทุกอิริยาบถ ถ้าไม่ติดว่าคนนี้ของเพซ(?) เราจะเอา งือออออ
    เขียนจุดสำคัญไว้ทุกอย่าง ใส่ดงใส่ดาวมีหมด เป็นผู้ชายที่ใส่ใจและเต็มที่ไม่ว่างานราษฎร์หรืองานหลวงจริงๆ แงงงงงงง คนนี้แหละพ่อของลูกกกกกกกกก(ลี)

    แต่ก็นะเพอร์เฟ็กต์แมน(ที่แม้จะเปิดตัวด้วยชุดคุณปู่แต่ก็ยังหล่อบาดใจ)มันก็ต้องมีอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง
    เราล่ะแพ้รอยยิ้มเขินๆ ของคุณริชจริงๆ ให้ตาย O</< #ตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    คุณริชไม่ขอบเลขเหรอคะ เราชอบเลขนะ(ชอบขึ้นมาทันใด แฮ่) เดี๋ยวเราช่วยอีกแรงนะคะ
    เดี๋ยวลีกับริชาร์ดนั่ง(สวีท)กันไปสองคน เดี๋ยวเราจะช่วยคิด(ติ่ง)อยู่ข้างหลังนะคะฟฟฟฟฟ

    …เราจะไม่พูดถึงรังสีดราม่าที่แผ่อยู่ตอนช่วงท้ายของเรื่องนะคะ *ตัดไปที่โฆษณา*

    ปล1. ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนถูกแพร์นี้จับขังไม่ให้เลิกชิปเลยค่ะแงงงงง #มันฝรั่งคาปาก #ว้อท
    ปล2. เราจดฟิคเรื่องนี้ลงลิสต์ "ฟิคที่ต้องซื้อให้ได้!" แล้วนะคะ คุณทิพย์ลงตอนนี้ไว้ค้างมากมาย #โฮรวววววว

    Like

  11. ทำไมมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวอยู่ดีๆแล้วมาสำลักอากาศชักตายตอนใกล้จะจบหล่ะคะ
    ม่ายยยยยยยยยยยยยยย. อย่าทำร้ายกันแบบนี้
    ป้าเพิ่งมาอ่าน. อย่าทำร้ายป้าาาาาาาา
    เขียนฟิคสนุกมากเลยค่ะ. รวมเล่มไปรึยังคะ. อะไรยังไงบอกป้าหน่อย TvT

    คุณริช ทำไมอ่ะ ทำไมๆๆๆๆๆๆ. มายิ้มหล่อๆให้น้องลีอยาก แล้วจากไปแบบนี้เหรอ ป้าไม่ยอมนะ

    ป้าเพิ่งมาอ่านนะ. แต่ป้ารักสุดใจ. สนุกมากกกกกกกกขร่ะ #กอดแน่นมากกกกก

    Like

    • ขอบคุณค่าาาา ดีใจที่ชอบฟิคนะคะ >_< เรื่องนี้ได้รวมเล่มไปแล้วค่ะ ถ้าสนใจตัวเล่ม ส่งเมสเสจผ่านเพจเข้ามาได้เลยค่ะ :3 https://facebook.com/tippuri.ii

      Like

      • ป้าส่ง DM ไปแล้วนะคะ. หนูลองเช็คดูใน FB ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ป้ารบกวน ติ๊ดดด ผ่านทาง twitter @anna_1093 นะคะหนู. FB ป้าไม่สันทัดจริงๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้ยุ่งยาก

        Like

Leave a comment