* แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น งงๆ เหมือนจะ boy’s love ชอบกล…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
REMARKS:
– สปอยล์ สปอยล์ชิบหายวอดวาย สปอยล์ฉาก extended และตอนก่อนจบในหนังสือ สปอยล์ๆๆๆๆ
– มโน มโนชิบหายวอดวาย มโนเองหมดว่าเขาจะพูดกันยังไง ฟฟฟฟฟ
– ถ้ายังไม่ได้อ่านสองข้อบน เลื่อนไปอ่านอีกทีนะคะ ฟฟฟฟฟ
TALK:
ขอทอล์คก่อนนะ ไม่ไหวละฟฟฟฟ ขอหยาบคายด้วย….
คือไอ้เชรี่ยยยยยยยยยยยยยยยกุว่าแล้วว่าแม่งต้องออกฉบับเอ็กเท็นฟหกดฟหกกดฟหกดฟหกดฟหกดกหดฟหดฟหกดฟหกดฟหกดแถมตัดออกไปแต่ของดีๆโอ้ยๆๆๆๆธอธรีนธอโบ้คิลีหน้าโง่น้องบีโบ้อีกอะไรคะอะไรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรโอ้ยไอ้เลวเลวเลววววววววววฟกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหดโคตรแย่เลยฟกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดไอฟัคกิ้งเฮทยูววววววววววววววว
คือบรั่บ ฉากธอโบ้ในฉบับเอ็กเท็นค่ะ ไม่ไหวทนค่ะ ดูแล้วคือเปิดซ้ำใหม่ แล้วก็นั่งหน้าคอม รู้ตัวอีกที…นี่อ่ะค่ะ เอนทรีใหม่แล้วอ่ะ ฟฟฟฟฟ อะไรวะเนี่ยยยยยยยยยยยฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟหกดฟดกหหฟก
สติแตกมากๆๆๆๆๆค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า..ฟิคนี้เพ้อเจ้อและสปอยล์มากนะคะ แล้วเราก็เขียนโดยที่ไม่รู้ด้วยว่าตกลงธอรินกับบิลโบรักกันหรือยังไงกันแน่ ฟฟฟฟฟ มันฟีลลิ่งเอ่อล้นค่ะแงงงงง อ่านไปเดาไปนะคะ ไม่เข้าใจตรงไหนเราขอโทษค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟ อย่าถือสาติ่งเลย ติ่งจะตายแล้ว O}–{
เจอกันเมื่อพลังติ่งมาประทับอีกนะคะ
ทิพย์เองค่ะ
*********************************
อาจเป็นเพราะยามเยาว์วัย…บุคคลที่บิลโบ แบ็กกินส์รักที่สุดคือเบลลาดอนน่าผู้เป็นมารดา ทำให้นิทานก่อนนอนหรือเรื่องเล่าหน้าเตาผิงที่นางเล่าให้ฟังฝังแน่นในความทรงจำเสมอแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว
จากบรรดาตำนานของทุกสรรพสิ่งในมิดเดิ้ลเอิร์ธนี้…เรื่องราวที่เบลลาดอนน่าโปรดปรานและเล่าอยู่เรื่อยๆ คือเรื่องราวของเอลฟ์ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนช้อยงดงาม…เรืองรองราวแสงตะวันหากก็ลึกลับดั่งยามราตรี บิลโบจำนิทานได้ไม่หมดทุกเรื่อง…แต่เขาจำได้ถึงรอยยิ้มละไมของมารดาระหว่างที่เล่า ทำให้ตำนานของเหล่าพรายในป่าลึกกลายมาเป็นความทรงจำแสนรักของฮอบบิทน้อยตามไปด้วย
ถึงการวิ่งซุกซนในป่าเพื่อตามหาปราสาทสีงาช้างและสายน้ำตกใต้ร่มเงาไม้จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว…ถึงบิลโบจะเติบโตและประพฤติตัวอย่างน่าชื่นชมสมกับนามสกุลแบ็กกินส์แล้ว…แต่ความใฝ่ฝันในการจะได้พบเจอกับเอลฟ์นั้นก็ไม่ได้โดนลบเลือน มันแค่ถูกเก็บไว้ในกล่องใบเล็กที่ซอกหนึ่งของหัวใจ กล่องที่บิลโบคิดว่าไม่มีทางจะถูกแตะต้องได้อีก…หากบัดนี้กลับเปิดกว้าง ทุกจินตนาการที่เคยอยู่ในนั้นดูราวกับจะโลดแล่นตามเขามาตั้งแต่วินาทีที่บิลโบตัดสินใจคว้ากระดาษแผ่นยาวเหยียดแล้ววิ่งออกจากแบ็กเอนด์อันอบอุ่นปลอดภัยมาสู่ความไม่แน่นอนของโชคชะตาในการเดินทางครั้งนี้
นั่นจึงทำให้แม้ว่าจะไม่อาจพูดออกไปได้…แต่บิลโบ แบ็กกินส์ก็ดีใจนักที่คณะเดินทางต้องเข้ามาหยุดที่ริเวนเดลล์ ถึงจะต้องแอบยิ้มอย่างตื่นเต้นและได้แค่ชื่นชมทิวทัศน์รอบๆ โดยลำพัง…แต่ฮอบบิทตัวน้อยก็ยินดีเหลือจะกล่าวแล้ว ความยินดีที่ปะปนมากับความเหงาหงอยเล็กน้อย…ด้วยถึงความฝันวัยเยาว์จะถูกเติมเต็ม แต่บุคคลที่เขาต้องการจะแบ่งปันเรื่องเล่าถึงทิวทัศน์งดงามนี้ก็ไม่ได้อยู่ในโลกที่สามารถเอื้อมมือไปได้ถึงอีกแล้ว
แต่เพราะรู้ดีว่ามารดาไม่ชอบเลยเวลาที่เขาคิดอะไรแบบนี้…บิลโบจึงตัดสินใจยิ้มแล้วจดจำทุกสิ่งแทน คิดถึงสมุดและขวดหมึกที่โต๊ะทำงานข้างหน้าต่างที่แบ็กเอนด์…ร้อยเรียงถ้อยคำที่หวังจะเขียนบรรยายเมื่อตนได้กลับบ้านอีกครั้ง และก็ใช้เวลาจนหมดวันในการชมทุกห้องที่ผู้เป็นเจ้าบ้านจะพึงอนุญาต
ถ้าริเวนเดลล์ตอนกลางวันจะได้ชื่อว่าสวยสว่างเรื่อเรือง…ยามราตรีของคฤหาสน์สีงาช้างนี้ก็คงได้ชื่อว่างามละไมอ่อนโยน ทุกสิ่งดูขาวโพลนในแสงจันทร์ ละอองน้ำจากธารน้ำตกสะท้อนแสงนุ่มนวลนั้นเป็นประกายราวเม็ดไข่มุก…เสียงสายน้ำทำให้บิลโบรู้สึกสงบใจนัก หากตอนที่ได้มาอยู่ในสถานที่ในฝันแบบนี้…การข่มตาให้หลับดูจะไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เลย ฮอบบิทตัวน้อยอยากจะเดินชมทุกสิ่งทุกอย่างไปเรื่อยๆ…จดจำถึงราตรีใต้แสงจันทร์นี้ให้ได้มากที่สุด
ดูจะไม่ใช่เขาคนเดียวที่คิดว่าการนอนไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจ…คณะเดินทางยังคงนั่งล้อมกองไฟ ย่างของว่างมื้อดึกระหว่างที่รอให้เสื้อผ้าแห้ง บิลโบไม่ได้นับจริงจังแต่ก็รู้ว่าคนแคระไม่ได้อยู่ในวงล้อมนั้นทุกคน…ร่างเล็กค่อยๆ เดินขึ้นบันไดที่เชื่อมจากระเบียงของกองไฟนั้นเพื่อไปสู่อาคารอีกหลังด้านบน เสียงพูดคุยเอะอะโดนกลบทับด้วยธารน้ำตกเรื่อยๆ ตามความสูงของบันไดที่เขาเดินขึ้นมา
แต่เมื่อมาถึงที่พักบันได บิลโบก็อดไม่ได้ที่จะหยุดยืนมอง…แม่น้ำเล็กๆ ที่ทอดจากน้ำตกข้างๆ นี้สะท้อนแสงจันทร์จนเป็นเหมือนผืนผ้าสีเงินยวงที่ทอดตัดระหว่างตลิ่งสองด้านมากกว่า และบนสะพานที่เชื่อมสองฟากนั้น…ร่างสูงโปร่งเจ้าของเรือนผมยาวสีดำสนิทกับพ่อมดในชุดคลุมสีเทาเดินเคียงกันอยู่ แสงจันทร์และระยะห่างทำให้มองได้ไม่ชัด…แต่ความเงียบของบรรยากาศก็อำนวยให้บทสนทนาของทั้งสองเป็นที่ได้ยิน
ถ้าเป็นตามปกติ…บิลโบคงไม่ยืนแอบฟังโดยบังเอิญอยู่แบบนี้ แต่เขาตัดสินใจไม่เดินหลบฉากไปเองก็เพราะประเด็นที่แกนดัลฟ์และลอร์ดเอลรอนด์ถกเถียงกันอยู่
“การเดินทางนี้เป็นเรื่องอันตราย…แกนดัลฟ์”
“และการไม่ลงมือทำอะไรเลยก็เป็นเรื่องอันตรายเช่นเดียวกัน! และ…”
มังกร…เอเรบอร์…คำแย้งที่ว่าภารกิจนี้จะนำมาเพียงความตาย…ไม่ใช่อะไรแปลกใหม่หรือทำให้บิลโบตกอกตกใจได้อีกแล้ว แต่สิ่งที่ยึดให้ฮอบบิทน้อยยืนแอบฟังอยู่ต่อไปนั้นคือชื่อที่จุดประกายให้การโต้เถียงแข็งกร้าวขึ้น
“…บัลลังก์แห่งเอเรบอร์ก็เป็นของธอรินโดยสายเลือด! ลอร์ดเอลรอนด์…ท่านยังต้องกลัวอะไรอีกหรือ??”
อะไรบางอย่างบอกบิลโบว่านี่ไม่ใช่การถกเถียงในหัวข้อเดิมๆ ที่ตนฟังจนชินชาแล้ว ลอร์ดเอลรอนด์รู้อะไรที่ทุกคนไม่รู้…อะไรที่เขาไม่รู้…
…อะไรที่เขาไม่ควรรู้
ลางสังหรณ์นั้นทำให้บิลโบหันตัวกลับไป คิดจะเดินลงไปตามทางเดิมแทนขึ้นไปสู่อาคารด้านบนเพราะไม่อยากถูกเห็นตัว…แต่การที่หันไปนี่เองที่ทำให้เขาแทบหลุดหอบหายใจอย่างตระหนก
เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่…ธอริน โอเคนชีลด์ยืนอยู่ตรงนั้น
เส้นผมดำสนิทกับเสื้อสีน้ำเงินเข้มกลืนไปในความมืด หากเกราะและลูกปัดตามปลายเปียก็สะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายจางๆ…ธอรินดูสงบนิ่งหากก็เยียบเย็นราวค่ำคืนฤดูหนาว แต่แปลกนัก…วินาทีนี้ บิลโบพบว่าภายใต้ท่าทีเฉยเมยแข็งกร้าวนี้ เขากลับรู้สึกว่าสิ่งเดียวรับรู้ได้จากอีกฝ่ายคือความอ้างว้าง ดวงตาสีเทาอมฟ้านั้นสะท้อนประกายสับสนล้าระโหยจนวูบหนึ่ง…ฮอบบิทน้อยอยากจะยื่นมือออกไป ไถ่ถามอะไรก็ได้ที่จะไล่แววตาแบบนั้นออกไปเสีย
แต่บิลโบก็รู้ดีว่าตนคือบุคคลสุดท้ายที่องค์ราชาจะต้องการ พิสูจน์ได้ง่ายดายนักเพราะแม้แต่ตอนนี้ที่ทั้งคู่ยืนเคียงกัน…ธอรินก็ไม่แม้แต่จะทักทาย สายตาจ้องผ่านไปราวเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ ฮอบบิทน้อยจึงสูดลมหายใจ…ไม่ต้องการยื่นไมตรีใดถ้ามันจะเพียงแค่ถูกอีกฝ่ายเยาะหยัน ก่อนจะหันตัวกลับไป จำใจฟังบทสนทนาที่อะไรบางอย่างกระซิบบอกว่าเขาไม่ควรรู้ต่อ
“ถ้าเจ้าลืมไปแล้วนะแกนดัลฟ์…” เสียงของลอร์ดเอลรอนด์กดต่ำราวกับความอดทนจวนเจียนจะหมดลงแล้ว “สายเลือดของความบ้าคลั่งนั่นหยั่งลึกในตระกูลนี้…ปู่ของเขาเสียสติไป พ่อของเขาก็พ่ายแพ้ให้กับมัน…”
เลือดในกายของบิลโบเย็นวาบ…ตระหนักชัดเจนแล้วว่านี่เป็นเรื่องที่เขาไม่ควรรู้เลยจริงๆ
“…แล้วเจ้ากล้าสาบานได้หรือ…ว่าธอริน โอเคนชีลด์เองก็จะไม่ตกลงในความบ้าคลั่งนั่นเช่นเดียวกัน??”
พ่อมดและเอลฟ์โต้เถียงกันต่อจนกระทั่งสองร่างหายลับไป…แต่นั่นไม่อยู่ในการรับรู้ใดของบิลโบแล้ว สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือคนที่ตนไม่กล้าแม้จะหันไปมอง…ไม่ต้องถามก็รู้ว่านั่นเป็นความจริง – ที่จะเป็นความลับหรือไม่ก็ตาม – ที่ธอรินต้องไม่มีวันอยากให้ใครได้ยิน โดยเฉพาะคนนอกที่เป็นแค่ฮาล์ฟลิ่งอ่อนหัดอย่างเขา
จากปลายสายตา…เห็นได้ว่าร่างขององค์ราชาหันไปอีกทางราวกับไม่ต้องการจะมองหรือโดนมอง หากฮอบบิทน้อยก็รู้สึกได้…ความเจ็บใจ ความกังวล ความโกรธเกรี้ยว และแม้แต่ความหวาดหวั่นเจือจาง…น้ำหนักของภาระที่อีกฝ่ายแบกรับไปจนถึงบาดแผลในหัวใจเจ้าตัว…ทุกสิ่งแทรกซึมมาในความเงียบงันระหว่างกัน สิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ไปถ่วงจิตใจของบิลโบราวกับก้อนหิน…อยากจะทำอะไรสักอย่าง พูดอะไรสักคำ หากก็รู้…คำปลอบโยนรังแต่จะทำให้บาดแผลในใจของธอริน โอเคนชีลด์ผู้หยิ่งทระนงเจ็บซ้ำซ้อนมากขึ้นเท่านั้นเอง
แล้วจู่ๆ วินาทีนั้น…คฤหาสน์สีงาช้างที่เฝ้าฝันถึงมาแต่วัยเยาว์ก็ดูซีดจาง ถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาถึงปราสาทใหญ่ใต้ขุนเขาและนครที่มั่งคั่งด้วยเพชรนิลจินดาเกินคณา…ความปรารถนาที่ดูยิ่งใหญ่เกินปกติจนน่าสงสัยว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงคิดฝันขึ้นมาว่าต้องการจะเห็น
หากในวินาทีที่ตัวเองถูกโอบไว้ในอ้อมกอดของราชาผู้ไร้บัลลังก์…บิลโบก็เข้าใจขึ้นมาได้ว่าความปรารถนาใหม่ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเรียบง่ายกว่าทุกๆ ครั้งที่ตนเคยมีมาตลอดเสียอีก
…เขาอยากให้ธอรินมีความสุข
*****
“ข้าคิดถึงแบ็กเอนด์…ข้าคิดถึงหนังสือ เก้าอี้นวม แล้วก็สวน…มันคือที่ของข้า มันคือบ้าน นั่นแหละที่ทำให้ข้ากลับมา…เพราะท่านไม่มีที่ที่เรียกได้ว่าเป็นบ้าน บ้านของท่านถูกแย่งไป…แต่ข้าจะช่วยทุกทางที่ข้าทำได้ให้ท่านได้มันคืนมา”
แม้ว่านั่นจะเป็นประโยคที่ตนเองกล่าวตอนต้นๆ ของการเดินทางนี้…หากระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้บิลโบลืมเลือนไปเลย เพราะนี่เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับคำพูดที่เขาสามารถบอกกับธอรินได้มากที่สุดโดยที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองได้รับการสงสาร บิลโบไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรว่าสิ่งที่ผลักดันให้ตนมายืนถึงตรงนี้ได้ไม่ใช่ความเวทนาใดๆ เลย…แต่เป็นความรู้สึกที่ผสมผสานมากมายเสียจนตัวเขาเองก็แยกไม่ได้
ต้องการจะปกป้อง..ต้องการจะทำให้มีความสุข…ต้องการจะเห็นดวงตาของท่านไร้แววเจ็บปวดหม่นหมองใดๆ…
บิลโบรู้ว่ามันน่าหัวเราะยิ่งกว่าอะไรที่ฮาล์ฟลิ่งอ่อนหัดอย่างตนคิดจะปกป้องราชาแห่งนครใต้ขุนเขาอันยิ่งใหญ่นี้…แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดคิดหวังเงียบๆ ในใจต่อไปได้ ความปรารถนานี้ถูกเก็บไว้ในกล่องใบเดิมที่เคยบรรจุความใฝ่ฝันอันเป็นที่รัก…หากผิดกับทีแรกที่บิลโบจะลืมมันไป ตอนนี้…กล่องใบน้อยนี้ถูกเปิดบ่อยครั้งในห้วงความคิด เก็บรักษาอย่างทะนุถนอม…ตั้งใจมั่นคงหากเงียบงันดั่งเสียงสะท้อนลึกล้ำว่าเขาจะทำมันให้เป็นจริงได้
บิลโบมั่นใจว่าธอรินคงไม่รู้ถึงความตั้งใจนี้…ซึ่งเป็นเรื่องดีแล้วเพราะเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตีความมันไปในแง่ใด จนถึงปัจจุบันนี้…ถึงจะยังคงโดนดุอยู่บ้างเวลาทำอะไรเกินตัว แต่บิลโบก็คิดว่าตนกำลังพัฒนามากขึ้นๆ กับทุกสถานการณ์ คำชมของคณะเดินทางและรอยยิ้มขององค์ราชาช่วยยืนยัน…เขาอาจไม่ได้ต่อสู้ได้เก่งกาจ แต่ในจุดนี้ที่ขาดไป…ฮอบบิทน้อยก็มีความสามารถในการจะเล็งเห็นถึงสิ่งที่คนอื่นมองข้ามและมีความกล้าหาญในการจะลงมือทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้ามาแทนที่
การปกป้องของเขาอาจไม่ใช่การใช้อาวุธใด…แต่มันก็คือการปกป้องอีกฝ่ายให้ปลอดภัยเหมือนกันอยู่ดี…
ลมหายใจถูกสูดเข้าลึกๆ เพื่อเรียกความกล้า…ด้วยธอรินในตอนนี้ไม่ได้ต้องการการปกป้องด้วยคมดาบ แต่ต้องการการปกป้องด้วยคนที่เล็งเห็นถึงสิ่งที่ถูกมองข้ามและกล้าในการจะลงมือทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าต่างหาก
…แม้ว่าการปกป้องนี้จะราคาสูงเหลือเกินก็ตามที
หากชีวิตที่ปลอดภัยก็มีค่ากว่าความรู้สึกที่แตกสลายมิใช่หรือ..?
ฮอบบิทน้อยเม้มริมฝีปาก…คิดถึงสายตากังวลหนักหน่วงขององค์ราชา คิดถึงเสียงทุ้มต่ำที่นุ่มนวลลงยามเล่าเรื่องอดีตของเอเรบอร์ แล้วก็คิดถึงปลายดาบที่จี้ให้ตนถอยห่างจากกองสมบัติ คิดถึงดวงตาสีซีดที่ไร้แววของสติรับรู้เรื่องอื่นใดนอกเหนือจากชื่อของเพชรหัวใจแห่งขุนเขา…แล้วเขาก็ถามตัวเองว่าจะมาล้มเหลวเอาตอนที่จุดหมายอยู่ห่างไปเพียงสายหมอกกั้นเช่นนี้ได้อย่างไร
มือจึงกำอาร์เคนสโตนแน่น…อัญมณีเม็ดงามที่สะท้อนแสงแม้ในความมืดนี้กลับทำให้บิลโบรู้สึกเกลียดชังขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
เขาปกป้องธอรินจากทุกสรรพสิ่งมาแล้วตลอดทาง…และครั้งนี้ เขาจะปกป้องธอรินจากตัวอีกฝ่ายเอง
*****
“ไปให้พ้น…แล้วก็อย่าได้กลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก จำไว้…ไม่มีมิตรภาพใดเหลือระหว่างข้ากับเจ้าอีกแล้ว”
นั่นเป็นถ้อยคำที่เจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอันมืดดำ…ธอรินรู้สึกได้ถึงมันราวกับความรู้สึกนี้เป็นเลือดที่ไหลเวียนทั่วร่าง ความเกลียดชังแล่นพล่านในความคิด…ราวกับคลื่นบ้าคลั่งที่ก่อตัวเพิ่มมาในผืนน้ำกลางพายุ มีเพียงความรุนแรงที่มากขึ้น…พร้อมจะทำลายทุกอย่าง
บิลโบ แบ็กกินส์ยังกล้ามีหน้ากล่าวลาทุกคนก่อนจะเดินจากไป…ธอรินจำได้ว่าตนตวาดด่าทอตาม หากก็เหมือนตั้งแต่ต้นที่เฉลยว่าทำไมบาร์ดถึงมีอาร์เคนสโตนในครอบครองได้…เจ้าฮาล์ฟลิ่งนี่ยังคงรับมือกับโทสะของเขาด้วยความสงบนิ่ง และถ้ามองไม่พลาด…ริมฝีปากนั่นยกยิ้มเสียด้วย แม้ว่านั่นจะเป็นยิ้มอันแสนเศร้าที่ทำให้แม้แต่หัวใจอันมืดดำตอนนี้ของธอรินบีบรัดในอก
ทำไมเจ้าถึงยิ้มแบบนั้นให้ข้า…ทำไมข้าถึงปวดใจนักยามที่คิดว่าเจ้ากำลังร้องไห้อยู่หลังรอยยิ้มนั่น…
หากนั่นก็เป็นเหมือนหยดน้ำในเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำ สติจมดิ่งสู่ห้วงเงาสีดำที่กลืนกินทุกความรู้สึก…เหลือไว้เพียงความบ้าคลั่งและจิตใจที่กระหายเพียงอัญมณีและทองคำ
แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกลบลืม…เวลาก็เหมือนหยุดลงตอนที่บิลโบ แบ็กกินส์หันกลับมาสบตาด้วยเป็นครั้งสุดท้าย แววตาและสีหน้าของเจ้าตัวนั้นโหยไห้อ้างว้าง…ราวกับทุกสิ่งที่รายล้อมตอนนี้กำลังกดทับใจให้แหลกสลาย คำพูดมากมายดูจะเจือในดวงตาระริกสีเข้มนั่น…หากไม่มีประโยคใดถูกเอื้อนเอ่ย
แต่ – ราวกับเป็นเสียงสะท้อนที่ห่างไกลจนเหมือนไร้ตัวตน – ธอรินก็รู้สึกว่าตนได้ยิน
ต่อให้ท่านจะเป็นอย่างไร ข้าจะปกป้องท่านเสมอ…และหวังเหลือเกิน…ว่าท่านจะกลับมาหาข้าได้…
คมเขี้ยวบ้าคลั่งสีดำฉีกกระชากกลับลงมาตอนนั้นเอง…แล้วธอริน โอเคนชีลด์ก็ลืมเลือนไปเสียสิ้น…ว่าเจ้าของถ้อยกระซิบในเสียงสะท้อนนั่นคือใคร
Fin.
*************************************
โอ่ยฟฟฟ ดราม่าสุดพลัง ฮือออ
ชอบง่ะ ทิฟฟฟฟฟฟฟย์ มันฟินแบบหน่วงๆ นี่พึ่งดูเอ็กเทนด์ฉากนั้นจบพอดี ได้ใจมาก T T
LikeLike
ฮือ ดูแล้วทนไม่ได้ ไม่ขอทนด้วย ฟฟฟ
ต้องฟาดฟิคออกมาสักเรื่องแงงงงงงงงงงง
LikeLike
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ฟิคพี่ทิพย์ทำลายชีวิตอีกล้าววววววววววววววววววว
มาอ่านฟิคพี่ตอนเพิ่งดูคลิปเอ็กเทนด์จบพอดีด้วย ฮือออออ
สงสารบิลโบสุดพลัง แงงงงงงงงง
(คิดไปคิดมาก็มโนว่า เอ๊ะ หรือฟิคนี้จะเป็นอินโทรเหตุการณ์ก่อนเข้าสู่ฟิคการเมือง ฟฟฟฟฟ)
/จะว่าไปมันก็เหตุการณ์เกือบต่อเนื่องกันพอดีนะ /ว่าไปนั่น
อ่านตอนจบสองสามรอบเลยอ่ะ ฮือ ดราม่าาาาาาาาาาาาา อิราชาขุนเขาไร้น้ำยาเอ๊ย
(อย่าให้คิลีฟิลีไม่มีท่านป้าสิฟะ /คนละเรื่องและ)
LikeLike
นั่นสิเนอะ พี่เขียนด้วยฟีลลิ่งผสมกับทุกอย่างเลยค่ะ เอ็กเท็นดราม่าและแต่งการเมือง ฟฟฟฟ
แต่ยังไงตัวแต่งการเมืองก็จะมีอีกบท(แต่แนวๆนี้)เป็นของตัวเองอยู่แล้วค่ะ
นี่เลยอาจจะถือได้ว่าซ้อมมือ ก้ากกกกก
LikeLike
ขอกรี๊ดใส่พี่ทิพย์แรงๆ กรี๊ดดดดดดฟหกดฟกกดฟกกฟหกกฟกกดหหดหฟดหดฟกดหดฟกดหฟกดหกดฟหดดฟกดหฟหกดหกฟดหหกดฟกพี่ทิพย์ทำร้ายน้องโฮวววววบ้าเจงงงงเป็นวันช็อตที่เจ็บได้ใจมากแงงงงอยากได้อีกฟหกดฟหดดกฟหดกฟหกด
ฉากเอ็กเทนพลังรุนแรงนักดูจบอ่านฟิคนี้ต่อเลยน้องกำลังอ่อนไหวง่ายฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟโฮฮฮ/ปาทิชชู่ใส่ธอริน
LikeLike
อัลไลกันอย่ามาใส่ความเลา เลาไม่เคยทำร้ายใคร ฟฟฟฟ
ฟิคนี่กระต่ายพิมพ์ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
เอ็กเท็นทำลายชีวิตมากฟฟฟฟฟ ต้องเขียนระบายประชดอิไมโอ๊คหน้าโง่หน่อย
LikeLike
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟหกด่าสวฟหาด่หาส่ดฟหกวเา้ฟ่กเ้ฟหก่วเ้วฟห่กเ้วหกเ้ฟกา่้วง
ฟิคพี่ทิพย์ทำร้ายยยยยยยยยยยยยยยย ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย อ้ากกกกกกกกกกกกกกดราม่าาาาาา ท่านราชาแคระงี่เง่าเจงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่รู้หราว่าฮาฟลิ่งก็มีหัวใจจจจจจจ ถถถถถถถถถถถถถถถถ
LikeLike
คนแคระหน้าโง่ค่ะฟฟฟฟฟฟ สงสารฮอบบิทนัก
แต่พี่ไม่เคยทำอะไรใครนะคะอย่าใส่ความพี่ถถถถถ
LikeLike
ดราม่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เค้ารักดราม่าาาาาาาาาาาาาาา
LikeLike
ดราม่าลุงป้านี่มันแซ่บเสมอจริงๆค่ะแงงงงง
LikeLike
พึ่งได้แตะคอมมมมมมมมมมมมม กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดราม่า ดราม่าขมๆปวดใจทำไมทำให้หนูอยากกรีดร้อง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ มันขื่นขมปวดร้าว แต่อุปสรรคทำให้ความรักยิ่งใหญ่นะคะท่านลุงท่านป้า ฟฟฟฟฟฟฟหกสาเสวกาหดวสหาวสด
คลิปเอ็กเท็นเด็ดอยู่ไหนนนนนนน /พุ่งตัวไปหาดูต่อ
LikeLike
ดราม่ามากจริงๆแค่ซีนสั้นๆเนี่ยฟฟฟฟ ทั้งเรื่องปมหลังชีวิตลุงและฟีลลิ่งป้า
ลองไปหาคลิปดูนะคะ พี่แปะไว้แล้วในเพจ ฟฟฟฟ โคตรดราม่าแงงงง
LikeLike
ดราม่าขนาดนี้ฆ่ากันเลยดีกว่าพี่ทิพย์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
โอยยยย อนันต์ชอบฟฟฟฟฟฟฟ นี่คือได้อารมณ์มาก พี่ทิพย์อัจฉริยะฟฟฟฟฟฟ พี่ทิพย์แบ่วเรื่องเป็น 3 พาร์ทหลักๆแบบนี้คือโคตรได้อารมณ์ พี่ทิพย์เอามาเชื่อมโยงแล้วภาษาโทนนี้ทำเอาอนันต์คิดว่าเป็นโทลคีนแต่งแล้วหฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ แบบว่าทุกอย่างลงตัวมากข่าาา
อนันต์ชอบมากที่พี่ทิพย์กล่าวถึงจิตใจธอริน พอพี่ทิพย์ใช้คำว่า คมเขี้ยวบ้าคลั่งสีดำ นั่นมันทำให้มองอารมณ์และการกระทำนั้นของธอรินออกมาเป็นฉากๆเลย แงงงงงงง ได้ฟีลมาก อนันต์ปลื้มฟฟฟฟฟฟฟฟ
อิ่มค่ะเรื่องนี้ อนันต์บอกตรงๆเลยว่าอิ่มมาก สมกับเป็นแนวดราม่า เพอเฟ็กดราม่าสุดๆเลยค่ะพี่ทิพย์ YvY
LikeLike
โฮรกกกก เจ้าพูดซะดีเกินจริง พี่แค่เขียนไปเรื่อยๆเอง ฟฟฟฟ
มันแบบ มือไปเองอ่ะ ไม่ได้คิดอะไรเลยนะแงงงงง
พิมพ์ไปสดๆเองเลยเจ้า เทียบอะไรไม่ได้หรอกฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
เพราะตัวคลิปเองมันดราม่าพอแล้ว สายตาริชาร์ดคือจี๊ดสุด บรรยายได้เป็นล้านๆคำพูดล้านๆความรู้สึก
พี่ว่าพี่ยังเขียนออกมาได้ไม่ถึงเสี้ยวเลย ฟฟฟฟฟฟ ไปหาคลิปดูแล้วจะเข้าใจค่ะ
LikeLike
เม้นต์ช้าไปมั้ย เพิ่งได้จับคอม555
งื้อออออ เราชอบบบบบบบ
ท่านลุงท่านป้าต้องดราม่ามันถึงจะฟิน5555
LikeLike
ให้ตายเถอะพี่ทิพย์ >O< มันดราม่าได้ใจจริงๆเลย ชอบแนวนี้ที่สุดแล้ว
LikeLike
ตอนจบเศร้ามากค่า อ่านนิยายถึงตอนจบนี่แบบ โฮวววว ธอรินนนน ขอบคุณที่แตงฟิคดีๆมาให้อ่านนะคะ
LikeLike
โทลคีนใจร้ายมากค่ะฮือ พีเจก็ยิ่งใจร้าย…ถ้าจะจบแบบนี้ทำไมต้องทำธอรินมาซะมาเจสติกขนาดนี้ด้วยยยย ติ่งรับไม่ไหวค่ะ TmT
LikeLike
@kadeart
ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ขุ่นน้องทิพย์คะะะะะะะะะะะะะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ดราม่าาาาาฮือออออออออออ เธออออออออออออออ //เขย่าคอ ธอรินนน บ้าาา บ้าก่าาาาาาาาาาาาาแงงงงงง หนอยยยยยยฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ //ปาตูดหมาใส่รัวๆ
@fukumoji
เอาน้ำตาเราคืนมากนะ T^T โฮวววววววววว ธอรินบ้าบ้าบ้าบ้าบ้า
@caogonly
ฉันเพิ่งถูกเอกซ์เทนฮอบบิชชชตอนเด็กกับโมเมนต์ลุงป้าทำร้าย เธอเอาฟิคมาทำร้ายต่อ ไม่ต้องนอนละคืนนี้ฟฟ
เจ้า…ฆาตกร….ฆาตกรมาก โอยย สงสารป้าาาา
LikeLike
ฮื่อออ หน่วงได้อีก ดราม่าได้อีก T___T
/วิ่งไปหาคลิป extened ดู
LikeLike
ฟิคนี้มันบีบหัวใจT_Tดราม่าได้มืดมนมาก ทำเอาคนอ่านน้ำตาไหลTT
LikeLike
Orz…ฟิคนี่คืออะไรกันคะเนี่ย ทำไมมันทั้งหน่วง ทั้งเจ็บได้ขนาดนี้คะคุณทิพย์ แง้ง้ง้ง้ //วิ่งเข้าไปร้องไห้ใส่
LikeLike
พี่ทิพย์ทำร้ายยยยยย เจ็บปวดมากมาย งื้อออออ
ความรู้สึกของทั้งสองคนสุดยอดมากค่ะ อธิบายไม่ถูกเลย
รู้แต่ว่าอยากร้องไห้ตามแป๊บ
ธอรินอย่าทำบิลโบ้เจ็บปวดสิคะ~ งื้ออออออ~!!///เกาะขาธอริน
แอบลุ้นตลอดทั้งเรื่องเลยว่าอย่าเพิ่งจบเลยยย ยังเศร้าอยู่
อยากให้มีความสุขกันมั่ง
แต่แล้ว…เจ็บปวดดดด~!!!
LikeLike
เจ็บจี๊ดเลย ToT
LikeLike
ดราม่าเกินไปแล้ว รู้สึกอยากถีบธอรินตกภูเขาเลย…บังอาจทำให้โบ้เสียใจ
LikeLike
Pingback: [TAG] สืบประวัตินักเขียน | tippuri's blog (◉◞౪◟◉✿)·