[The Maze Runner Fic][MiNewt] The Frustrating Classifications of Rice & Seaweed

The Frustrating Classifications of Rice & Seaweed
The Maze Runner fanfiction by Tippuri~ii * 

 

 

 

 

Pairing:  Minho x Newt
Fandom: The Maze Runner

Type: AU fanfiction

 

 * แฟนฟิคชั่นเเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น BL…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *

 

************************************

 

 

When the sun comes, you’re my shade.
When the moon comes, you’re a little firefly.
I love you more than I can say.
No I’ll never fly away.

 

I’m your firefly, I’m your shade.
I wanna live in a house that we’ve made.
I wanna love you everyday.
And I’ll never fly away.

 

 

– Your Firefly, by Ben Cocks (listen)

 

*********

 

 

 

 

สำหรับโรงเรียนเดอะเกลดไฮสคูลแล้ว…ทุกวันของชมรมกรีฑาเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากวาเลนไทน์เลยสักนิด เพราะไม่ว่าจะเป็นวันไหนเดือนไหน…ม้านั่งริมสนามที่มีไว้ให้โค้ชนั่งหรือนักกีฬาวางของก็จะโดนใช้อย่างผิดจุดประสงค์ตลอดปี ซึ่งนั่นก็คือการเป็นที่รองรับกล่องของขวัญสีหวานแหวว ดอกไม้ช่อเล็กช่อน้อย ไปจนถึงขนมทุกประเภทในหีบห่อมากมายเท่าที่จะจินตนาการไหว

 

 

 

 

 

แต่ไม่ว่าผู้ส่งข้าวของเหล่านี้จะมีเยอะแค่ไหน ผู้รับก็ยังคงเป็นคนคนเดียวเสมอ…ประธานชมรมผู้นอกจากจะมีสถิติเหรียญทองซ้อนกันเป็นโหลแล้ว เจ้าตัวก็ยังมีความสุขุมและนิสัยรักสันโดษเป็นตัวเสริมให้มาดเท่แบบกินขาดยิ่งสูงเสียดฟ้าเข้าไปอีก

 

 

 

 

 

ซึ่งนิวท์ผู้เรียนชั้นเดียวและห้องเดียวกับอีกฝ่ายมาตั้งแต่สมัยจูเนียร์ไฮนั้นก็รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี เพราะถึงอาจจะไม่เคยเป็นหนึ่งในเจ้าของของขวัญในกอง…แต่ตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนที่แอบรู้สึกเกินเลยเส้นมิตรภาพกับคุณประธานชมรม – หรือมินโฮ – มาได้สักพักแล้ว

 

 

 

 

 

(ซึ่งแน่นอน…‘สักพัก’ ของนิวท์หมายความได้ว่า ‘ตั้งแต่สมัยจูเนียร์ไฮ’)

 

 

 

 

 

แต่ไม่ว่าจะรู้สึกชอบอีกฝ่ายมากขึ้นทีละนิดแค่ไหน…นิวท์ก็ไม่เคยคิดจะยอมให้ตัวเองถูกนับเป็นหนึ่งในเหล่าผู้คนที่ส่งของขวัญไปแบบไม่หยุดไม่หย่อน ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเขายังมีมากไปเกินไป…เพราะฉะนั้น หนุ่มน้อยผมทองเลยพอใจกับการที่จะได้ชื่อว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นแล้วก็ใช้ชีวิตของตนไปตามปกติ ยินยอมให้ตัวเองมองไปทางคุณประธานชมรมกรีฑาแค่ตอนที่เจ้าตัวไม่ได้สังเกตเท่านั้น

 

 

 

 

 

แล้วอีกเหตุผลก็คือ…มันเห็นกันได้อยู่ชัดๆ ว่ามินโฮไม่เห็นว่าของขวัญพวกนั้นมีค่าเลยน่ะสิ…

 

 

 

 

 

เด็กหนุ่มผมดำแสดงชัดเจนเสมอว่าตนไม่ได้ต้องการสิ่งของเหล่านี้เลย…พวกมันมักจะถูกมอบต่อให้เพื่อนๆ กลุ่มที่มินโฮสนิทด้วยในตอนจบวันเสมอ หรือไม่ก็เห็นได้ชัดๆ ว่าโดนทิ้งไว้หรือลงขยะไปด้วยซ้ำในบางที และนิวท์ไม่คิดว่าตัวเองจะรับได้ถ้าเห็นสิ่งที่ตนตั้งใจมอบให้มินโฮโดนอีกฝ่ายมองว่าเป็นแค่ข้าวของไร้ค่าอีกชิ้น

 

 

 

 

 

ของขวัญพวกนี้เหมือนให้มาโดยไม่ได้สนใจว่ามินโฮอยากได้ไหม…เขาอยากให้สิ่งที่มินโฮต้องการจริงๆ มากกว่า…

 

 

 

 

 

แผนนี้ดีไร้ที่ติ ยกเว้นแค่จุดเดียว…นิวท์ไม่เคยสนิทกับมินโฮมากพอที่จะถามได้ว่าเจ้าตัวชอบหรือไม่ชอบอะไร

 

 

 

 

 

 

**

 

 

 

โปรเจค ‘นี่คือข้าวโพดที่ฉันปลูกเองนะ’ ของชมรมทำสวนของโรงเรียนเดอะเกลดไฮสคูลคือโปรเจคการปลูกข้าวโพดให้ได้ออกมาในคุณภาพระดับเดียวกับที่ซื้อหาได้ในท้องตลาด ซึ่งมันก็สำเร็จลงได้อย่างสวยงามด้วยการสละเวลาว่างส่วนตัวของประธานและสมาชิกชมรมอย่างมากมายในการมาดูแลเหล่าต้นข้าวโพดเหล่านี้จนฝักงอกงามได้ที่

 

 

 

 

 

และเพราะประธานและสมาชิกของชมรมทำสวนนี้คือตัวเขาเองคนเดียวทั้งคู่…นิวท์เลยต้องรับหน้าที่เป็นคนปิดโปรเจคนี้ด้วย ซึ่งนั่นก็คือการทำหน้าที่แจกเหล่าฝักข้าวโพดต้มสีเหลืองสดใสนี้ในเวลาพักทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของเหล่านักเรียน
ซึ่งถ้านั่นยังทำให้นิวท์รู้สึกอยากตายไม่พอ…การที่พี่หัวหน้าแม่ครัวอย่างเทรีซ่าบังคับให้เขาผูกผ้าสามเหลี่ยมบนศีรษะด้วยก็ช่วยเพิ่มน้ำหนักความอยากตายให้ได้เป็นอย่างดี

 

 

เพื่อนๆ ที่เดินเข้ามาตักอาหารล้อเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อน แถมไม่ใช่ทุกคนด้วยที่หยิบข้าวโพดไป…แต่เมื่อผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง นิวท์ก็เลิกงุ่นง่านใจแล้วเปลี่ยนมาหัวเราะไปด้วยตามประสาคนไม่คิดมาก…เพราะเขาก็รู้จริงๆ นั่นแหละว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันตลกชะมัด

 

 

แต่เสียงหัวเราะนั่นก็แปรเปลี่ยนมาเป็นแค่ยิ้มเกร็งๆ ตอนที่มินโฮเลื่อนตัวมายืนตรงหน้าโต๊ะพร้อมถาดเปล่าในมือ…ท่าทางเจ้าตัวคงจะเพิ่งเสร็จจากคาบพละตอนเช้ามา เพราะมีผ้าขนหนูผืนเล็กคล้องอยู่รอบคอและสีหน้าก็ดูเหนื่อยๆ อย่างสังเกตได้

 

 

มินโฮไม่ได้ชี้ว่าจะเอาข้าวโพดแต่อย่างใด…เด็กหนุ่มผมดำแค่ถามสั้นๆ “มีแซนด์วิชมั้ย?”

 

 

“มีสิ” นิวท์พูดทันที ลืมสนิทว่าตัวเองมีหน้าที่แค่แจกข้าวโพด “รอแป๊บนะ”

 

 

ว่าจบ ร่างผอมบางก็หันไปหั่นขนมปัง ทาทูน่าสเปรดลงไป ตัดไข่ต้มเป็นแว่นๆ ตามด้วยมะเขือเทศและแตงกวา วางแผ่นชีสทับ ปิดท้ายด้วยขนมปังแผ่นบน…ทุกกระบวนการนี้รวดเร็วและยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ไม่เสียชื่อประวัติการทำครัวของนิวท์เลยจริงๆ

 

 

“เอ้านี่” หนุ่มน้อยผมทองวางจานลงในถาด ยิ้มให้…รอยยิ้มที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าสดใสเหลือเกิน “แซนด์วิชได้แล้ว”

 

 

“ขอบใจนะ…” มินโฮพูด ก่อนจะเผลอถอนหายใจขึ้นกลางประโยค

 

 

“มีอะไรหรือเปล่า?” นิวท์ถามอย่างรวดเร็วเกินจำเป็นเพราะเริ่มวิตกจากกิริยานี้ “ให้ตาย…นายจะเอาแซนด์วิชแฮมชีสสินะ…”

 

 

“อ๋อ เปล่าๆๆ…ไม่มีอะไรๆ” มินโฮส่ายหน้า ก่อนจะแค่ยักไหล่แล้วพูดเนือยๆ “ฉันแค่…ฉันอยากกินข้าวห่อสาหร่ายมากๆ เลยก็เท่านั้นแหละ”

 

 

นิวท์เงียบลงแล้วพยักหน้าพร้อมส่งเสียงอือออแทน บอกตัวเองให้สงบสติซะ…ความเงียบที่มินโฮคงตีความเป็นความไม่พอใจ เพราะคุณประธานชมรมกรีฑาชะงักไปแล้วชะโงกตัวข้ามเคาเตอร์เข้ามาอีกนิด…เพื่อจะสบสายตาให้ได้ชัดๆ ตอนพูดประโยคต่อมา

 

 

“ไม่ใช่ว่าแซนด์วิชนี่ไม่น่ากินนะ…” ผงกศีรษะนิดๆ ไปที่อาหารบนถาด “อันที่จริง…ฉันว่านี่เป็นแซนด์วิชที่น่ากินที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นเลยล่ะ”

 

 

ว่าจบ คนมาดนิ่งก็ยิ้มบางๆ แล้วหยิบข้าวโพดเพิ่มไปด้วยก่อนจะเดินออกไป…ซึ่งนิวท์ก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยที่กิริยาง่ายๆ แบบนี้จะทิ้งให้หัวใจตนเต้นไม่เป็นจังหวะได้ขนาดนี้

 

 

 

 

 

 

**

 

 

นิวท์ไม่รู้หรอกว่าคนคิดค้นอินเทอร์เน็ตกับเว็บไซต์ยูทูปชื่ออะไร…แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร เด็กหนุ่มขอให้พระเจ้าคุ้มครองคนทั้งคู่ไปตลอดชีวิต

 

 

เพราะด้วยความช่วยเหลือของวิทยาการทั้งสองอย่างนี้…เด็กหนุ่มก็ได้ค้นหาข้อมูลส่วนประกอบของข้าวห่อสาหร่ายและดูวิธีทำอย่างละเอียด เมนูอาหารตะวันออกเป็นอะไรที่ดูท้าทายขัดกับหน้าตาอันเรียบง่าย…แต่หลังจากดูคลิปวิธีทำซ้ำๆ สักหน่อย นิวท์ก็ไม่รีรอที่จะเริ่มต่อกรกับมัน

 

 

แล้วถ้าจะให้ตัดสินจากการที่มันออกมาหน้าตาเหมือนกับในคลิปสอนทำและรสชาติใกล้เคียงกับตามร้านที่เขาเคยกิน…นิวท์ก็คิดว่าตัวเองชนะในการต่อสู้ครั้งนี้อย่างใช้ได้พอดูเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 

**

 

 

ในวันจันทร์ถัดมา…นิวท์ก็รอจนการซ้อมเลิกเรียนของชมรมกรีฑาจบลงแล้วจึงค่อยปรากฏตัวขึ้นที่ริมสนามกีฬาของโรงเรียน

 

 

สมาชิกคนอื่นของชมรมกลับบ้านกันไปหมดแล้ว…เหลือไว้เพียงคุณประธานชมรมที่นั่งดื่มน้ำอยู่บนพื้นหญ้ารอบนอกวงแหวนสำหรับการวิ่ง เพราะวันนี้ ม้านั่งที่ควรได้เป็นที่พักของนักกีฬาได้เต็มแน่นไปด้วยกองของขวัญและช่อดอกไม้เหมือนเดิม…สีส้มแก่ของแสงอาทิตย์อัสดงอาบย้อมไปทั่วบริเวณ สีสดที่กลับดูนุ่มนวลอย่างประหลาดยามที่เขามองมันแตะแต้มบนวงหน้าพราวเหงื่อของมินโฮ

 

 

“อ้าว นิวท์?” เด็กหนุ่มผมดำทักเมื่อเห็นว่าเป็นเขาที่เดินมาใกล้ เช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กตอนถามต่อ “ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”

 

 

นิวท์ส่ายหน้า มือกำเนื้อพลาสติกของกล่องทัพเพอร์แวร์ที่ถืออยู่แน่นขึ้นอีกนิดตอนพูดตอบ “ไม่ล่ะ…เพราะฉัน…อืม…”

 

 

รู้สึกรำคาญถ้อยคำไม่เป็นศัพท์ของตัวเองยิ่งนัก นิวท์เลยหยุดเพื่อรวมสติ…ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับมินโฮ พูดเรียบๆ ด้วยเสียงอันเป็นปกติ

 

 

“ฉันยังไม่กลับเพราะฉันเอานี่มาให้นายน่ะ”

 

 

มินโฮยังคงเงียบและดูงงนิดๆ…แต่ก็ยื่นมือมารับกล่องทัพเพอร์แวร์ไปโดยดี ก่อนจะเปิดมันออกดู…ข้างในมีข้าวห่อสาหร่ายหลายคำบรรจุอยู่จนเต็มกล่อง

 

 

“บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้เอามาให้นายแบบของขวัญแฟนคลับพวกนั้น” นิวท์ผงกหัวไปทางม้านั่ง “นายแค่บอกว่านายอยากกินข้าวห่อสาหร่าย…แล้วนั่นแหละ ฉันก็ทำมาให้ แค่นั้นเอง”

 

 

มินโฮเลิกคิ้วนิดๆ “นายจำได้?”

 

 

“จำได้สิ” นิวท์พูดตอบ ประโยคหลังตามมาอย่างไม่ทันห้าม “ฉันต้องจำได้อยู่แล้ว…”

 

 

มินโฮยังคงมีสีหน้าพิศวง…แต่ก็เหมือนจะมีรอยยิ้มแตะแต้มจางๆ ตรงมุมปากด้วย ดวงตาพินิจก้อนข้าวห่อสาหร่ายสักครู่…ก่อนจะพูดออกมา

 

 

“ที่ฉันอยากกินคือคิมบับของเกาหลีล่ะ” รอยยิ้มนั่นแปรเปลี่ยนเป็นหัวเราะนิดๆ “…แต่นี่มันมากิซูชิของญี่ปุ่นนะ”

 

 

คุณประธานชมรมทำสวนและมือวางอันดับหนึ่งด้านการทำอาหารแทบอ้าปากค้างอย่างไม่อาจทำใจเชื่อความพลาดของตนได้ลง…เขกหัวตัวเองในใจรัวๆๆๆ กับความไม่ได้เรื่องนี้ และนึกสงสัยปนอยากน้ำตาไหลว่าทำไมคนเอเชียถึงมีหลากเมนูอันไม่ซ้ำกันในต่างๆ ประเทศแต่ดันเรียกมันว่าข้าวห่อสาหร่ายเหมือนกันหมดแบบนี้

 

 

ให้ตายเถอะ…เห็นได้ชัดว่าพระเจ้ากูเกิ้ลเกลียดเขา…

 

 

นิวท์มัวแต่ยืนนิ่งงันอย่างทำอะไรไม่ถูก…จึงไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้มินโฮเริ่มหยิบชิ้นข้าวขึ้นมาทานแล้ว เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวไม่มีความขัดข้องใจใดเลยที่เมนูนี้มาจากต้นตำหรับที่ผิดประเทศ และตอนที่นิวท์ได้สติ…เขาก็ได้แค่มองคนตรงหน้าตนเคี้ยวอาหารฝีมือตัวเองอยู่อย่างนั้นโดยไม่ไหวติง

 

 

“นั่งเถอะ” มินโฮวางกล่องทัพเพอร์แวร์ลงบนตักแล้วเอามือข้างที่ว่างตบแปะๆ ลงตรงพื้นหญ้าข้างตัว ก่อนจะยิ้มเย้าๆ “…หรือนายกะจะมาแค่ให้อาหารแล้วยืนมองฉันกันหา?”

 

 

นั่นจึงทำให้นิวท์เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังยืนกอดอกค้ำศีรษะมินโฮอยู่…หนุ่มน้อยผมทองรีบเคลื่อนตัวไปนั่งข้างๆ อีกฝ่ายทันที ก่อนที่ความเงียบจะทิ้งตัว…นิวท์ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี และมินโฮก็ดูจะสนใจแค่ข้าวห่อสาหร่ายในมือ

 

 

“แล้ว…”

 

 

ความเงียบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนหนุ่มน้อยผมทองทนไม่ไหวเอง…เขาเริ่มบทสนทนาขึ้น “แล้ว…คิมบับที่นายอยากกินมันเป็นไงล่ะ?”

 

 

“ไส้มันจะไม่เหมือนกับของญี่ปุ่นน่ะ” มินโฮอธิบายง่ายๆ “ของญี่ปุ่นจะเป็นพวกปลาดิบ…แต่คิมบับจะไส้เป็นผักกับเนื้อวัวน่ะ”

 

 

เจ้าตัวแอบขำนิดๆ…ดูจะเป็นเพราะเอ็นดูมากกว่าเยาะเย้ย พูดเสริมยิ้มๆ “แต่ยังไงมันก็คือข้าวห่อสาหร่ายล่ะนะ…ไม่แปลกหรอกที่นายจะสับสนน่ะ”

 

 

พ่อครัวเอกหน้าร้อนไปถึงหู พึมพำว่าเข้าใจแล้วว่าตนผิดไปยังไง…และก็ไม่ชอบเลยที่มินโฮเอ่ยประโยคนี้ตามมา

 

 

“แต่ยังไงก็ขอบใจนะที่ทำมาให้ฉัน…ฉันชอบนะ”

 

 

“โอเค…” นิวท์ปรับท่าเป็นนั่งกอดเข่า หวังจะซ่อนหน้าตัวเองได้บ้างไม่มากก็น้อย “…ชอบก็ดี”

 

 

ความเงียบโอบล้อมอีกครั้ง…ดวงตาของเด็กหนุ่มผมทองหลุบต่ำ มองเพียงภาพเบื้องหน้า…สนามหญ้าเขียวขจีกับวงลู่วิ่งสีน้ำตาลแดงโดนอาบย้อมให้ดูเจือด้วยสีเหลืองทองของยามเย็น ดวงอาทิตย์สีส้มแก่กำลังคล้อยลงหาผืนดิน…สายลมพัดกรูให้ความรู้สึกเย็นชื้น บอกให้รู้ว่าแรกรัตติกาลใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว

 

 

“นี่…”

 

 

คราวนี้เป็นมินโฮบ้างแล้วที่เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา ทำให้นิวท์หันกลับไปมองอีกฝ่ายอย่างเผลอตัว…ได้พบว่าเด็กหนุ่มผมดำกำลังจ้องมองมากิซูชิคำสุดท้ายอยู่

 

 

“อืม…” มินโฮส่งเสียงฮึมฮัม ก่อนจะพูดขึ้น…เรียบนิ่งตรงไปตรงมา “ต่อไปน่ะ…ถ้ามีใครมาขอให้นายทำข้าวห่อสาหร่ายให้—”

 

 

“โอเคๆ…ฉันรู้แล้วน่า” นิวท์แทรกขึ้น คิดดีใจที่ตนไม่ได้พูดความรู้สึกของตัวเองออกไป…เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาควรตัดใจได้แล้ว “…ฉันจะถามเขาให้ดีก่อนว่าเขาจะเอาคิมบับหรือมากิซูชิ พอใจมั้ย?”

 

 

มินโฮส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ใช่ ก่อนจะหันมาสบตา…ยิ้มบางๆ ตอนที่เอ่ยประโยคนี้

 

 

“ถ้ามีใครมาขอให้นายทำข้าวสาหร่ายให้…นายบอกขอโทษเขาไปนะ” รอยยิ้มนุ่มนวลนั่นกว้างขึ้นอีกนิด…เจ้าเล่ห์กวนๆ เล็กน้อย “…เพราะต่อไปนี้ นายจะทำข้าวห่อสาหร่ายมาให้ฉันคนเดียวแล้ว โอเคมั้ย?”

 

 

นิวท์รู้สึกเหมือนมีพายุผีเสื้อพัดวูบอยู่ในหัว…ทิ้งให้เขาทำได้เพียงอ้าปากค้างนิดๆ พร้อมหน้าแดงซ่าน ก่อนจะขยับๆ เข้าไป…ยังคงไม่ค่อยแน่ใจและลังเล…แต่สุดท้าย เขาก็เข้าไปได้ใกล้พอจะพิงตัวและอิงศีรษะเข้ากับท่อนแขนและไหล่ของมินโฮ

 

 

อีกฝ่ายไม่ได้พูดหรือมีท่าทีปฏิเสธอะไร…นิวท์จึงกระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยตอบคำถามที่ค้างเติ่งอยู่เมื่อครู่

 

 

“…โอเค”

 

 

เสียงหัวเราะเบาๆ ของมินโฮสะท้อนฮึมฮัมผ่านสัมผัสมาให้นิวท์ได้รับรู้…มันฟังดูมีความสุขจนน่าโมโหชะมัด และนั่นจึงทำให้เด็กหนุ่มผมทองตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้าข้าวห่อสาหร่ายคำสุดท้ายมาจัดการเองเป็นการเอาคืน

 

 

 

 

 

 

**

 

 

หลังจากวันนั้น…มาตรการไม่รับของขวัญใดๆ ทั้งปวงก็ถูกเริ่มต้นใช้อย่างจริงจังโดยประธานชมรมกรีฑาแห่งโรงเรียนเดอะเกลดไฮสคูล

 

 

นั่นจึงทำให้ม้านั่งนักกีฬาได้ว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในเวลาหลายเดือน…แต่จะเรียกว่าไม่มีอะไรเลยก็คงไม่ถูก เพราะถึงตอนนี้จะไร้เงาของของขวัญหรือช่อดอกไม้แล้ว…เจ้าม้านั่งนี่ก็ยังคงมักจะมีกล่องทัพเพอร์แวร์หน้าตาธรรมดาไร้ความโรแมนติกมาวางไว้อยู่เสมอ

 

 

ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมประธานชมรมกรีฑาผู้สีหน้าไม่เคยเปลี่ยนกับขนมแพงๆ กล่องไหนกลับอมยิ้มเสมอเวลาเห็นเจ้ากล่องพลาสติกนี่ และก็ไม่มีใครกล้าถามด้วยว่าข้างในกล่องนี้จะเป็นอะไร…ทุกคนได้แต่เพียงจินตนาการว่ามันคงเป็นของที่อร่อยมากของมากที่สุด

 

 

นั่นจึงทำให้วันที่เจ้ากล่องนี้ถูกถือมาโดยประธานชมรมทำสวน…คำเฉลยจึงทำให้ทุกคนผิดหวังไม่น้อย

 

 

“โทษทีที่ช้านะวันนี้…เอ้า ข้าวห่อสาหร่ายของนาย”

 

 

ไม่มีใครเข้าใจว่านี่มันเป็นอะไรที่พิเศษยังไง แต่ประธานชมรมกรีฑากลับหัวเราะอย่างเอ็นดูปนยินดี…แล้วก็โน้มตัวเข้าไปจูบแก้มแดงๆ ของอีกฝ่ายเบาๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Fin.

 

*************************************

ทำcomment boxเป็นกูเกิลดอคแล้วค่ะ ไม่ต้องlog inอะไรเลย สะดวกดี จะเรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องไหนๆก็เม้นได้หมดเลยนะคะ ❤

>>Tippuri~ii* ♥ COMMENT BOX<<

แต่ถ้าสะดวกเม้นในเอนทรีเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ >< ขอบคุณมากนะคะ

*******************************

 

ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟเกิดอะไรขึ้นน่ะเกิดอัลไลขึ้นนนนนนนน

 

 

ก็…เมซรันเนอร์อีกเรื่องแล้วอ่ะค่ะ ทำไมนะทำไม…………. //มองพื้น ควรเลิกซึนแล้วยอมรับสินะคะว่าตัวเองชิปหนังเรื่องนี้ //ร้องไห้

 

 

เห็นหนุ่มๆแล้วมันอดใจไม่ได้ มันต้องเขียนไฮสคูลเอยูค่ะ / _ \ ทิพย์แพ้เอยูสถานศึกษาทุกระดับชั้นจริงๆค่ะแงงงงง แล้วมินโฮนี่ก็ให้มาดเซมไป คุณประธานชมรมอะไรงี้มากๆๆๆๆเลยค่ะ นั่นแหละ…ฟิคเลยออกมาโชโจมังงะมากเลยก้ากกกกก ส่วนนิวท์คลุงที่รักของทิพย์(ฆรี๊ษษษษ)ก็น่ารักมากค่ะเวลานั่งรดน้ำต้นข้าวโพดงกๆคนเดียว ฮาาาาา แกล้งด้วยรักนะคะ ;//////;

 

 

แล้วนอกจากนั้น ฟิคเรื่องนี้ก็ได้ไอเดียมาจากการที่ทิพย์คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องค่ะ…คือเราพูดถึงข้าวห่อสาหร่ายกัน คุยกันอยู่สักพักเลยถึงจะเอะใจว่าคนนึงพูดถึงคิมบับ อีกคนพูดถึงซูชิ ฮาาาา กลายเป็นคุยกันคนละเรื่องเดียวกันอยู่ตั้งสองนาน พอมาคิดถึงเหตุการณ์นี้ใหม่…เลยได้เป็นฟิคเรื่องนี้ค่ะ เพราะน้องเคะที่ตั้งใจจะทำเรื่องดีๆให้เมะดีใจแต่ปรากฏว่าพลาดเองระดับเฟลสุดพลังนี่มันเงิบน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ นึกภาพเป็นนิวท์อ้าปากค้างแก้มแดงๆแล้วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ //คำรามแบบโศกา

 

 

ก็แบบนี้ล่ะค่ะ…ถึงได้ออกมาเป็นเอยูรั่วๆเรื่องนี้ ขัดกับเรื่องแรกมากเลยก้ากกกก ถือซะว่าอ่านเอาขำๆแล้วกันนะคะ ><

 

 

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ *แจกข้าวห่อสาหร่ายแถมให้กลับบ้าน*

 

 

 

ทิพย์เองค่ะ UvU

 

*************************************

ทำcomment boxเป็นกูเกิลดอคแล้วค่ะ ไม่ต้องlog inอะไรเลย สะดวกดี จะเรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องไหนๆก็เม้นได้หมดเลยนะคะ ❤

>>Tippuri~ii* ♥ COMMENT BOX<<

แต่ถ้าสะดวกเม้นในเอนทรีเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ >< ขอบคุณมากนะคะ

*******************************

55 responses to “[The Maze Runner Fic][MiNewt] The Frustrating Classifications of Rice & Seaweed

  1. งื้ออออออออออออออออออ มันแบบ โอ๊ย น่ารัก เขินไปหมดแล้ว >/////////< ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ

    Like

  2. เงิบได้น่ารักมากกก อิจฉามินโฮเลยย

    Like

Leave a comment