[The Maze Runner Fic][MiNewt] Before the 14th Cup (6)

Before the 14th Cup
The Maze Runner fanfiction by Tippuri~ii * 

 

 

   
 

 
 
Pairing:  Minho x Newt
Fandom: The Maze Runner

Type: AU fanfiction

 
 
 

 * แฟนฟิคชั่นเเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น BL…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *

************************************
TALK:
เอาทอล์คมาไว้ข้างบน เพราะอยากจะบอกอะไรไว้ก่อนค่ะ
— 1–
ทิพย์เริ่มต้นเขียนฟิคเมซรันเนอร์จากหนัง เพราะงั้น คาแรคเตอร์และหน้าตาก็จะอิงตามหนังหมดเลยค่ะ
แต่ตอนนี้ได้อ่านหนังสือแล้ว และได้พบว่า…นิสัยตัวละครไม่เหมือนกันเลยค่ะฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
เพราะงั้นเลยอยากบอกไว้ก่อนว่า ฟิคเรื่องนี้ based on ฉบับหนังนะคะ มินโฮเป็นโอปป้าสุดคูล และนิวท์ตัวบางน่ากด(ไม่ได้สะกดคำว่ากอดผิด) นะคะนะ
— 2 —
โควทเปิดบทที่ผ่านมา มาจากเพลง I choose you ของ Sara Bareilles ค่ะ ใครสนใจจะหาฟังก็ตามนี้เลยนะคะ >> https://www.youtube.com/watch?v=ooiLP_zqnFs
แต่ของบทนี้ มาจากเพลง Waiting On The Light To Change โดย Matthew Perryman Jones ค่ะ
แค่นี้ล่ะค่ะ เอนจอยรีดดิ้งค่ะ ❤
ทิพย์เอง
 สารบัญฟิค: [INDEX] Before the 14th Cup
************************************

I’m waiting on the light

Waiting on the light to change

I’m chasing out the lies

Chasing out the lies

That keep you caged

I’m waiting, waiting on the light to change

*****

Chapter 6

ทั้งๆ ที่นี่เป็นงานปาร์ตี้และเข็มสั้นของนาฬิกายังไม่ทันเฉียดเลขสิบเอ็ดด้วยซ้ำ…แต่มินโฮก็รู้ชัดเจนแล้วว่าตนจะไม่รู้สึกสนุกได้เต็มที่แน่ๆ

เหตุผลก็คือ…เพราะบ้านหลังนี้เป็นสถานที่พำนักของโทมัสกับชัค นั่นจึงหมายความว่าทุกครั้งที่มีการจัดปาร์ตี้ที่นี่ จะต้องมีใครสักคนเสียสละเป็นผู้โชคร้ายในการคอยจับตาดูหนูน้อยของบ้านไม่ให้แอบมาซดแอลกอฮอล์ในงาน…หน้าที่ที่ทุกคนเรียกกันขำๆ ว่าคือตำแหน่งพี่เลี้ยง มุกตลกที่คนรับหน้าที่ขำด้วยไม่ออกเท่าไหร่…เพราะเจ้าตัวก็จะดื่มเยอะเองไม่ได้ หนำซ้ำบางทียังจะต้องปลีกตัวจากปาร์ตี้มานั่งดูชัคอย่างเต็มเวลาเสียด้วย

ซึ่งในแธงส์กิฟวิงของปีนี้…บุคคลผู้ได้รับตำแหน่งพี่เลี้ยงก็คือมินโฮนี่เอง

ถึงจะแอบเซ็ง…แต่คุณบาริสต้าก็ไม่คิดจะทำตัวงี่เง่าด้วยการไม่ยอมรับหน้าที่ แล้วอย่างไรเสีย…เขาก็สนิทกับชัคพอที่จะติดสินบนหนูน้อยให้รีบๆ เข้านอนด้วย และหลังจากตกลงกันได้ที่แผ่น Guardians of the Galaxy บลูเรย์ใหม่เอี่ยม…ชัคก็ยอมสัญญาว่าจะเข้านอนหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบ แถมให้สิทธิพิเศษกับมินโฮในการจะแว่บออกมาเดินเล่นในปาร์ตี้ระหว่างที่หนังฉายด้วย

ถึงจะแค่สี่ทุ่มกว่าๆ…แต่ปาร์ตี้ก็ดูจะเลยช่วงอุ่นเครื่องมาแล้ว ผู้คนมากหน้าหลายตายืนอยู่ทุกมุมพร้อมถ้วยหรือขวดเครื่องดื่มในมือ เสียงดนตรีและไฟสลัวทำให้มินโฮมองทันบ้างไม่ทันบ้างว่าใครเป็นใคร…แต่เนื่องด้วยนี่ก็ล้วนเป็นกลุ่มเพื่อนของโทมัสที่เขาเองก็คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ทำให้ชายหนุ่มได้แวะทักทายคนเป็นระยะๆ ตลอดทางไปถึงห้องครัวของตัวบ้าน

คงเพราะดีกรีความเมาของปาร์ตี้ยังไม่เข้าขั้น…ครัวจึงยังคงสะอาดปราศจากหยดแอลกอฮอล์ มินโฮหยิบถ้วยกระเบื้องออกมาจากตู้เก็บของเหนือศีรษะสองใบ…แอบถอนหายใจกับชะตากรรมของตัวเอง เขาอยู่ในบ้านที่มีเครื่องดื่มมึนเมาหลากชนิดเรียงหน้ามาให้เลือก…แต่สิ่งที่กำลังผสมอยู่ในมือดันมาเป็นช็อกโกแล็ตร้อนกรุ่นกลิ่นมิ้นต์ไปเสียได้

ช็อกโกแล็ตร้อนที่เขาชงให้ชัคและตัวเองเป็นสูตรเดียวกับที่ขายในเดอะเมซ…กลิ่นหอมหวานเข้มข้นทำให้คุณบาริสต้าแอบยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับตัวเอง ก่อนที่จะถือถ้วยร้อนกรุ่นสองใบนั้นเดินออกไปจากครัว เตรียมจะกลับไปสู่ห้องนั่งเล่นที่ชัคเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวไปแล้วเรียบร้อย

“มินโฮ!”

เสียงเรียกระหว่างทางทำให้เจ้าของชื่อหยุด ทักทายตอบกลับ “หวัดดีฮอร์เก้ แวะมากินเบียร์ฟรีหรือไง?”

“พูดอีกก็ถูกอีก” คนทักยกขวดในมือด้วยท่าแบบเดียวกับคนจะชนแก้วกัน ก่อนจะมองเห็นถ้วยในมือมินโฮ…จึงพยักเพยิดถาม “โอ้ นายเป็นพี่เลี้ยงเหรอคืนนี้?”

“ดื่มให้ชีวิตดีๆ ของฉันในแธงส์กิฟวิงนี้สิ” มินโฮพูดหน้าตายเสียงเรียบสนิท ยกถ้วยช็อกโกแล็ตร้อนประกอบ ก่อนจะหันไปทางสาวน้อยผมน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างฮอร์เก้ “แล้วทำไมแฟนเธอเอาเธอมาทิ้งไว้ตรงนี้ล่ะหา?”

เบรนด้าไม่ถือสาถ้อยคำของเขา ซ้ำยังยิ้มตามเสียด้วย…พยักเพยิดไปทางประตูหน้า “ปล่อยโทมัสยืนหน้าประตูไปเถอะ…ฉันไม่ขอเล่นบทภรรยาเจ้าของบ้านล่ะคืนนี้ มันหนาว”

มินโฮหัวเราะออกมา…นิวยอร์กในเดือนพฤศจิกายนอาจจะยังไม่เย็นเข้าขั้นหิมะตก แต่ก็ไม่ได้อุ่นสบายจนยืนตากลมยามดึกได้นานๆ เลย เขามองไปทางโทมัสผู้ที่ต้องยืนรอทักเหล่าผู้มาปาร์ตี้อีกหน่อยแล้วก็หันกลับไปคุยกับเบรนด้าและฮอร์เก้ต่อ

แต่แล้ว สติทั้งหมดของมินโฮก็โดนกระชากไปจากบทสนทนาด้วยประโยคนี้ของโทมัส

“ว้าว! นิวท์! เยี่ยมเลย! ดีใจที่นายมาได้นะ!!”

ไม่มีทางมีนิวท์หลายคนในนิวยอร์กที่โทมัสรู้จักพอจะชวนมาปาร์ตี้ที่บ้านได้ ทำให้มินโฮรู้ก่อนที่จะหันไปเห็นเสียอีกว่าตัวเองจะได้เห็นใคร…ร่างโปร่งบางของชายหนุ่มผมสีคาราเมลก้าวผ้านประตูเข้ามา เจ้าตัวสวมเชิ้ตสีขาวแล้วมีเบลเซอร์สูทสีดำเรียบๆ ทับ การแต่งกายง่ายๆ หากกลับดูหรูจางๆ ตามสไตล์บริตบอยผู้หลงมาอยู่ในนิวยอร์ก

เรือนผมยุ่งเหยิงและแก้มก็แดงจัดจากสายลมยามดึก…หากนิวท์ก็ยังคงยิ้มแย้มได้เต็มริมฝีปากตอนที่เอ่ยทักคุณเจ้าบ้าน

“หวัดดีโทมัส…สุขสันต์วันแธงส์กิฟวิงนะ” มือเรียวส่งห่อกระดาษทรงผอมๆ ให้ ยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ ในประโยคหลัง “…ต่อให้ของขวัญของฉันมันจะไม่ได้ส่งเสริมการทำความดีสักเท่าไหร่ก็เถอะ”

ถุงที่ห่อมานั้นเป็นการนำซองพัสดุใช้แล้วมาใช้ใหม่…แต่โทมัสไม่ถือสาเลย หนุ่มน้อยสนใจแค่สิ่งของที่อยู่ข้างใน…วอดก้ายี่ห้อเกรย์กูส ฉลากบนขวดบอกให้รู้ว่ามันเป็นรสลูกแพร์ที่เพิ่งออกวางขายมาล่าสุด

“ให้ตายสินิวท์…นายนี่มันโคตรร้าย” โทมัสหัวเราะร่วน ก่อนจะหันเข้ามาหาทุกคนที่ยืนอยู่รอบๆ ตรงนั้น ตบๆ บ่าคุณคอลัมนิสต์ประกอบตอนประกาศ “ทุกคน…นี่นิวท์นะ และเขาคือคนที่ทำให้แธงส์กิฟวิงปีนี้เราจะมีวอดก้าช็อทที่มีคลาสที่สุดในโลก…ไหน แก้วช็อทไปไหนหมดน่ะ…”

บรรดาพรรคพวกของโทมัสร้องเฮแล้วเริ่มต้นหาแก้วช็อทกันคนละไม้คนละมือทันที…เปิดโอกาสให้นิวท์ได้กวาดตามองไปรอบตัว แล้วสายตาก็สะดุดลงที่ร่างอันคุ้นตาที่มุมหนึ่ง

ซึ่งมินโฮก็คงสังเกตได้ถึงสายตาของเขา เพราะเจ้าตัวยกถ้วยในมือขึ้นนิดๆ เป็นเชิงทักทาย…แล้ววินาทีนั้น นิวท์ก็เพิ่งตระหนักได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตนได้เห็นอีกฝ่ายในมาดอื่นนอกเหนือจากบาริสต้าเจ้าของคาเฟ่ และมินโฮที่สวมเสื้อยืดสีดำเรียบๆ ทับด้วยเชิ้ตยีนสีกรมท่าพับแขนแบบนี้ก็ดูหล่อสบายๆ จนน่าโมโหชะมัด

น่าโมโหสิ…เพราะมันไม่ยุติธรรมเลยนี่นาที่เขาต้องเป็นคนเดียวที่ใจเต้นบ้าบออยู่แบบนี้… 

ในอีกฝั่งของห้อง มินโฮเองก็อยากจะเดินเข้าไปพูดคุยกับนิวท์ยิ่งกว่าอะไร…แต่ตอนนี้ แก้วช็อทก็ได้ถูกแจกจ่ายให้กับทุกคนที่มือว่างแล้ว ย้ำเตือนถึงหน้าที่พี่เลี้ยงและถ้วยช็อกโกแล็ตร้อนที่เขาถืออยู่ นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจแค่มองนิวท์เป็นครั้งสุดท้าย…มองรอยยิ้มสดใสที่เจ้าตัวมอบให้เพื่อนใหม่ที่รายล้อม แล้วก็ปลีกตัวไปทางห้องนั่งเล่นเงียบๆ

“โอ้…ขอบคุณนะมินโฮ”

ชัคละสายตาจากจอทีวีมาเพื่อรับถ้วยตอนที่เขาเรียก เด็กชายดื่มช็อกโกแล็ตร้อนที่ตอนนี้อุ่นพอดีแล้วอึกๆ…ผิดกับมินโฮที่แค่จิบนิดๆ หน่อยๆ อย่างใจลอย

“ทำไมไปนานจัง…นายพลาดฉากแหกคุกเลยอ่ะ” ชัคพูด “จะให้ฉันย้อนกลับไปมั้ยล่ะ…มินโฮ เฮ้…มินโฮ??”

เด็กชายเอียงคอมองเขา ก่อนจะถามซื่อๆ “นายโอเคมั้ย? มีอะไรหรือเปล่าน่ะ?”

อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ฉันคงกำลังชอบคนที่ไม่แม้แต่จะอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟัง…คนที่แค่ยิ้มก็ทำให้ฉันรู้สึกดีได้จนน่าหงุดหงิด…และก็เป็นคนที่ฉันก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรแล้วในการจะรั้งเขาไว้นอกจากเครื่องดื่มอีกแค่สามถ้วย… 

ประโยคยาวเหยียดนี้ถูกกล่าวในหัว…แต่สิ่งที่มินโฮตอบชัคไปนั้นมีแค่การส่ายหน้าและบอกเด็กชายว่าไม่ต้องย้อนฉากกลับไปให้ตนดูก็ได้

**

มินโฮคิดว่าตนได้ยินเสียงกุกกักแผ่วๆ และเห็นเงาวูบวาบเหนือศีรษะ…และเป็นตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังลืมตาตื่น

ภาพที่ได้เห็นคือเพดานห้อง…ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาเปลี่ยนจากนั่งพิงพนักโซฟามาเป็นนอนเหยียดยาวแล้วเอาหัวหนุนที่เท้าแขนแทน ซึ่งมินโฮเดาเอาว่าก็คงเป็นตอนที่เขาเผลอหลับไปกลางช่วงของหนังที่ดูกับชัคนั่นแหละ

ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้นนั่ง ส่งเสียงอืออาพร้อมขยี้ตา…รู้สึกสังเวชตัวเองนักที่หลับลงได้ทั้งๆ ที่ดูหนังแอ็คชั่นเสียงดังโครมครามแบบนั้น ก่อนจะยกมือขึ้นจับให้ผ้าห่มที่คลุมทับร่างตนอยู่ให้พ้นไปจากการพันแข้งพันขา

และนั่นเองที่คงเป็นสาเหตุของเสียงอุทานแผ่วเบาจากข้างตัว

“อ้าว? นายยังไม่หลับเหรอ?”

มินโฮหันไป ก่อนจะพบว่าเสียงกุกกักและเงาวูบวาบที่ตัวเองเห็นตอนเคลิ้มๆ จะตื่นไม่ใช่ความฝันอย่างที่คิด…นิวท์กำลังก้มตัวอยู่เหนือโต๊ะเล็กข้างโซฟา ในมือมีทั้งรีโมททีวีและรีโมทเครื่องเล่นดีวีดี

“ชัคง่วงน่ะ เลยขึ้นไปนอนแล้ว” เสียงสำเนียงบริติชนั่นอธิบายแผ่วค่อยและเชื่องช้า…บอกให้รู้ถึงระดับแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเจ้าตัว “เขาฝากผ้าห่มไว้ให้นายด้วย”

มินโฮส่งเสียงฮึมฮัมเป็นเชิงรับรู้…เขาจำผ้าห่มเนื้อนุ่มลายบัซไลท์เยียร์นี่ได้ดีอยู่แล้ว พึมพำถามพร้อมขยี้ตาอีกรอบ “กี่โมงแล้วน่ะ?”

“ไม่รู้สิ…ตีหนึ่งแล้วมั้ง” นิวท์วางรีโมทไว้รวมกันข้างกล่องดีวีดี ขำเบาๆ ตอนเอ่ยเสริม “ปาร์ตี้ยังไม่เลิกนะ…ถ้านายยังอยากจะดื่มน่ะ”

มินโฮหัวเราะบ้าง…เขามองเห็นนิวท์ไม่ค่อยชัดนักเพราะห้องนั่งเล่นนี้มืดสนิท มีเพียงแสงจากทางเดินด้านนอกสาดส่องเข้ามา…สีส้มแก่เรืองรองเหมือนอาทิตย์อัสดงผสมเปลวเทียน อาบย้อมให้เรือนผมของนิวท์ดูเข้มขึ้น…และทำให้ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตนั่นดูสุกใสแพรวพราย

“ไม่ล่ะ…ฉันไม่มีมู้ดจะดื่มอะไรแล้วล่ะคืนนี้” มินโฮแอบซ่อนยิ้มเมื่อเห็นว่านิวท์ยืนตัวโอนเอนไปมานิดๆ “แล้วอีกอย่าง…ฉันว่านายดื่มมากพอที่จะรวมเอาส่วนของฉันไปด้วยแล้วล่ะ”

“ให้มันน้อยๆ หน่อย…” นิวท์หัวเราะคิกออกมาแบบกรึ่มๆ “นี่ยังไม่เข้าขั้นเมาของฉันหรอกเถอะ ฉันอาจจะมึนๆ…แต่ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องนะ เพราะงั้นช่วยอย่ามาตัดสินผมผิดๆ ทีนะครับคุณบาริสต้า”

มินโฮตัดสินใจว่าจะเชื่อว่านี่คือความจริงเมื่อนิวท์เดินมานั่งข้างเขาบนโซฟาได้แบบไม่มีปัญหาอะไร…เพราะอีกฝ่ายก็ดูเหมือนปกติทุกอย่าง นอกจากหัวเราะง่ายขึ้น สื่อสารรับรู้ได้ช้าลงนิดหน่อย และพูดจาตามใจคิดไร้การกรองลงไปบ้างเท่านั้นเอง

“นั่นอะไรน่ะ?”

นิวท์ถามเมื่อเห็นเขาหยิบถ้วยกระเบื้องขึ้นมาจิบ…ช็อกโกแล็ตในถ้วยตอนนี้เย็นสนิทแล้วเรียบร้อย แต่มินโฮก็ขี้เกียจเกินกว่าจะลุกขึ้นไปหาอะไรที่ดีกว่านี้ดื่มแล้ว

“ช็อกโกแล็ตมิ้นต์” ชายหนุ่มผมดำตอบให้ “ที่นายสั่งเมื่อบ่ายวันนี้ไง…นี่ฉันชงดื่มกับชัคตอนดูหนังน่ะ”

“อ๋อ…”

นิวท์รับคำแค่นี้…ก่อนที่จะถอนหายใจทอดยาว พูดเบาๆ…ถ้อยกระซิบที่ฟังแล้วเหงาแสนเหงาอย่างประหลาดในความรู้สึกคนฟัง

“…ถ้วยที่สิบเอ็ด”

ความเหงาเจือจางที่ได้ฟังนี้ทำให้หัวใจโลดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล และมินโฮก็ไม่ได้ขัดอะไรเมื่อมือเรียวขาวนั้นถือวิสาสะมาหยิบถ้วยในมือเขาไปจิบบ้าง…ชายหนุ่มแค่พูดย้ำด้วยเสียงเบาเท่ากัน

“…สิบเอ็ดจากสิบสี่ถ้วยแล้ว”

ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตัวเองนั้นก็แผ่วเหงาและเว้าวอนไม่ต่างกัน

นิวท์รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ…มันไม่ใช่แค่อาการหายใจไม่ออกจากน้ำหนักของสิ่งที่อยากพูดอันมากมายเท่านั้นอีกแล้ว แต่ผสมจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวเข้ามาด้วย…หวาดหวั่นหากก็คาดหวัง ความอึดอัดใจที่เอ่อล้น…และเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะให้รสชาติอ่อนหวานแบบนี้

“ฉัน…” ประโยคนี้เชื่องช้า…แผ่วเบาจนเหมือนเป็นแค่ลมหายใจมากกว่าคำพูด “…ฉันไม่อยากให้มันมีแค่สิบสี่ถ้วยเลย”

มินโฮหันมามองเขา…นิ่งนาน…ดวงตาสีเข้มที่ได้สบประสานดูระริกในแสงเงาสลัว

“มันก็เป็นแค่ตัวเลข…นิวท์” น่าโมโหนักที่เสียงทุ้มนั่นยังคงนิ่งสงบได้สมบูรณ์แบบเช่นนี้ “…ตัวเลขไม่ได้สำคัญพอจะกำหนดอะไรได้ทั้งนั้น”

สมองของเขากรีดร้อง…เว้าวอนให้ทำอะไรสักอย่าง…อะไรก็ได้ที่มากกว่าแค่คำพูดไร้น้ำหนัก…อะไรก็ได้ที่เป็นสัมผัส…คำขอร้องที่นิวท์เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีให้ตัวเขาเองหรือมินโฮ แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้วในวินาทีถัดมา…วินาทีที่นิวท์พบว่าตัวเองขยับเข้าไปจนคร่อมอยู่บนตักของอีกฝ่าย ท่อนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของมินโฮนั้นโอบรอบเอวเขาไว้…อีกข้างเอื้อมมือมาเชยที่ข้างแก้ม ริมฝีปากประทับเข้าหา…ไม่เปิดโอกาสให้เปล่งเสียงใดนอกจากลมหายใจที่สั่นพร่า

เสียงหอบหายใจดูจะรุนแรงตามจังหวะหัวใจ…นิวท์เพิ่งรู้ตัวว่าสองมือของตนนั้นประคองกรอบหน้าของมินโฮเอาไว้อยู่ตอนที่ผละริมฝีปากจากกัน

“นาย…” ระยะห่างระหว่างกันยังคงน้อยนิด…ทำให้ถ้อยคำน่าหัวเราะของเขายังคงเป็นที่ได้ยินอยู่ดีต่อให้มันจะแผ่วเบาและสั่นระริกเพียงใดก็ตาม “นาย…รสเหมือนช็อกโกแล็ตเลย”

มินโฮหัวเราะออกมาสั้นๆ…ก่อนจะพูดโต้

“ไม่” น้ำเสียงที่เจือความขบขัน หากอะไรบางอย่างที่แฝงในนั้นกลับทำให้นิวท์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลอมละลาย “…นายต่างหากที่รสเหมือนช็อกโกแล็ต”

ชายหนุ่มผมสีคาราเมลอุทานนิดๆ ตอนที่โดนรุนจนแผ่นหลังหงายลงไปแนบสนิทกับโซฟา ส่งเสียงอึกอักเล็กๆ เมื่อเรียวปากโดนครอบครองอีกครั้ง…เสียงที่แปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงหัวเราะเมื่อมินโฮผละจากแล้วงับแก้มตนเบาๆ

“เฮ้…เล่นบ้าอะไรของนายน่ะ…” มือเอื้อมไปยีผมสีดำให้ยุ่งเป็นการเอาคืน “ลุกได้แล้ว…คิดว่าตัวเองตัวเบามากใช่มั้ย—”

เสียงหัวเราะสะดุดทันที…เพราะลมหายใจติดขัดจากการที่ฝ่ามือของมินโฮกดทับลงมาบนแผ่นอก รั้งให้คอเสื้อเชิ้ตร่นลงมา…มากพอที่จะให้ผิวเนื้อขาวสะอาดตรงต้นคอไม่เหลือการปิดบังใด

“มินโฮ!” นิวท์พูดเสียงลั่น ทุบบ่าหนาๆ นั่นอย่างไม่ออมแรง “หยุด! ลุกขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

คุณบาริสต้ายอมหยุดมือ…แต่ยังคงไม่ลุกขึ้น โน้มตัวลงมามองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าที่คนหน้านิ่งคนหนึ่งจะทำได้…และนั่นก็ทำให้นิวท์อยากหลุดขำออกมานัก ได้แต่กลั้นยิ้มอย่างยากลำบากแล้วประกาศเสียงเข้ม

“ครั้งแรกของพวกเราจะไม่เกิดขึ้นบนโซฟาที่มีผ้าห่มลายบัซไลท์เยียร์โอเคมั้ย” มือตีแปะๆ บนไหล่อีกฝ่าย “เพราะงั้นก็ช่วยลุกด้วย…ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับมิสเตอร์”

มินโฮหัวเราะออกมากับเหตุผลนี้ ยอมลุกขึ้นยืนแล้วดึงเขาตามขึ้นมาด้วย…ความช่วยเหลือที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพราะเจตนาบริสุทธิ์ เพราะแรงดึงนั้นมากพอที่จะรั้งให้นิวท์ต้องเซเข้ามาจนอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าตัว

ส่งเสียงฮึมฮัมนิดหน่อย…ก่อนที่คุณบาริสต้าจะเอ่ยคำ “เผื่อนายอยากจะรู้…เตียงที่อพาร์ตเมนต์ฉันไม่มีลายอะไรเลยนะ”

นิวท์หัวเราะออกมาอย่างอ่อนใจปนเอ็นดู หยัดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อประทับริมฝีปากเข้ากับอีกฝ่าย…จูบอ้อยอิ่งที่ยาวนานเท่าช่วงลมหายใจ แล้วค่อยกระซิบแผ่วเบา

“…ฟังดูชวนให้ฝากความหวังได้ดีจัง”

มินโฮกลอกตาแล้วดึงมือเขาให้เดินออกจากห้องนั่งเล่น…ทำให้นิวท์รู้สึกตัวเบาๆ ไปตลอดทางด้วยข้อเท็จจริงที่ว่ามือใหญ่ๆ สีคร้ามแดดนั่นไม่ได้ปล่อยมือเขาแม้จะเดินออกมาสู่ตัวปาร์ตี้แล้ว

ผู้คนในบ้านยังคงดื่มด่ำกับคืนนี้อยู่โดยไม่สนใจเข็มนาฬิกาที่ชี้บอกเวลาของวันใหม่…มิหนำซ้ำ เสียงเพลงและเสียงพูดคุยยังดูจะดังกว่าเดิมเสียด้วย มินโฮใช้มือข้างที่ยังว่างในการเบียดกลุ่มคนเพื่อไปยังประตูหน้า แอบนิ่วหน้าเล็กๆ กับความวุ่นวายตรงนี้…คิดในใจว่าอยากจะบอกโทมัสก่อนไปชะมัดว่าให้เบาๆ เสียงปาร์ตี้ลงหน่อยก่อนที่เพื่อนบ้านจะโทรเรียกตำรวจ

ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่วลี ‘จงพึงระวังในสิ่งที่ต้องการ’ พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นความจริง…เพราะตอนที่มินโฮและนิวท์มาถึงประตูหน้าแล้วนั่นเองที่คุณเจ้าของบ้านโผล่พรวดมาขวางทางเสียก่อน

“หวาดเด~” ไม่ต้องถามก็รู้ว่าโทมัสกำลังกรึ่มได้ที่เลยทีเดียว หนุ่มน้อยโบกไม้โบกมือพร้อมพูดเสียงอ้อแอ้กับมินโฮ “เฮ้ๆๆๆ…ห้ามชิ่งก่อนนะเพื่อน…นายต้องอยู่ช่วยฉันเก็บบ้านดิ…”

“ไม่” มินโฮพูดทันควัน พยายามหาทางเบียดตัวผ่านเจ้าบาริสต้าหมายเลขสองไปเปิดประตู “ปาร์ตี้นาย นายก็เก็บเองสิวะ…”

โทมัสยังพยายามขวางทางอยู่จนกระทั่งเจ้าตัวสังเกตเห็นว่ามืออีกข้างของมินโฮนั้นจับอยู่กับใคร…คำพึมพำสวดส่งแบบเมาๆ เลยแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มรู้ทันฮิฮิอันน่าหมั่นไส้แทน

“อ๋อ~” หนุ่มน้อยคงคิดจะตบบ่าเขาเพื่อแสดงความยินดี แต่ประสาทรับรู้ตอนนี้ก็ทำให้โทมัสตบมือทั้งสองข้างสลับกันไปกันมาแปะๆ ลงตรงสองบ่าของมินโฮเหมือนแมวน้ำเมายา “โอเค รีบกลับเถอะถ้าอย่างงี้…รีบรีบรีบบบกลับเลย…”

มินโฮสบถพึมพำเบาๆ อย่างอยากจะบ้า แต่นิวท์นั้นเลิกรักษาท่าทีแล้วหัวเราะออกมาชัดๆ แล้ว

โทมัสเองก็หัวเราะบ้าง ก่อนจะพยักเพยิดกับมินโฮ “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยล่ะ…นิวท์ไม่ว่าอะไรหรอกต่อให้นายจะรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาเป็นคอลัมนิสต์น่ะ ดีใช่มั้ยล่ะที่ไม่ต้องนั่งเก็บความลับแล้ว?”

น่าขันนักที่ประโยคง่ายๆ นี้มีอานุภาพในการทำให้เสียงในโลกทั้งใบของมินโฮเงียบกริบลงไปทันควัน…ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเสียงหัวเราะสดชื่นของนิวท์ที่เมื่อครู่นี้ยังเพิ่งดังอยู่ข้างหูเขาด้วย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตามมาคือความเชื่องช้าในเสี้ยววินาที…สีหน้าชะงักงันของโทมัส ลมหายใจขาดห้วงของมินโฮ และการหายไปของสัมผัสอบอุ่นตอนที่นิวท์ปล่อยมือ

“นิวท์!!”

สายลมยามกลางดึกกรีดผิวเหมือนคมมีดเย็นเฉียบ…แต่วินาทีนี้ สิ่งเดียวที่มินโฮสนใจก็คือร่างสูงโปร่งที่ตอนนี้ก้าวยาวๆ ไปจนยืนอยู่บนพื้นฟุตบาธหน้าบ้านโทมัสแล้ว เสียงจากปาร์ตี้เงียบหายไปทันทีหลังจากที่เขาพรวดพราดตามออกมาจากบ้านแล้วประตูปิดดังปังตาม…ลมหายใจเป็นไอขาวในอากาศ หากมินโฮก็ยังคงไม่หยุด

“นิวท์!!!”

ครั้งที่สองนี่เองที่เจ้าของชื่อยั้งฝีเท้า…หากก็ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้ แสงไฟจากโคมริมทางในกลางดึกอันหนาวเย็นนี้เป็นสีส้มสลัว…หากก็ชัดเจนพอที่จะทำให้มินโฮมองเห็นสีหน้าของคนที่ยืนอยู่ห่างออกไป ตื่นตระหนก…โกรธเกรี้ยว…เสียใจ…ทุกอย่างฉายปนกันอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่โตนั่น

อาจเพราะรู้สึกได้ว่าเขามองอยู่…นิวท์จึงเสมองไปอีกทาง ร่างโปร่งเปลี่ยนมาหันข้างให้ ก้าวกลับไปกลับมาเล็กน้อย มือเรียวถูกยกขึ้นมา…กำเข้าหาและแบออกสลับกันไปสองสามครั้งระหว่างที่ชายหนุ่มผมสีคาราเมลคิดเรียบเรียงคำพูด ก่อนที่เจ้าตัวจะตวัดแขนกลับลงมา หันกลับมามองเขาอีกครั้งตอนเอ่ยทำลายความเงียบ

“นาย…” ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นยังคงฉายความรู้สึกเดิม…ตื่นตระหนก…โกรธเกรี้ยว…และเสียใจ “…นายรู้มานานแค่ไหนแล้ว?”

เป็นครั้งแรกที่มินโฮได้เห็นนิวท์แบบนี้ และก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เขาเป็นฝ่ายใจเย็นกว่าในการมีปากเสียงกับใครก็ตาม

“วันที่สองที่นายแวะเข้ามา” มินโฮพูด…น้ำเสียงเรียบนิ่ง หากก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่กรุ่นด้วยความโมโหและเสียใจส่วนตัวที่มีเหมือนกัน “วันแรกโทมัสแค่คุ้นๆ หน้านายจากนิตยสาร…แต่หมอนั่นมานึกออกตอนวันที่สอง แล้วเขาก็บอกฉัน”

“แล้ว…” นิวท์สูดลมหายใจ สายลมยาวดึกหนาวเย็นนัก…แต่มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ความตระหนกในใจเขาตอนนี้บางเบาลงไปได้บ้าง หากหัวใจก็ยังคงเต้นกระหน่ำในอกอยู่ดี…คงเพราะคำพูดที่เขาต้องค่อยๆ เอ่ยช้าๆ ประโยคนี้ “แล้วนายก็แกล้งทำเป็นไม่รู้…ทำเป็นคุยกับฉันเหมือนนายไม่รู้อะไรเลยมาตลอดงั้นเหรอ…”

“เฮ้ พูดแบบนี้มันไม่แฟร์นะ” มินโฮขมวดคิ้วทันที เขาเข้าใจว่านิวท์มีสิทธิ์ที่จะโกรธที่ตนทำเป็นไม่รู้…เพราะก็จริงอยู่ที่เขาอาจจะแกล้งทำเหมือนไม่รู้จักชื่อเสียงของนิวท์ แต่อย่างน้อยๆ…คำพูดและความสนิทสนมที่ก่อตัวนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจมอบให้อีกฝ่ายจากใจจริงเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เพื่อตัวเองใดๆ เลย

และอีกเหตุผลที่เขาเริ่มรู้สึกกรุ่นๆ แล้วก็คือ…มินโฮไม่คิดว่าตนคือคนผิดเพียงฝ่ายเดียวในเรื่องการปกปิดความจริง

“นายเองก็ไม่ได้พูดความจริงกับฉันทั้งหมดซะหน่อย นายไม่เคยตอบคำถามของฉันตรงๆ…นายบอกว่าสมุดเล่มนั้นเป็นแค่ไดอารี่…”

หนุ่มเกาหลีเอ่ยไล่เรียง…เสียงกร้าวนิดๆ ตอนคิดถึงความรู้สึกเสียใจของตัวเองเวลาที่ฟังคำโกหกของอีกฝ่าย ก่อนจะพูดเรียบๆ หากโมโหบางเบาปิดท้าย

“โทษทีนะ…ฉันอาจจะทำเป็นไม่รู้ว่านายเป็นใครก็จริง แต่นายเองก็พูดไม่ได้หรอกนะว่านายพูดความจริงกับฉันทั้งหมดน่ะ”

นิวท์ฟังคำพูดแทงใจทั้งหมดนี้ด้วยดวงตาที่วาววาบไปด้วยความโมโหและน้อยใจไม่ต่างกัน…เขาโมโหมินโฮที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ โมโหตัวเองที่คิดตื้นๆ…และเหนือสิ่งอื่นใด ชายหนุ่มโมโหความเป็นจริงที่ได้รับรู้ที่สุด…ความเป็นจริงที่พลิกทุกความมั่นใจว่าการที่มินโฮทำดีกับตนนั้นเป็นเรื่องจริงใจ ความเป็นจริงที่ทำให้เขาไม่แน่ใจอีกแล้วว่าทุกสิ่งที่มีระหว่างตนกับคุณบาริสต้านั้นเป็นความรู้สึกแท้จริงจากทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า

“โอเค…ได้” ชายหนุ่มผมสีคาราเมลตวัดเสียง…เสียใจและกรุ่นโกรธ “งั้นตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่านายรู้ว่าฉันเป็นใคร…แล้วไงต่อล่ะ? นายก็แค่รออ่านนิตยสารฉบับต่อไปใช่มั้ย??”

นิวท์ไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน…และประโยคที่เอ่ยออกไปก็ทำให้ตระหนกไปหมดเสียเอง เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการบีบบังคับโดยอ้อมๆ ให้มินโฮยอมรับเลยว่าการปฏิบัติตัวอย่างดีแสนดีทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นแค่เพียงการหวังให้คำวิจารณ์ของร้านเดอะเมซออกมาดูดีในหน้านิตยสาร ความจริงที่นิวท์ไม่คิดว่าตัวเองจะทำใจฟังได้

เพราะเขาก็ยังคงอยากจะหลอกตัวเองต่อไปสักนิด…ว่ามินโฮทำดีกับเขาก็เพราะความรู้สึกในใจเจ้าตัว ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ใด…

“อยากเขียนอะไรก็เขียนไปเถอะ”

ประโยคนี้หยุดทุกกระแสความรู้สึกนึกคิดอันปั่นป่วนลงทันที…นิวท์รู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง ทำได้เพียงจับจ้อง…มินโฮที่ยืนนิ่ง มองตรงมาที่เขาพร้อมพูดอย่างชัดเจน สีหน้าเรียบสนิทราวผืนทะเลสาบ

“ฉันไม่เคยแคร์อยู่แล้วว่านายจะเขียนถึงร้านฉันยังไง” ประโยคแรกนั้นดังชัดเจนผ่านระยะห่างระหว่างกัน…แต่ประโยคหลังนั้นแผ่วค่อยลง หากก็เนิบช้ามั่นคง “ฉันแคร์แค่ว่านายรู้สึกยังไง…”

คนพูดสูดลมหายใจเล็กน้อย อีกสองคำที่ตามมานั้นแทบหลอมรวมไปกับสายลม

“…กับฉัน”

จำนวนนาทีที่ยืนอยู่ตรงนี้มีแต่จะนำพาสถานการณ์และบทสนทนาที่นิวท์ไม่เคยพบเจอเข้ามาอย่างติดต่อกันรัวๆ…ชายหนุ่มผมสีคาราเมลคุ้นชินกับแค่เพียงผู้คนที่สนใจเขาแค่เพราะชื่อเสียงและผลประโยชน์ที่เจ้าตัวจะพึงได้รับจากการเข้ามาทำดีด้วย ผู้คนที่จะหนีจากไปเมื่อมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่นิวท์เขียนนั้นจะมีแต่เรื่องชวนฟัง

แล้ว…นี่มันอะไรกันล่ะ…??? 

แต่มินโฮกลับยังยืนอยู่ตรงนี้ บอกนิวท์ว่าเจ้าตัวไม่เคยใส่ใจถึงบทความหรือคำวิจารณ์ใด

บอกนิวท์ว่าสิ่งเดียวที่สำคัญคือพวกเขาทั้งสองคน

ไม่เคยมีใครยืนรอฟัง…ไม่เคยมีใครไม่หนีไปแบบนี้มาก่อน… 

ทุกสิ่งที่ได้รับรู้ทำให้สติโดนทำลายจนเหลือเพียงความตระหนก…ในหัวของนิวท์ตอนนี้เหลือเพียงสัญชาตญาณ เสียงกรีดร้องของความเคลือบแคลงใจว่าให้ไปจากตรงนี้ ไปจากความแปลกใหม่นี่เสีย…กลับไปสู่ความคุ้นชินเดิมอย่างทุกที ความคุ้นชินที่ถึงจะให้รสขมซ่าน…หากเขาก็รู้ว่าจะจัดการกับมันได้อย่างไร ไม่เหมือนกับถ้อยคำและสายตาของมินโฮที่รังแต่จะทำให้ใจเต้นแรงจนเสียการควบคุมไปหมดแบบนี้

“นิวท์…”

คุณบาริสต้าเรียกเบาๆ…ขยับจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย มือเผลอยื่นออกไปโดยไม่รู้ตัว…สัมผัสที่ร่างสูงโปร่งตรงหน้าเขาขยับหนี

“โทษที…” ชายหนุ่มผมสีคาราเมลพูดเสียงเบา กระแสร้องขอปนอยู่ในถ้อยกระซิบ “ตอนนี้ฉันยังไม่โอเค…โทษทีนะ”

มินโฮอยากจะพูดอะไรอีก อะไรก็ได้ที่จะลบเลือนความเสียใจปนตื่นตระหนกจางๆ แบบนี้ออกไปจากวงหน้าและดวงตาของอีกฝ่าย…แต่นิวท์ก็หันหลังให้ ร่างโปร่งก้าวยาวๆ จากไป…ความเร่งรีบราวกับไม่มีอะไรที่เจ้าตัวต้องการมากไปกว่าการได้หนีไปจากตรงนี้อีกแล้ว

สายลมของยามดึกสีดำสนิทพัดพรู เย็นเยียบยิ่งนักบนฝ่ามือที่เคยเกี่ยวกุมกัน…และลบเลือนสัมผัสอบอุ่นบนริมฝีปากให้กลายเป็นแค่เพียงชิ้นส่วนของความทรงจำเท่านั้น

tbc.

********************************

แหม่ จบค้างเนอะ อิ v อิ //โดนต่อย

แต่อย่าเพิ่งอยากต่อยเราค่ะฟฟฟฟ เพราะถึงจะจบบทนี้ค้าง แต่เราตรวจคำผิดของทั้งเรื่องเรียบร้อยแล้วนะคะ!…เพราะฉะนั้นนนนน หมายความว่าจะรวมเล่มแล้วค่ะฟฟฟฟฟฟ

มามะ มาดูรายละเอียดตัวเล่มกันค่ะ

รายละเอียดตัวเล่ม

Before the 14th Cup

Pairing: Minho x Newt

Fandom: The Maze Runner

ตัวอย่างทดลองอ่านค่ะ >> [INDEX] Before the 14th Cup ล่าสุดคือบทที่ 6 นะคะ ที่เหลือรอตามต่อในเล่มเน้ออออ >w<

ราคา: 280 บาท ส่งฟรีและไม่บวกค่าส่งเพิ่มด้วยในกรณีที่หนึ่งคนสั่งหลายเล่ม (สมมติว่าสั่ง 3 เล่มก็คือ 280 + 280 + 280 เลยค่ะ ไม่มีต้องบวกเพิ่มอะไรอีกแล้ว)

รายละเอียดการโอนเงิน

เดดไลน์การโอนเงินคือวันพุธที่ 14 ตุลาคมนี้ค่ะ(จำง่ายดีค่ะ ฟิค 14 ถ้วย ปิดโอนวันที่ 14 นะคะก้ากกก)

จะปิดยอดตอนสามทุ่มของวันนั้นนะคะ

โอนเข้ามาได้ที่:

ธนาคารกสิกรไทย

ชื่อบัญชี น.ส. ทิพย์ วิภาตวิทย์

สาขาบางขุนเทียน

เลขที่บัญชี 031-2-89326-8

โอนเงินแล้ว ช่วยถ่ายรูปหลักฐานการโอน+ก็อปแบบฟอร์มนี้ เติมข้อมูลแล้วส่งเมลมาที่ tippurific@hotmail.com ทีนะคะ

จั่วหัวเมลว่า: แจ้งโอนค่าแฟนฟิค

วันที่และเวลาการโอนเงิน:

ชื่อเรื่อง+จำนวนเล่มที่สั่ง:

ที่อยู่ในการจัดส่ง: ชื่อ(จะจ่าหน้าพัสดุด้วยชื่อนี้นะคะ)+ที่อยู่

ถ้าส่งเข้ามาแล้ว เราก็จะยืนยันตอบกลับให้เร็วที่สุดค่ะ

แล้วหลังปิดยอดโอน จะทำการสั่งพิมพ์ต่อไปค่ะ >v<

ขอบคุณมากนะคะ

ทิพย์เอง

23 responses to “[The Maze Runner Fic][MiNewt] Before the 14th Cup (6)

  1. อยากได้จังเลยค่ะพี่ทิพย์ แต่อดแหงเพราะต้องอ่านหนังสือสอบ …….
    แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง T————–T
    ถ่อมัส ตอนที่แล้วแกทำหน้าที่ได้ดีมากนะ…..
    แล้วนี่มันอัลไลลลลลลลลลลล
    โธ่นิวท์ บัซไลท์เยียร์ไม่มีตา เขาไม่รู้หรอกว่าหนูจะทำอะไรกันอ่ะ ถถถถถถ
    ส่วนอปป้าอ่ะ มาชงช็อคโกแลตมินต์ให้เรากินมั่งสิ เราอ่านแล้วเราอยากฉกมากระดกมากเลยอ่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟ
    แล้วก็ขอให้น้องแมวหายเร็วๆๆนะคะพี่ ขอให้ลูกแมวโตกันเร็วๆด้วยนะคะ😼
    อยากให้ฟิคนี้ไปวางขายงายMCด้วยจังเลยค่ะพี่ ;——; อยากอ่านมากเลย แงงงงงง
    ขอให้ขายฟิคได้เบอะๆๆๆนะคะพี่ สู้ๆๆๆค่ะะะะ

    Liked by 1 person

    • อปป้าอ่อนโยนซำเหมอค่ะ //// ส่วนถ่อมัสก็ถ่อซำเหมอจีจีค่ะ ก้ากกกก
      ส่วนงานหนังนี่พี่ก็ยังคิดๆอยู่ค่ะว่าจะลงเล่มไหนบ้างดี รอเจอกันในงานนะคะ อุอิ

      Liked by 1 person

      • อปป้านี่ทำเราหลงมากเลยค่ะพี่ คนอะไรหล่อแม้กระทั่งตอนชงกาแฟ ;—; ส่วนนังถ่อนี่ขอแบะปากมองบนให้ค่ะ55555 หวังว่าจะได้เจอเล่มนี้ที่งานหนังนะคะพี่ และหวังว่าจะไม่หมดไปก่อนด้วย ฮา

        Like

  2. “ครั้งแรกของพวกเราจะไม่เกิดขึ้นบนโซฟาที่มีผ้าห่มลายบัซไลท์เยียร์โอเคมั้ย” 
    เดี๋ยวนะ!! ประโยคนี้คืออัลไล??? น้องนิวท์ หัดยั่วเหรอลูก ระวังไม่รอดนะ
    “เผื่อนายอยากจะรู้…เตียงที่อพาร์ตเมนต์ฉันไม่มีลายอะไรเลยนะ”
    แล้วนี่ล่ะ???? อปป้าก็หาทางหลอกล่อน้องจังเลยนะ
    คือมันใช่มากอ่ะค่ะตอนนี้ หวานแบบร้อนแรง จะเหมือนช็อคโกแลตมิ้นต์หรือวอดก้ารสลูกแพร์ดีน้อ??
    รอๆๆอยากอ่านตอนต่อไปเลย คุณทิพย์จะเอาลงบล็อกด้วยมั๊ยคะ หรือว่าจะลงในหนังสือทีเดียวเลย
    แต่ยังไงก็จะติดตามนะคะ ขอบคุณที่ทำให้เราได้นอนฝันดี ขึ้นเรือมินิวท์ต่อไป ฮาาา…

    Liked by 1 person

    • นิวท์ยั่วนิดยั่วหน่อย กำลังน่ารักค่ะ อิอิอิอิอิ
      บทนี้เป็นบทสุดท้ายที่จะลงบล็อกแล้วค่ะ ต่อไปรอลงเล่มแล้ว *////*
      ขอบคุณเช่นกันค่ะ ดีใจที่ชอบฟิคนะคะะะะ

      Like

  3. งื้อฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ตอนแรกมามันดีงามมากเลยค่ะ
    โอ๊ย นิวท์… หนูเมาแล้วหนูยั่วหรอลูก แต่หนูใจกล้าดีนะ ช้อบชอบ555
    แต่ตอนที่เจอกับถ่อมัส เอ๊ย! โทมัส(น่าสงสารดีแลนด์นะคะ555) นี่ขัดจังหวะมากค่ะ ไม่ใช่อะไรนะแกร ยังไม่ต้องพูดก็ได้ ให้เขาได้กันไปก่อน… แต่มาคิดอีกที รู้ตอนนี้อาจจะดีกว่าเนอะ ดีกว่าได้แล้วรู้ เผื่อนิวท์จะนอยด์กว่านี้ เพราะแค่นี้นางก็นอยด์แล้วค่า
    มินโฮพูดตรงมากเลย ชอบๆ ดีแล้วจะได้ให้นิวท์กลับไปทบทวน
    คือถ้ามินโฮฟึดฟัดประชดใส่นี่มาม่าล้นจอแน่อ่ะ555
    ให้เวลานิวท์แล้วกัน แล้วก็อย่าคิดนานนักนะคะคุณคอลัมน์นิสต์
    ผู้ชายดีๆ แบบนี้ปล่อยไปไม่ได้นะลูกถถถถถถ
    *ปกฟิคคือดีงาม อยากได้ ><*

    Liked by 1 person

    • มินโฮพูดตรงๆเท่ๆน่ากรี๊ดที่สวดข่าาาาา /////////////
      มาม่าล้นมากค่ะ พี่เขียนด้วยความยากลำบากแงงง พี่เขียนบทเมะเคะทะเลาะกันไม่ลงเลยค่ะ #บ้าบอ
      พี่ฝ้ายวาดปกฟิคบาดใจมากค่ะ อยากได้ก็สอยโลดสิคะ– #ฮาร์ดเซล

      Like

  4. “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ฉันคงกำลังชอบคนที่ไม่แม้แต่จะอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟัง…คนที่แค่ยิ้มก็ทำให้ฉันรู้สึกดีได้จนน่าหงุดหงิด…และก็เป็นคนที่ฉันก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรแล้วในการจะรั้งเขาไว้นอกจากเครื่องดื่มอีกแค่สามถ้วย…”

    โอยยยยย พี่ทิพย์คะะะะะ วิวจะตายยยยย แงงงงงงง ชอบมากกกกกก ทุกฉาก ทุกตอน ทุกการกระทำ ทุกคำพูด ฮือออออออ /ไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วววววว T/////T

    หักมุมอย่างดราม่า ฮือ รอตอนต่อไปนะคะ
    ส่วนรวมเล่ม …/มองเงิน /แต่น้องจะซื้อค่ะ…… /กำมือแน่น

    Liked by 1 person

    • พี่ก็ชอบตรงโมเมนต์ก่อนบัซไลท์เยียร์ทำล่มอ่ะค่ะ ที่จูบกันเยอะๆ— #แน่ะแน่ะแน่ะ
      ดราม่าเหลือเกินนนน จะจบดราม่าได้ไหมตามได้ในเล่มเลยนะคะ อุอิอุอิ

      Like

  5. โอยกรี้ดดดดดดด
    หน่วงมากค่ะตอนที่อ่านเจอว่า ฉันมีแค่กาแฟสามแก้วที่จะรั้งเขาไว้อะไรเนี่ยแหละค่ะ พีคมากฟฟฟฟฟฟฟฟ รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลเล่อะะะ
    และตอนผ้าปูที่นอนนี่คือแบบ อะไรกันพวกแกฟฟฟฟฟฟฟฟ
    ที่ขัดใจสุดนี่โธมัสค่ะ นี่แบบโง้ยยยย เอาพัดกระดาษตีหัวได้มั้ยยยย
    แต่ตอนที่มินโฮบอกว่า เขียนอะไรก็เขียนไปเหอะนี่แบบ โอ้ววววววว ไปเซเว่นแล้วสั่งมินโฮที่นึงได้มั้ย ชอบง่าาาาา
    ส่วนนิวท์นี่ ไม่ต้องรออะไรแล้วลูกเอ้ยยยยยย
    แต่แอบสงสารนางนิดๆอ่ะค่ะ แบบโง้ยยยยย
    แต่ก็นะ แบบมินโฮนี่คือควรได้สุดล่ะถถถถถ
    ปล. – แอบอยากได้ฟิคเบาๆค่ะ//ชะโงกถามกระเป๋าตังฟฟฟฟฟฟฟ

    Liked by 1 person

    • ตอนผ้าปูที่นอนนี่คือจีบเคะเข้าบ้านข่ะ—- #โดดนถ้วยกาแฟทุบ
      มินโฮเนี่ยเท่มากจริงๆค่ะงื้อออออ คนเขียนยังหวั่นไหว ////
      แล้วถ้าอยากรู้ต่อว่าดราม่าจะจบยังไงก็ตามในรวมเล่มเลยนะคะอิอิอิ

      Like

  6. แหมนิวท์คะ บัซไลท์เยียร์เค้าทนได้ค่ะอิอิ เอาเลยค่ะเอาเลย~ 5555555

    Like

    • ถึงจะเป็นบทสุดท้ายที่ลงบล็อกแล้ว แต่นุ้งนิวท์ก็ยังต้องรักษาท่าทีนะคะ คิ v คิ เป็นสาวเป็นแส้(?)นี่เนอะ

      Like

  7. ตอนที่โทมัสพูดออกมานี่ เรากลั้นใจตามเลยง่ะ ฮือออออออ แต่มินโฮชัดเจนมาก(ขอคนแบบนี้กับชีวิตหนึ่งที่ค่ะ!//ไม่ใช่5555555)เนี่ยแหละ ชัดๆกันไปเลย ส่วนที่เหลือ…นิวท์ เลือกตามเสียงของหัวใจด้วยนะ อย่าให้แฟนเกิร์ลกินแห้วนะ ขอดูครั้งแรกด้วยนะ—-//โดนโบก555555 คืออ่านไปก็ขำไปจนมาถึงช่วงที่หักมุมก็แทบจะกลั้นใจร้องไห้ตาม โอยไม่ไหวล้าววววววว

    ขอบคุณที่รวมเล่มค่ะ ถ้ามีเซอร์วิสจะยิ่งดีงาม ถถถถถถถถถ//ขอเยอะไป5555
    ที่จริงตั้งใจจะวาดแฟนอาร์ตคู่นี้อยู่แล้ว แต่ไม่สบโอกาสเสียที ฟิคคุณทิพย์เนี่ยโครตจุดประกายให้เราเลยค่ะ ถถถถ

    ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆนะคะ จะรอชิมสามแก้วสุดท้ายต่อไปค่ะ
    รักนะ จุ๊บๆ55555

    Liked by 1 person

    • บทนี้ พอเรามานั่งอ่านทวนอีกที ยังงงๆ เองเลยค่ะ ทั้งดราม่าทั้งรั่วอะไรก็ไม่รู้555
      ส่วนสามแก้วสุดท้ายเนี่ย รอชิมต่อได้ในเล่มเลยนะคะ เรารอลงเล่มทีเดียวเลยแล้วค่ะ

      Like

  8. ฮื้อออออออออ โทมัสสสส /ตบตีๆๆๆ แต่ยังไงสักวันก็ต้องรู้อ่ะเนาะ
    ก่อนจะดราม่ากันนี่น่ารักละเกินน อรั้ยยยย โดดกอด ><
    รอตอนต่อไปนะค้าบบบ
    ปอลิง.รูปเล่มงามมากค่ะ!! แต่… ช๊อต.. แงงงง ขออภัยด้วยนะค้าาา TvT

    Liked by 1 person

    • ความถ่อของถ่อมัสทำเรือล่มหมดเลยค่ะ ฮาาาา
      บทนี้เป็นบทสุดท้ายที่จะลงบล็อกแล้วค่ะ ที่เหลือคือรอลงในตัวเล่มแล้ว :3

      Liked by 1 person

  9. ชอบซีนที่มองไปมุมห้องแล้วเจอมินโฮยืนมองมาละ โฮ้ยยยย นึกภาพละเขินตามมม
    นิวท์ยั่วง่าา ตอนที่บอกว่าครั้งแรกของเราจะไม่เกิดบนโซฟานี่เรากรี๊ดเลย แต่กรี๊ดหนักกว่าคือตอนที่โทมัสหลุดปากเนี่ยแหละ T_T นายทำอัลไลลงไปปปป ที่ผ่านมาอุตส่าห์เป็นพ่อสื่อซะดิบดี
    ชอบที่มินโฮพูดตรงๆไปเลย รู้สึกว่าแบบนี้แหละที่ต้องการ แมนๆไปเลยไรงี้ >< น้องนิวท์ตัดสินใจๆดีๆน้าาาาาาาาา

    จะรวมเล่มแล้ววว ปกสวยมากเลยค่ะพี่ทิพย์ เผลอมองแต่ซอกคอกับแขนล่ำๆมินโฮโอปป้า ;/////; แอบอยากด้ายยย//ฟิคนะคะ55555

    Liked by 1 person

    • ความตรงไปตรงมาของมินโฮนี่คือเท่ที่สุดในโลกเลยค่ะแงงงง ///// เขินฟฟฟฟ
      เท่สั่งลาให้บทสุดท้ายที่จะลงบล็อกจริงๆเลยนะคะอปป้า แงๆๆๆๆ
      พี่ฝ้ายวาดปกได้บาดใจมากจริงๆค่ะ T////T ขอบคุณที่น้องสนใจนะคะ ><

      Like

  10. ตอนแรกๆ ฟินมาก ในที่สุดก็ได้เลเวลอัพกันซะที!!! อ่านต่อๆ มา อ้าวโทมัส ไหงนายทำงี้ จากที่ฟินอยู่ดีๆ กลายเป็นเฟลไปเลย T^T
    แต่ที่ช็อคสุด… เจอกันรวมเล่ม ปิดโอนแล้ว…
    จ้องคอมตาปริบๆ เอ๋ เราเข้ามาอ่านช้าไปนี่หว่า – -….. OTZ

    Like

    • เล่มนี้เราจะมีไปลงงาน movie carnival 3 อีกค่ะ ถ้าสนใจเปิดดูในลิ้งนี้ได้เลยนะคะ รายละเอียดอยู่ในนี้ค่ะ https://tippuri.wordpress.com/2015/05/12/mc3-booking/ และขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ เราอ่านแล้วดีใจมากๆเลยค่ะ >_<

      Like

  11. โทมัสนี่มีความสามารถเปลี่ยนตัวเองจากทอมมี่กลายเป็นถ่อมัสได้ในสามวินาทีจริงๆค่ะ //ถอนใจ
    นิวท์กรึ่มได้น่ารักชะมัดเลยค่ะ อยากเข้าไปจับฟัดเหลือเกิน ฮือออออออ
    ตอนที่ตัดพ้อชีวิตเหงาๆของตัวเองนั่นก็ทำเอาอยากกอดเลยค่ะ
    มินโฮก็ยังเป็นมินโฮ เป็นอปป้าสุดคูลมาดเท่ใจพระเอกได้เสมอต้นเสมอปลายดีแท้ ชอบที่มินโฮตรงประเด็นสุดๆแถมยังคุมสติดีมากๆด้วยค่ะ สมกับเป็นคุณเจ้าของร้านจริง
    ทิพย์แต่งออกมาได้สมเป็นฟิคกาแฟจริงๆค่ะ มันอุ่นปนขม แต่ก็ทิ้งรสหวานติดลิ้นไว้ เหมือนที่ฟิคเรื่องนี้ทิ้งความหวานไว้ในใจคนอ่านเลยล่ะค่ะ ❤

    Like

  12. พี่ทิพย์คะ หนูชอบมากๆเลย ชอบมานานแล้ว คือจริงๆหนูตามอ่านมานานแล้วค่ะ อ่านทุกเรื่องของminewtเลย ตั้งแต่ยังไม่อัพตอนที่5กับ6 แต่เพิ่งกลับมาอ่านเจออีกทีตอนนี้ แล้วหนูคิดว่าคงซื้อหนังสือไม่ทันแล้วใช่มั้ยคะ;_; พี่ทิพย์จะลงตอนที่เหลือลงบล็อกอีกไหมคะ หรือมีหนังสือเหลือไหมคะ แล้วจะซื้อได้ที่ไหนยังไงบ้างคะ ขอโทษที่มาถามช้ามากๆเลยนะคะ;_;

    Like

Leave a reply to jamie Cancel reply