[Hiddlesworth Fic] Unrequited

 
Unrequited

Hiddlesworth fanfiction by Tippuri~ii *

 

 
 

 

Pairing: Chris Hemsworth x Tom Hiddleston

Type: AU Fanfiction
 
 

 * แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *

 

 

REMARK: มี talk ดีๆแล้วล่ะค่ะะะะะะ แล้วอย่าลืมจิ้ม F5 เพื่อทัศนาธีมใหม่ด้วยนะคะ! XD

 

 

 

****************************************

 

 

 

 

เช้าวันจันทร์กล่าวทักทายทอมด้วยภาพคริสเดินเล่นกับเอลซาในย่านการค้ากลางกรุงลอนดอนบนหน้าหนังสือพิมพ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชายหนุ่มมองหน้ากระดาษเงียบๆ…มองภาพรอยยิ้มสดชื่นอ่อนหวานของคนสองคนในรูป…มองรูปเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของคริส…แล้วก็หลอกตัวเองว่าเขาไม่สนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฉันไม่สนใจ…ว่าวันจันทร์จะหม่นหมองแค่ไหน…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

 

 

วันรุ่งขึ้นคือวันอังคารที่ฝนตกปรอยปรายทั้งวัน…ทอมไม่ได้ออกไปไหนและไม่มีความคิดจะออกไปด้วย เพราะตอนนี้ในใจเขาก็เหมือนมีฝนครึ้มอยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันพุธก็ไม่ต่างกัน…ฝนยังคงตกพรำ และการที่อยู่บ้านเฉยๆ ก็ทำให้ทอมยิ่งคิดถึงภาพคริสกับครอบครัวมากกว่าเดิม แต่เขาก็พยายามบอกให้ตัวเองลืมไปเสีย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฉันไม่สนใจ…ว่าวันอังคารและพุธจะเป็นสีเทาเพียงใด…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

อากาศสดใสอีกครั้งในวันพฤหัสบดี…แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทอมรู้สึกดีขึ้นเลย หนังสือพิมพ์มีภาพใหม่ของคริสกับเอลซาอีกแล้ว

 

 

 

 

 

ภาพใหม่…แต่ความสดใสของรอยยิ้ม ความอ่อนหวานในสัมผัส กับความรักที่ฉายชัดผ่านดวงตาเป็นสิ่งเดิมที่เขาเห็นจนชิน…และก็ยังคงทำให้ใจเจ็บลึกๆได้เสมอ

 

 

 

 

 

ทอมมองภาพบนแผ่นกระดาษสีเทาอ่อนนิ่งนาน…ราวกับจะให้มันบาดลึกไปในการรับรู้ กรีดให้ใจจำเสียทีว่าความรักครั้งนี้ของตนไม่มีทางจะสมหวัง…ว่าหัวใจของคริสไม่เคยจะเป็นของเขา…และไม่มีทางจะเป็นด้วย ทุกท่วงท่าของคนในรูปบอกให้รู้ว่าหญิงสาวผมทองต่างหากที่คริสมอบหัวใจให้

 

 

 

 

 

นัยน์ตาสีเขียวระริก…ไม่มีน้ำตา ทอมไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองอยากจะร้องไห้…เขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังโง่พอจะยอมให้ตัวเองรู้สึกเกินเลย เพราะงั้นตอนนี้…สิ่งเดียวในใจคือความว่างเปล่า มันกดทับ…ทำให้เจ็บจนชาเสียแล้ว

 

 

 

 

 

ฉันจะไม่สนใจอีกแล้ว…ฉันจะลืมนายไปเสียในวันพฤหัสบดีนี่…

 

 

 

 

 

*****

 

 

วันศุกร์มอบความประหลาดใจให้เขาด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือและชื่อบนหน้าจออิเลกทรอนิกส์

 

 

 

 

 

“ว่าไง…” ทอมรับสาย เสียงสะดุดตอนเรียกชื่อ “…คริส”

 

 

 

 

 

“เยี่ยมไปเลย!” ปลายสายดูดีใจที่ได้ยินเสียงเขา “ฉันได้ข่าวว่านายก็อยู่ลอนดอน…เลยโทรมาเช็คน่ะ ดีใจจังที่นายอยู่”

 

 

 

 

 

เสียงสดใสที่บอกว่ายินดีเพียงใดที่เขาอยู่ในเมืองเดียวกันทำให้ความหม่นหมองในใจของทอมกลายเป็นเหมือนเรื่องโกหก…เขายิ้มกว้าง ก่อนจะถอนหายใจอย่างสะท้อนใจกับตัวเอง…เขาเผลอใจมอบความรู้สึกให้คริสมากมายถึงขนาดนี้เชียวหรือ

 

 

 

 

 

“ฉันก็ว่าจะโทรหานายอยู่…เห็นนายในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเลย” ทอมโกหก…เขาไม่คิดจะติดต่ออะไรกับอีกฝ่ายเลย ไม่ใช่ในเวลาที่คริสมีเอลซากับอินเดียอยู่ด้วยแบบนี้ “แต่เห็นนายมากับครอบครัว…เลยคิดว่านายคงไม่อยากให้ใครกวน”

 

 

 

 

 

“ให้ตายสิฮิดเดิลสตัน!” คริสหัวเราะพร้อมเรียกเขาอย่างล้อเลียน “นายเป็นเพื่อนสนิทหมายเลขหนึ่งของฉันนะ…เลิกคิดเกรงใจอย่างนี้ซะทีเถอะ”

 

 

 

 

 

ทอมหัวเราะเบาๆ ไปตามมุข…แต่ไม่ตอบอะไร ชายหนุ่มยังคงไม่สามารถรับมือกับคำว่า ‘เพื่อนสนิท’ ที่อีกฝ่ายมองว่าเขาเป็นได้เลย

 

 

 

 

 

“ฉันแค่โทรมาถามน่ะว่านายพอจะว่างไหม…จะได้มาเจอกัน” คริสบอก “อังคารไม่ก็พุธหน้าเป็นไง? นายติดอะไรหรือเปล่า?”

 

 

 

 

 

“เอ่อ…” ทอมอึกอัก พยายามคิดหาวิธีพูดให้ไม่ดูน่าสงสัย “ฉันนึกว่านายอยากจะพาเอลซากับพาอินเดียไปเที่ยวนอกเมืองซะอีก…”

 

 

 

 

 

“อ๋อ…เปล่าๆ” คำปฏิเสธของคริสทำให้ทอมสะดุดใจ…และหัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ฟังต่อ “ไม่มีเอลซากับอินเดียมาด้วยหรอก…ฉันแค่อยากหาอะไรดื่มกับนายน่ะ ได้ไหม?”

 

 

 

 

 

คำพูดง่ายดายไม่คิดอะไรนี้ทำให้ทอมเงียบไป…เขาดีใจจนพูดไม่ถูก และก็ตามมาด้วยความเจ็บปวดลึกๆ อย่างเคยจากการย้ำเตือนตัวเองว่าคริสไม่ได้รู้สึกหรือหมายความใดๆ ลึกซึ้งไปกว่าคำว่าเพื่อนเลย

 

 

 

 

 

…แต่เขาก็ยังโง่พอที่จะยอมหลอกตัวเองต่อไป

 

 

 

 

 

“ได้สิ…” ทอมตอบรับ “วันอังคารหรือพุธก็ได้…ค่อยนัดอีกทีละกัน”

 

 

 

 

 

รอยยิ้มระบายเต็มเรียวปากเป็นครั้งแรกของสัปดาห์…ไม่น่าเชื่อว่าความสุขลมๆ แล้งๆ จะมีรสชาติหอมหวานถึงเพียงนี้

 

 

 

 

 

วันศุกร์…คือวันที่ฉันมีความรัก…

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

วันจันทร์ของสัปดาห์ใหม่ทักทายทอมด้วยภาพของสมาชิกครอบครัวเฮมสเวิร์ธเช่นเดิม…เพียงแต่วันนี้ มีเพียงชายหนุ่มผมทองคนเดียวในภาพ…วงหน้าหล่อเหลานั้นดูเคร่งขรึมติดจะบึ้งตึง เด่นชัดอยู่กลางบรรทัดตัวอักษรที่พยายามหาที่มาและตีความสีหน้านั้น

 

 

 

 

 

ทอมมองภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์…เขาเคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของชายหนุ่มผมทอง มันเป็นสีหน้าเวลาที่คริสหาทางออกให้ปัญหายุ่งยากในใจไม่ได้…ทอมรู้ว่ามันจะตามมาด้วยการโทษตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่หลายคนรู้…แต่เขาสังเกตได้เอง…ว่าคริสมีจิตใจที่อ่อนโยน นั่นจึงทำให้เจ้าตัวมักมองหาความผิดของตนเองก่อนเสมอ

 

 

 

 

 

เขาไล้ปลายนิ้วไปตามโครงหน้าในรูป…นึกอยากโทรไปหา อยากเป็นคนที่บอกให้อีกฝ่ายเลิกโทษตัวเอง อยากช่วยไล่ความหนักหน่วงใดๆ ในใจออกไป…แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขา คริสมีคนที่จะทำแบบนั้นให้อยู่แล้ว…และที่สำคัญ เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายเลือกคนคนนั้นด้วยตัวเอง

 

 

 

 

 

ทอมหลับตาลง…หวังว่าเอลซาจะช่วยปลอบโยนคริสได้

 

 

 

 

 

มันเป็นแค่วันจันทร์…เพราะงั้นถ้านายจะรู้สึกล้า…มันก็ไม่เป็นไรหรอกนะ

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

วันอังคารมาถึง…หากคริสก็ไม่ได้โทรมานัดเวลา

 

 

 

 

 

ข่าวยังคงตีพิมพ์ว่าท่าทางคริส เฮมสเวิร์ธจะมีปัญหากับครอบครัวขึ้นมากลางทริป ภาพใหม่ของสีหน้าไร้รอยยิ้มของเจ้าตัวมีให้เห็นอยู่บนทุกหน้าหนังสือพิมพ์…นั่นจึงทำให้ทอมรู้ดีว่าการโทรไปย้ำเตือนถึงนัดของพวกเขาไม่ใช่เรื่องที่ดี คริสมีปัญหาที่ต้องแก้อยู่…และการที่ชายหนุ่มไม่ติดต่อมาเลยก็บอกชัดว่าเจ้าตัวเห็นว่าอะไรสำคัญกว่า

 

 

 

 

 

ทอมพยายามปลอบใจตัวเองว่าคริสไม่ได้ชี้ชัดสักหน่อยว่าต้องเป็นวันอังคาร…แต่วันพุธที่เงียบงันก็ทำให้เขาหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลืมหรือยังคงจัดการเรื่องยุ่งๆ ของตนไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่รู้แน่ๆ ก็คือ…ตัวเขาไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย ไม่มีความสำคัญพอแม้แต่จะได้รับโทรศัพท์สักสายมาขอโทษหรือบอกยกเลิกนัดให้ชัดเจน

 

 

 

 

 

ทอมยิ้มขื่นๆ กับเข็มนาฬิกาที่ล่วงเลย…ต่อว่าตัวเองในใจว่าทำไมถึงได้ไร้ความคิดแบบนี้ เขาเป็นแค่เพื่อน…จะมีความสำคัญเท่ากับครอบครัวได้อย่างไร

 

 

 

 

 

วันอังคารกับวันพุธ…นายทำให้หัวใจของฉันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าอะไร…

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

ทอมตื่นมาพบกับช่วงสายที่ปาไปเป็นเกือบเที่ยงแล้วของวันพฤหัสบดี

 

 

 

 

 

ชายหนุ่มมองนาฬิกาก่อนจะควานหาหนังสือจากกองข้างเตียง…ตั้งใจว่าอ่านมันบนเตียงแบบนี้ตลอดเวลาที่ยังเหลือของวัน เขาต้องการวันเงียบสงบที่ไม่มีหนังสือพิมพ์และข่าวคราวใดๆ ของคริส…ความรู้สึกในใจตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตนเป็นคนโง่เง่ามากพอแล้ว

 

 

 

 

 

ทอมเปิดหนังสือในมือ…ตั้งใจจะลืมเวลาไปเสียด้วยตัวอักษรบนหน้ากระดาษ

 

 

 

 

 

วันพฤหัสบดี…ฉันจะคิดว่ามันไม่ได้แม้แต่จะเริ่มต้นด้วยซ้ำ

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

ทอมไม่ได้แตะต้องหนังสือพิมพ์ของวันศุกร์…ไม่ได้เช็คด้วยว่ามีใครโทรหาตนไหม

 

 

 

 

 

ชั่วโมงล่วงเลย…จนสุดท้ายเมื่อเขาหาอะไรมาทำฆ่าเวลาไม่ได้จริงๆ แล้ว ทอมจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาเปิดดูเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้สนใจจะเช็ครายการมิสคอล…ชายหนุ่มเปิดบรรดาแอพพลิเคชั่นของโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลายที่ตนเป็นสมาชิกอยู่จนครบ แต่ไม่มีอะไรมาดึงความสนใจไปได้เลย…สุดท้ายของสุดท้าย เขาก็ยังคงคิดถึงชายหนุ่มผมทองอยู่ดี

 

 

 

 

 

ทอมใช้เวลาอย่างเรื่อยเปื่อยไปจนหัวค่ำ…เขามองท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดดำและโคมข้างถนนที่ทยอยสว่างขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งแปะตรงโซฟา เปิดโทรทัศน์เพื่อไล่ความเงียบในห้อง…แต่เลี่ยงช่องข่าวเพราะไม่รู้ว่าจะมีข่าวของคริสหรือเปล่า

 

 

 

 

 

ไม่มีอะไรน่าสนใจ…ทอมร่ำๆ จะเผลอหลับไปเสียแล้วถ้าโทรศัพท์มือถือไม่ได้แผดเสียงขึ้นมาเสียก่อน ชายหนุ่มสะดุ้ง…หัวใจเต้นรัวตอนกดรับ

 

 

 

 

 

“…” เขาไม่ได้ทักทาย…นั่นทำให้คนปลายสายก็เงียบ แต่สุดท้ายก็ยอมเป็นฝ่ายพูดก่อน “…ทอม?”

 

 

 

 

 

คนฟังถอนหายใจ…ตอบรับเสียงเรียบ “ว่าไงคริส”

 

 

 

 

 

“เอ่อ…ฉัน…” ปลายสายเรียบเรียงคำพูด เสียงแผ่วค่อยเพราะรู้ดีว่าตนเป็นฝ่ายผิด “เรื่องนัดของเรา…ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้โทรมาบอก”

 

 

 

 

 

“ช่างเถอะ” ทอมกล่าว…กระแสตัดบทและเย็นชาเกินกว่าที่ตั้งใจ “ฉันรู้ว่านายมีปัญหาที่ต้องจัดการ…ดีแล้วที่นายดูแลเรื่องที่สำคัญกว่า”

 

 

 

 

 

“ฉันแค่ทะเลาะกับเอลซานิดหน่อยเอง…แต่เขางอนนาน” เสียงของคริสฟังดูโล่งใจ หากก็ไม่ได้หมดความรู้สึกผิด “แต่ฉันก็น่าจะโทรมาบอกนาย…โทษทีนะ ฉันผิดเองแหละ”

 

 

 

 

 

มีคนจำนวนน้อยนักที่จะยอมรับและพูดขอโทษตรงๆ แบบนี้…แต่คริส เฮมสเวิร์ธก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น และทอมก็ตระหนักได้เป็นรอบที่เกินจะจำว่าเขารักนิสัยนี้ของอีกฝ่ายเพียงใด

 

 

 

 

 

ไม่หรอก…เพราะถ้าจะพูดให้ถูกแล้ว…เขารักทุกอย่างที่เป็นคริสต่างหาก

 

 

 

 

 

“ช่างเถอะ…เอลซาหายโกรธก็ดีแล้ว” ทอมพูดออกมาในที่สุด…ยอมรับว่าเจ็บไปทั้งใจ แต่เขาอยากเห็นคริสมีความสุข และการบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไปก็รังแต่จะสร้างความลำบากใจให้อีกฝ่าย เพราะฉะนั้น…ฐานะเพื่อนสนิทก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา “ส่วนเรื่องนัด…จะเมื่อไหร่ก็ได้ล่ะน่า เรายังมีหนังให้ถ่ายด้วยกันอีกหลายภาค…ไม่ต้องห่วงหรอก”

 

 

 

 

 

คริสหัวเราะกับมุขของเขา ก่อนจะถาม “แล้วนี่นายทำอะไรอยู่เนี่ย?”

 

 

 

 

 

“ดูเทลลี” ทอมพูดเสียงคร้านๆ…แอบหาวเล็กๆ “แต่จะหลับคาโซฟาหลายรอบแล้วล่ะ”

 

 

 

 

 

“งั้นเหรอ…” เสียงนุ่มๆ ทางปลายสายดูมีลับลมคมนัยชอบกล “งั้นนายก็ลืมปิดไฟชั้นบนล่ะ…มันสว่างอยู่”

 

 

 

 

 

ทอมหยัดตัวขึ้นนั่งหลังตรงทันที สะดุดใจกับประโยคนั้น…ขายาวก้าวพรวดพราดขึ้นบันไดไป จริงดังคำว่า…เขาลืมปิดโคมหัวเตียง

 

 

 

 

 

ชายหนุ่มกดปิดสวิทช์ พูดเสียงจับผิดใส่ทางปลายสาย “นายอยู่ไหนน่ะ…บอกมาเลยนะ”

 

 

 

 

 

คริสหัวเราะเบาๆ…ยิ่งทำให้ทอมงุ่นง่าน เขากดเสียงต่ำ “เฮมสเวิร์ธ…”

 

 

 

 

 

“โอเค…โอเค…” คริสยังคงหัวเราะเบาๆ “ก็ไม่ไกลหรอกนะ…”

 

 

 

 

ทอมจับกระแสล้อเล่นแบบที่อีกฝ่ายชอบใช้เวลาปั่นหัวคนอื่นได้ชัดในน้ำเสียง เขาก้าวพรวดๆ ไปทางประตูหน้าบ้าน พูดข่มขู่ไปด้วย “รอก่อนเถอะ…เดี๋ยวฉันจะโทรเรียกตำรวจ…”

 

 

 

 

 

เสียงเงียบหายเพราะเมื่อเขากระชากประตูเปิด…ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผมทองก็ยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน รอยยิ้มที่ได้เห็นนั้นสว่างไสวเสียยิ่งกว่าแสงแดด…และทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงยิ่งกว่าเวลาได้เจอใครอื่น

 

 

 

 

 

“หวัดดี…ทอม”

 

 

 

 

 

เจ้าของชื่อยังคงนิ่งอึ้ง…ประหลาดใจจนพูดไม่ออก ชายหนุ่มผมทองขยับยิ้มร่าเริงมากขึ้น พูดเสียงกลั้วหัวเราะ

 

 

 

 

 

“โอเค…ถ้านายจะไม่ยอมให้ฉันเข้าบ้าน ฉันมีนี่มาต่อรอง” มือใหญ่หยิบของที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมาให้ดู…มันคือแผ่นดีวีดี “ฉันรู้ว่านายคงดูจนจำได้แล้ว…แต่ดูอีกรอบเถอะ ฉันว่าฉันยังเก็บประเด็นไม่ครบซะที”

 

 

 

 

 

ทอมหัวเราะออกมาบ้าง ตัดสินใจไม่ถามว่าคริสทำอย่างไร…เอลซาถึงได้ยอมให้เจ้าตัวมายืนยิ้มอยู่ตรงนี้ ตั้งใจจะรับรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้…คริส เฮมสเวิร์ธกำลังขอต่อรองเข้าบ้านของเขาด้วยแผ่นดีวีดีเรื่องอินเซปชั่น

 

 

 

 

 

“เอาสิ…ตอนนี้มีแต่รายการน่าเบื่อๆ ทั้งนั้นเลย นายมาได้ถูกเวลาจริงๆ” บานประตูถูกเปิดกว้าง…คริสก้าวเข้ามาแล้วก็หัวเราะไปด้วย วินาทีนั้นเองที่ทอม ตระหนักอีกครั้งว่ารอยยิ้มของคนตรงหน้ามีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดแค่ไหน…ทุกความเสียใจดูบางเบาลงด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าตอนนี้เขามีคริสอยู่ข้างๆ

 

 

 

 

 

ทอมยิ้มบางๆ กับตัวเอง…เพราะเมื่อย้อนคิดถึงเรื่องราวในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว มันช่างตรงกับเนื้อเพลงโปรดของเขาเสียจริง

 

 

 

 

 

แล้วสุดท้าย…ฉันก็มีความรักในวันศุกร์…

 

 

 

 

 

รอยยิ้มร่าเริงไหวระริก แต่เขาก็ซ่อนมันไว้ด้วยการเสไปปิดประตูแล้วบอกให้คริสไปเปิดเครื่องเล่นดีวีดีรอ คิดถึงเนื้อเพลงอีกครั้งอย่างเงียบงันในหัว

 

 

 

 


แล้วสุดท้าย…ฉันก็มีความรักในวันศุกร์…

 

 

 

 

 

สีหน้าแปรเปลี่ยน…เพราะตระหนักดีว่าเรื่องราวของเขาไม่ได้ตรงกับเนื้อเพลงไปเสียหมด จุดต่างนั้นเล็กน้อย…หากเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปจนหมด

 

 

 

 


เพราะในเรื่องราวของเขา…รักนั้นเป็นรักที่ไม่มีทางสมหวัง…ไม่ว่าจะเป็นในวันไหนก็ตาม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Fin. 

 

 

****************************************

 

 

เยห์หหหหหหหหหหหหหหหห์ สวัสดีค่ะ!!! #ขี่ยานสตาร์เทรคเข้ามา

 

 

 

ดองบล็อกอีกแล้ว…แล้วก็เอาฟิคอะไรก็ไม่รู้มาลงอีกแล้ว…. /หลบตาทุกคน/ เรื่องยาวที่ค้างๆอยู่…หลังสอบจะเขียนแน่ๆค่ะ ตอนนี้ยังไม่พ้นช่วงสอบเลย เพราะก่อนหน้านี้ทิพย์มีอ่านสอบนอกมหาลัย ตอนนี้ก็มาเป็นติดสอบของมหาลัยแทนแล้วค่ะ ;____; รอหน่อยนะคะ นะนะนะนะ

 

 

 

เรื่องนี้…ความจริงเป็นฟิค hiddlesworth ที่มโนไว้เรื่องแรกสุดเลยล่ะค่ะ ก่อนหน้าขยุยคุงอีก เป็นฟิคที่เป็นภาพรวมของแพร์นี้ในสายตาทิพย์ค่ะ(เหมือนฟาสอาวอยจิบกาแฟเรื่องนั้นอ่ะค่ะ) ทิพย์มองว่าสองคนนี้คงมีความสัมพันธ์ประมาณนี้แน่ๆเลย…ทอมฮิแสนดีสุดอาภัพ และคริสเฮมแฟมิลี่แมน T___T ออกแนวอกหัก…ไม่เหมือนฟาสอาวอยที่ทิพย์มองว่ากริ๊บกริ๊วและน่ารักมาก #แงแง #กอดปกป้องพี่ทอม

 

 

 

มองภาพรวมนี้ไว้ตั้งแต่แรกเลยล่ะค่ะ แล้วปะเหมาะ…พี่ทอมทวิตเพลง Friday I’m In Love ของ The Cure มาอีก เพลงจริงๆออกจะน่ารักนะคะ แต่ทิพย์ฟังไปคิดไป…ได้ออกมาบัดซบแบบนี้แทนล่ะคะ ;W; เนื้อเพลงที่ใช้ประกอบในฟิคก็คือเพลงนี้…ทิพย์แปลเอง ถ้าผิดยังไงก็ขอโทษค่ะ U___U

 

 

 

 

คงไม่มีอะไรมากแล้ว…เอาจริงๆ ช่วงนี้ทิพย์รู้สึกว่าตัวเองหัวตันๆชอบกลล่ะค่ะ คิดจะเขียนอะไรก็เขียนไม่ออกเลย มันเลยดองไปหมด และใจจริงช่วงนี้ก็อยากเขียนรีวิวหนังสือ+หนังที่ได้เสพย์มาด้วย เรียกว่าอยู่ในโหมดอยากอ่านมากกว่าอยากเขียนละกันนะคะ ; x ; ฮือๆ

 

 

 

 

เจอกันเอนทรี่ต่อไปค่ะ

 

 

 

 

ทิพย์ผู้จะช่วยพี่เบนนี่เหนียงยึดครองโลก

 

 

6 responses to “[Hiddlesworth Fic] Unrequited

  1. โฮรลลลลล
    เรื่องเศร้าจังง่ะงื้ออออ พี่ทอมแสนดีผู้อาภัพง่ะๆๆๆ;[];
    เบะปากใส่พี่คริสรัวๆ
    ทำไมพี่ทอมน่าสงสารงี้ฮืออออออออ
    กอดพี่ทอมเบาๆ

    Like

  2. ฮรืออออ อ่านแล้วมันหน่วงงงง เจ็บจี๊ดดด พี่ทอมฮิของหนู~ รักที่ไม่สมหวังงง แง้ TT^TT เรื่องจริงที่แสนเจ็บปวดด //อะไรของมัน ฮาาา แต่ก็ฟินน้าา ตอนพี่คริสมายืนเกาะ(?)รั้วว น่ารักเชียวว อิอิ

    Like

  3. ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกคิดถึง ฮดสว. ของทิพย์
    ถึงทอมจะมีแฟนแล้ว หรือคริสจะลูกสามแล้ว ก็ไม่อ่าจหยุดความฟินนี้ได้ ถถถถถถ

    คู่นี้จบธอร์ 2 ก็คงมิได้เจอะกันบ่อย ๆ หรืออาจจะไม่เลยก็เป็นได้ แงง
    เศร้าตามเรื่อง เบา ๆ

    Like

  4. ฮื่ออออ ทอมอย่าร้องไห้เลยน้าาา///กอด
    แต่เมื่อคริสมาหาถึงบ้านทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
    เป็นอะไรที่ปวดใจมากๆค่ะ เป็นความสุขที่ปวดใจจริงๆ

    รอตามฟินกับคู่นี้ต่อไปปป

    Like

  5. กอดเหม่งงง รู้สึกหมั่นไส้แฟมิลี่แมนขึ้นมาทันทีเลยค่ะ แงง
    เป็นความรู้สึกที่หน่วงมากจริงๆค่ะ เหมือนจะตัดใจได้แล้ว
    แต่พอได้เจอเขาอีก ความรู้สึกก็กลับมาเหมือนเดิม T – T
    ฮืออออ หมีร้ายกาจจจจ มาปลอบเหม่งเดี๋ยวนี้เลยนะะ

    Like

Leave a comment