[X-Men Fic][ErikCharles] Where Our Hearts Belong (2)

 
Where Our Hearts Belong

X-Men: First Class Fanfiction by Tippuri~ii *

 

 

 

Pairing: Erik Lehnsherr x Charles Xavier

Type: AU Fanfiction
Remark : domestic love & daddy-duo story, no mutation involved

Warning: YAOI ALERT; ENTER AT YOUR OWN RISK

              

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
 
Chapter 2

 

 

 

 

ชาร์ลส์ลืมตาตื่นตอนหกโมงเช้าพอดีเป๊ะด้วยเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือ

              

 

 

 

ชายหนุ่มสบถงึมงำ มือเรียวควานหาเจ้าเครื่องอิเลคทรอนิกส์ที่ส่งเสียงได้หนวกหูเกินตัวแล้วกดให้ปิด ปกติเขาต้องตื่นเช้าเพื่อจะได้เตรียมตัวออกไปตระเวนหางาน…เพียงแต่วันนี้มันไม่จำเป็นแล้ว

 

 

 

 

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ชาร์ลส์ก็ตื่นเต็มตา…เขาพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพื่อยืนยันกับตัวเองว่ามันเป็นเรื่องจริง ทุกสิ่งยังฟังดูเหมือนเรื่องล้อเล่น…แม้ว่าตอนนี้ การที่เขาอยู่ในห้องนอนเล็กจิ๋วของบ้านของผู้ชายที่เขาเพิ่งเจอเมื่อคืนจะเป็นข้อยืนยันความจริงที่ดียิ่งกว่าอะไรก็ตาม

 

 

 

 

หลังจากที่ฟังข้อเสนออันแสนจะพิลึกกึกกือของอีริค…ชาร์ลส์ก็ตัดสินใจจะตอบตกลงแบบมึนๆ แล้วก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันงามมาที่บ้านของอีกฝ่าย แอลกอฮอล์ในเส้นเลือดผสมกับความง่วงกล่อมให้เขาแทบอยากหลับไปให้รู้แล้วรู้รอดจนไม่สนใจฟังชายหนุ่มอีกคนบอกว่าตรงไหนคือที่นอนของเขา…สุดท้าย อีริคจึงต้องเป็นคนลากเขามาวางแปะที่เตียงให้ถึงที่ และชาร์ลส์ก็หลับฟี้ทันทีที่หัวสัมผัสความนุ่มของหมอน

 

 

 

 

หากตอนนี้…เมื่อสติกลับมาแล้ว ชาร์ลส์เริ่มอยากกุมขมับกับการตัดสินใจบ้าบอครั้งนี้ของตน…เริ่มต้นเทศนาตัวเองในใจตั้งแต่กฎการดูแลตัวเองขั้นต้นว่าอย่าดื่มมาราธอนไปจนถึงอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ก่อนจะมองสำรวจไปรอบห้อง…กระเป๋าเป้ของเขาโดนวางไว้ที่ปลายเตียง ผนังสีฟ้ามีจุดสีล่อนประปรายและเครื่องเรือนก็มีน้อยชิ้น แต่นอกเหนือจากนั้นทุกอย่างก็ดูสะอาดเรียบร้อยดี

 

 

 

 

อย่างน้อยก็ขอบคุณพระเจ้าที่เขาไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตรอกที่ไหนสักที่พร้อมข้าวของหายไปหมดแล้วกันล่ะนะ

 

 

 

 

ชาร์ลส์คิดอย่างโล่งใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วค่อยๆ เดินอย่างออมฝีเท้าไปนอกห้อง…ทั้งบ้านเงียบกริบเหมือนไม่มีคน ชายหนุ่มจัดการเดาทางจนหาห้องน้ำเจอได้เอง…และหลังจากที่ได้อาบน้ำฝักบัวอุ่นๆ  ชาร์ลส์ก็รู้สึกว่าสติของตนกลับมาเต็มร้อย

 

 

 

 

ด้วยความที่ตัวบ้านนั้นเล็กจนเรียกได้ว่าแคบ…ชาร์ลส์จึงหาบันไดเจออย่างง่ายดาย และในไม่กี่ก้าว เขาก็พบห้องครัวที่เป็นห้องทานอาหารในตัว…แม้ว่าทุกอย่างจะถูกจัดวางไว้อย่างแออัดแต่ก็ดูสะอาดดี ชายหนุ่มเปิดตู้นั้นตู้นี่ดูก่อนจะถอนหายใจอย่างตัดสินใจได้

 

 

 

 

เอาน่า…ถึงจะเป็นงานที่ฟังดูบ้าบอยังไง แต่เขาก็รับปากจะทำแล้วนี่นา

 

 

 

 

 

*****

 

การตื่นเช้าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับฌอน…และวันนี้ก็เป็นวันที่เรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักเกิดขึ้น

 

 

 

 

เด็กชายฝันว่ามีเสียงหม้อกระทะกระทบกันดังมาจากใต้เตียง…ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นแล้วค้นพบว่ามันไม่ใช่ความฝัน มีเสียงที่ว่าดังมาจากชั้นล่างจริงๆ…ร่างเล็กจึงค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่างอย่างงัวเงีย นึกสงสัยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น…ผู้ใหญ่คนเดียวในบ้านจึงได้มีใจจะมาทำอาหาร

 

 

 

 

หากเมื่อมาถึงห้องครัว ความงัวเงียทั้งปวงก็หายวับไปทันที…แผ่นหลังของคนที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ไม่ใช่ผู้ปกครองของเขา และฌอนก็ไม่คุ้นตาสักนิดว่านี่จะเป็นคนรู้จักคนใดของครอบครัวด้วย เด็กน้อยอาศัยความที่ร่างเพรียวนั้นยังไม่รู้สึกตัวรีบวิ่งขึ้นกลับไปที่ห้องนอนทันที

 

 

 

 

ฌอนผลักประตูเปิดโดยไม่สนใจจะปิดมันแล้วกระโจนขึ้นไปบนเตียงขนาดใหญ่ที่พี่และน้องชายของเขานอนรวมกันอยู่…มือเล็กป้อมเขย่าร่างเด็กชายผมทองที่หลับอยู่เป็นระวิงพลางกระซิบร้อนรน

 

 

 

 

“อเล็กซ์! อเล็กซ์! ตื่นเร็วอเล็กซ์!”

 

 

 

 

“โอย…เงียบน่าฌอน นาฬิกายังไม่ดังเลย” เจ้าของชื่อว่าเสียงหงุดหงิดแล้วขยับหนีโดยไม่ลืมตา

 

 

 

 

“ปัดโธ่! นี่มันเรื่องใหญ่นะ!! ตื่นสิอเล็กซ์!” ฌอนไม่ยอมแพ้ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมาย “แฮงค์! ตื่น!! พี่ชายสั่งให้ตื่นไง!!”

 

 

 

 

“อะ…อะไรกัน…เล่า…” เด็กชายผมน้ำตาลขยี้ตาอย่างงัวเงีย ก่อนจะเอามือปัดป้องเมื่อคนปลุกพยายามยัดแว่นสายตาใส่ให้ “หยุด…หยุดสิ ฉันใส่เองได้”

 

 

 

 

ความวุ่นวายที่เด็กชายผมแดงก่อขึ้นทำให้ทั้งห้องตื่นกันหมด…แม้แต่เด็กหญิงตัวน้อยที่นอนในเตียงคอกก็ยังลุกขึ้นมาร่วมส่งเสียงวี้ดๆ อย่างสนุกสนานทั้งที่ไม่เข้าใจ นั่นจึงทำให้แฮงค์ต้องรีบลุกไปอุ้มน้องสาวคนเล็กของบ้านมากอดเพื่อให้เจ้าตัวสงบลง

 

 

 

 

“โธ่เว้ย!!” ในที่สุดอเล็กซ์ก็ต้องยอมแพ้ ร่างสูงเกินเด็กวัยเดียวกันยอมลุกขึ้นมานั่ง นัยน์ตาสีฟ้าเข้มตวัดมองอย่างหงุดหงิด “มีอะไรนักหนาแต่เช้าเลยหาฌอน?!”

 

 

 

 

เด็กน้อยผมแดงไม่สนใจความไม่พอใจในน้ำเสียงเพราะมีเรื่องที่ทำให้เครียดมากกว่า “มีใครก็ไมรู้อยู่ในห้องครัวล่ะอเล็กซ์!”

 

 

 

 

ประโยคจากคนเป็นน้องทำให้คนฟังคลายความโมโหลง “นายแน่ใจนะ?”

 

 

 

 

เจ้าของคำให้การพยักหน้าเร็วยิก แฮงค์กระชับร่างน้องสาวในอ้อมแขนพร้อมถอนหายใจอย่างวิตก เหลือบมองพี่ชายคนโต…อเล็กซ์นิ่งคิดสักพักก่อนจะพูดเสียงเบา

 

 

 

 

“เอางี้ เราลงไปดูพร้อมกันให้หมดนี่แหละ…ถ้ามีอะไรให้ร้องดังๆ แล้ววิ่งออกไปเรียกคนเลยโอเคมั้ย?”

 

 

 

 

น้องชายทั้งสองพยักหน้ารับคำ…ก่อนที่จะเริ่มต้นเดินขบวนกันออกไปจากห้องนอนโดยมีอเล็กซ์นำหน้าแถว

 

 

 

 

 

*****

 

เสียงพูดคุยแผ่วเบาที่ดังลอยมาทำให้ชาร์ลส์ชะงักงานในมือ

 

 

 

 

“โอ๊ย! อย่าดันสิฌอน!”

 

 

 

 

“โทษทีอเล็กซ์ ฉันไม่รู้นี่นา!”

 

 

 

 

“เบาๆ สิทั้งสองคน เดี๋ยวเขาก็รู้ตัวหรอก…โอ๋ๆ  ไม่มีอะไรนะเรเวน…”

 

 

 

 

ร่างเพรียวหันไปทางต้นเสียง…ก่อนจะพบว่าที่ตรงประตูครัวมีร่างเล็กๆ ในชุดนอนของเด็กชายสามคนยืนเบียดแอบอยู่ หนึ่งในนั้นกำลังอุ้มเด็กหญิงเอาไว้ ทั้งสามกำลังทุ่มเถียงกันโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายของพวกตนนั้นรู้ตัวเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

ชาร์ลส์มองภาพที่ทั้งตลกและน่าเอ็นดูตรงหน้าแล้วนึกอยากหัวเราะก่อนมา…ก่อนจะทักยิ้มๆ

 

 

 

 

“อรุณสวัสดิ์”

 

 

 

 

ทั้งสามสะดุ้งเฮือก ก่อนจะรีบหันมาโดยพร้อมเพรียง…ความหวาดระแวงไม่ไว้ใจระบายบนดวงหน้าเล็กๆ ของทุกคน ก่อนที่เด็กชายผมทองที่ตัวสูงที่สุดจะถามด้วยเสียงที่ฟังรู้ว่าดัดให้แข็งกร้าว

 

 

 

 

“คุณเป็นใครน่ะ? มาอยู่ในบ้านเราได้ยังไง?”

 

 

 

 

“ฉันเป็น…เอ่อ…” ชาร์ลส์ไม่ได้คิดมาก่อนว่าเด็กวัยนี้จะพูดจาเฉียบขาดแบบนี้ได้…และคิดดีๆ  เขาก็ยังไม่ค่อยแน่ใจด้วยว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องทำอะไรกันแน่ “…เป็นคนดูแลพวกเธอ…ล่ะมั้ง…”

 

 

 

 

“ตกลงว่าเป็นหรือไม่เป็นล่ะ?!” หนูน้อยผมแดงแทรกขึ้นมาด้วยเสียงจับผิด

 

 

 

 

ชาร์ลส์รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในฉากของหนังไซไฟที่มีเอเลี่ยนตัวเล็กๆ หน้าตาไม่น่ากลัวพยายามจะขู่และสอบปากคำเขาอยู่ “เป็นสิ…อีริคเสนองานนี้ให้ฉันเอง”

 

 

 

 

การระบุชื่อของชายหนุ่มผมน้ำตาลได้ผล…เด็กชายทั้งสามหันไปซุบซิบกันสักพัก ก่อนเด็กชายผมทองที่ดูเหมือนจะเป็นพี่คนโตจะหันมาพูดเสียงเคร่งๆ

 

 

 

 

“ถ้าจะมีคนมาดูแลพวกเรา…พวกเราก็ต้องมีสิทธิ์ในการเลือกด้วยว่าเป็นใคร” ดวงตาสีฟ้าเข้มเหลือบมองไปยังเตาที่มีหม้อกระทะวางอยู่และโต๊ะอาหารที่จัดไปได้ครึ่งนึง “…เราจะตัดสินใจว่าคุณจะได้อยู่หรือไปจากอาหารเช้ามื้อนี้ละกัน ตั้งใจเข้าล่ะ”

 

 

 

 

เมื่อประกาศจบ…หนูน้อยทั้งสาม (พร้อมกับอีกหนึ่งคนที่โดนอุ้มอยู่) ก็ล่าถอยออกไป ชาร์ลส์มองตามจนเสียงบันไดเอี๊ยดอ๊าดแว่วหายแล้วกระพริบตาปริบๆอย่างงงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น…มึนกับความจริงที่ว่าเขาเพิ่งตกเป็นเหยื่อการข่มขู่ของแก็งค์เด็กประถม

 

 

 

 

ให้ตายเถอะ…แน่ใจเหรอว่าเด็กพวกนี้ต้องการการดูแลน่ะ?

 

 

 

 

 

*****

 

ในเวลาไม่นาน…เด็กทุกคนก็กลับเข้ามาที่ห้องครัวอีกครั้งในชุดเรียบร้อย ชาร์ลส์พยายามยื่นไมตรีด้วยรอยยิ้มและคำพูดต้อนรับ

 

 

 

 

“ฉันกำลังจะขึ้นไปเรียกอยู่เลย…รีบทานตอนมันร้อนๆ เถอะ”

 

 

 

 

เด็กชายทั้งสามมองภาพแพนเค้กสีทองอร่ามเป็นตั้งและเบคอนที่เกรียมนิดๆ ในจานด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง…อาหารตรงหน้าเป็นแค่ของง่ายๆ ก็จริง แต่ว่าพวกเขาทั้งสามไม่เคยมีคนทำให้กินมานานแล้ว เพราะฉะนั้น…เมื่อเทียบกับซีเรียลกับนมที่ทานกันซ้ำๆ ซากๆ อยู่ทุกเช้า อาหารตรงหน้าจึงเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์เลยทีเดียว

 

 

 

 

ชาร์ลส์แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเด็กชายทั้งสามรีบวิ่งกันไปหยิบจานมาตักอาหาร…ภาพที่เห็นตอนนี้พอจะทำให้เขาเชื่อแล้วว่าอาหารเช้าของเขาน่าจะผ่านการทดสอบ นัยน์ตาสีแซฟไฟร์เลื่อนไปเจอร่างเล็กกระจ้อยของเด็กหญิงผมทองที่เพิ่งเดินเตาะแตะเข้ามาถึง…ชายหนุ่มขยับยิ้มบางๆ ออกมาอย่างเอ็นดูแล้วก้าวไปอุ้มหนูน้อยไว้ในอ้อมแขน

 

 

 

 

ท่าทางแม่หนูจะชินแล้วกับการโดนอุ้ม…กริยาตอบสนองจึงเป็นเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ และนั่นยิ่งทำให้ชาร์ลส์ยิ้มกว้างขึ้น

 

 

 

 

“อยากทานอะไรครับ?” เสียงนุ่มถาม ใช้มือเลื่อนเก้าอี้เด็กตัวสูงออกแล้ววางร่างเล็กลงไปนั่ง

 

 

 

 

“เอาแพน…แพน…” หนูน้อยชี้นิ้วเล็กๆ ไปที่อาหารที่ตนต้องการ ชาร์ลส์จึงหยิบแพนเค้กวางลงในจาน จัดการราดน้ำผึ้งแล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำให้

 

 

 

 

“ขอบคุณค่ะ” เด็กหญิงกล่าวก่อนจะเริ่มจิ้มแพนเค้ก “…หย่อย…หย่อย”

 

 

 

 

ชาร์ลส์หัวเราะเบาๆ พลางลูบเส้นผมสีทองนุ่มมือเล่น สายตาเหลือบไปมองเด็กชายทั้งสามคนที่กำลังทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย…เพิ่งสังเกตว่าทั้งสามคนหน้าตาไม่คล้ายกันหรือคล้ายอีริคเลย นั่นจึงทำให้เขาเริ่มเข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีวี่แววว่าจะมีแม่ของเด็กพวกนี้อยู่ในบ้าน

 

 

 

 

“สรุปว่า…อีริคให้คุณมาเป็นคนดูแลพวกเราสินะครับ?” หลังจากที่ได้กินของอร่อย…กำแพงที่อเล็กซ์ตั้งไว้กับชายหนุ่มแปลกหน้าก็ดูจะถล่มหายไปเยอะ เด็กชายเป็นฝ่ายชวนคุยเสียเองด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

 

 

 

“อะ อืม! ใช่แล้วล่ะ” ชาร์ลส์สะดุดใจเล็กน้อยกับการที่เด็กชายเรียกชื่อต้นของผู้ปกครอง “อีริคบอกฉันมาอย่างนั้นน่ะ…เอ่อ…”

 

 

 

 

“ผมอเล็กซ์…อเล็กซ์ ซัมเมอร์” เด็กชายผมทองแนะนำตัว และนั่นทำให้เด็กหญิงคนเดียวในกลุ่มรีบเงยหน้าขึ้นมาจากจานแพนเค้กแล้วแย่งพูด

 

 

 

 

“เรเวนชื่อเรเวนค่ะ…” มือเล็กโบกหยอยๆ แล้วชี้ไปที่เด็กชายอีกสองคน “นั่นพี่ฌอน…นั่นพี่แฮงค์”

 

 

 

 

ชาร์ลส์ยิ้มกับการกระทำน่ารักๆ นี้ “ฉันชาร์ลส์นะ…ชาร์ลส์ เซเวียร์”

 

 

 

 

เด็กชายทั้งสองแนะนำตัวซ้ำอีกรอบ และชาร์ลส์ก็รู้สึกสะดุดใจอีกครั้งกับนามสกุลที่ไม่ซ้ำกันเลยของเด็กทุกคน

 

 

 

 

“เอ่อ…แล้วอีริคนี่เขาชื่อเต็มว่าอะไรเหรอ?” ชายหนุ่มถามเบาๆ…เพิ่งตระหนักว่าเขาไม่รู้แม้แต่นามสกุลของคนที่จ้างตนมาด้วยซ้ำ

 

 

 

 

“เลนเชอร์ฮะ…อีริค เลนเชอร์” แฮงค์ตอบให้ รับรู้ได้ถึงความสงสัยในแววตาของคนถาม “อีริครับพวกเรามาเลี้ยงฮะ…พวกเราเป็นพี่น้องกันตามกฎหมายน่ะฮะ”

 

 

 

 

“อ๋อ…อย่างนี้นี่เอง” ชาร์ลส์พยักหน้า…ขอบคุณที่ตัวเองไม่ต้องเป็นคนเอ่ยถามคำถามชวนให้อึดอัดใจออกไป ก่อนจะถามเรื่องที่เขาติดใจอีกเรื่องด้วยเสียงระมัดระวัง “เพราะงี้หรือเปล่า พวกเธอถึง…เอ่อ…เรียกอีริคด้วยชื่อน่ะ?”

 

 

 

 

“ไม่ใช่ฮะ” ฌอนตอบสบายๆ “คือเอาเข้าจริง…เราไม่ค่อยได้คุยกับอีริคเท่าไหร่หรอกฮะ เขาชอบไปทำงานแต่เช้าแล้วก็กลับดึกๆ…ต่อให้อยู่บ้านก็ต่างคนต่างอยู่ด้วย เราจะเรียกเขาว่าอะไรเขาก็คงไม่รู้หรอกฮะ”

 

 

 

 

ชาร์ลส์อึ้งไปกับการที่เด็กน้อยพูดเรื่องแบบนี้ออกมาด้วยท่าทางไม่เดือดร้อนใจ…เริ่มคิดว่าท่าทางงานนี้คงไม่ใช่การดูแลเด็กแค่ในแง่ของการทำอาหารเสียแล้ว เขาพยายามรวมความคิดให้เป็นปกติแล้วพูดสอนเสียงอ่อน

 

 

 

 

“ฉันคิดว่าพวกเธอไม่ควรเรียกอีริคด้วยชื่อเฉยๆ นะ…ถึงพวกเธอจะโดนรับมาเลี้ยง แต่ยังไงเขาก็ได้ชื่อเป็นพ่อของพวกเธอนะ”

 

 

 

 

เด็กน้อยทุกคนมองชาร์ลส์ตาแป๋ว ก่อนจะพยักหน้ารับคำ “ก็ได้ฮะ เราเรียกอีริคว่าแด็ดก็ได้”

 

 

 

 

ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มโดยพยายามซ่อนความล้าในใจเองไว้ ก่อนจะถามว่ามีใครอยากดื่มโกโก้บ้าง…หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อมือเล็กๆ สี่ข้างชูพรึ่บขึ้นพร้อมกัน

 

 

 

 

เมื่อเขาวางแก้วใส่โกโก้ควันกรุ่นสี่ใบลงบนโต๊ะ…ชาร์ลส์ก็พบว่าแฮงค์กำลังมองเขาอย่างครุ่นคิด ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเอ่ยถาม

 

 

 

 

“มีอะไรรึเปล่าแฮงค์?”

 

 

 

 

“เอ่อ…ผมแค่สงสัยว่าเราต้องเรียกคุณว่าอะไรน่ะฮะ” เด็กน้อยผมน้ำตาลถามด้วยเสียงระมัดระวังแผ่วเบา

 

 

 

 

“แค่ชาร์ลส์ก็ได้” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน…แต่ก็ยังไม่อาจลบสีหน้าระมัดระวังปนเครียดนิดๆ จากวงหน้าเล็กๆ นั้นได้

 

 

 

 

“คือมันไม่เป็นไรจริงๆ ฮะ…เราเรียกคุณว่าแด็ดด้วยก็ได้” แฮงค์พูดต่อด้วยความจริงใจ “พวกเราเข้าใจคุณกับอีริค…เอ่อ…แด็ดฮะ แล้วก็ไม่ได้รังเกียจด้วย อันที่จริง…พวกเราทุกคนสนับสนุนสิทธิมนุษยชนของคนที่ชอบเพศเดียวกันอยู่แล้วด้วยฮะ…”

 

 

 

 

“เอ่อ…แป็บนะแฮงค์ ฉันกับอีริคทำไมนะ?” ชาร์ลส์โบกมือขอเวลานอกพั่บๆ…เรื่องที่เด็กชายพูดอยู่ฟังดูแปลกๆ และเขาก็พยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่เขาเข้าใจ “เธอ…พูดถึงอะไรอยู่น่ะ?”

 

 

 

 

“ก็โฮโมเซ็กชวลลิตี้…คู่รักเพศเดียวกัน…การแต่งงานระหว่างผู้ชายกับผู้ชายไงฮะ” เด็กน้อยเอ่ยศัพท์วิชาการออกมาเป็นชุดด้วยน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจ “ผมไม่ว่าอะไรเลยฮะ มันเป็นความรักอีกรูปแบบนึง…ดีนะฮะที่ตอนนี้นิวยอร์กอนุญาตแล้ว..”

 

 

 

 

“หยุดๆๆๆ !!!” ชาร์ลส์รีบเบรกเด็กชายไว้ทันที หน้าขาวแดงวาบกับสิ่งที่ได้ฟัง…ในหัวมึนด้วยความสงสัยว่าเด็กประถมสมัยนี้สามารถพูดอะไรที่มันแอดวานซ์ขนาดนี้ได้กันแล้วหรือ “ฉันกับอีริค เราไม่ได้เป็น…เอ่อ เธอเรียกว่าไงนะ คู่รักใช่มั้ย?…เราไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นกันนะแฮงค์ โอเคมั้ย? อีริคจ้างฉันมาเฉยๆ…แค่นั้นแหละ”

 

 

 

 

“อ้าว…ไม่ใช่หรอกเหรอฮะ” ฌอนอุทานออกมาด้วยเสียงผิดหวัง “แสดงว่าผมเดาผิดเหมือนกันสิเนี่ย…แย่อ่ะ ถ้าคุณเป็นแฟนกับแด็ด เราคงมีของอร่อยๆ ยังงี้กินทุกวัน…น่าเสียดายชะมัด”

 

 

 

 

“ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับอีริค…แต่ฉันจะเป็นคนดูแลพวกเธอแล้วก็ทำอาหาร โอเคมั้ย?” ชาร์ลส์อธิบาย…หวังว่ามันจะชัดเจนพอ เด็กชายทั้งสามพยักหน้าหงึกๆ แม้จะมีสีหน้าผิดหวัง…หากไม่ใช่กับหนูน้อยคนเล็ก

 

 

 

 

“แด็ดอีริค…มี๊ชาร์ลส์…เรเวนชอบ” เด็กหญิงหัวเราะพร้อมขย่มตัวอย่างสนุกสนานบนเก้าอี้เด็ก “แด็ดอีริคกับมี๊ชาร์ลส์…แด็ดอีริคกับ…”

 

 

 

 

“ไม่ใช่นะครับเรเวน!” ชาร์ลส์อุทานเสียงหลง มือเรียวโบกพั่บๆ ตรงหน้าเด็กหญิง “ไม่ใช่ครับ…อย่าจำอะไรผิดๆ อย่างนั้นนะ”

 

 

 

 

“ไม่มีประโยชน์หรอกครับ” อเล็กซ์ยักไหล่ “ถ้าพูดออกมาหลายรอบแบบนี้แสดงคงจะชอบใจน่าดู…รับรองเรเวนไม่ลืมหรอกครับ”

 

 

 

 

ชาร์ลส์รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มดังครืนใส่เขา…หากเด็กชายทั้งสามไม่ได้สนใจกับออร่าหม่นมัวที่ทะมึนรอบตัวชายหนุ่ม

 

 

 

 

“โอ๊ะ! จะสายแล้วนะเนี่ย” พี่ชายคนโตอุทานเมื่อเหลือบมองนาฬิกา “ไปกันเร็วฌอน แฮงค์”

 

 

 

 

ร่างเล็กทั้งสามรีบวางจานอาหารของตนลงในอ่างล้างก่อนจะคว้ากระเป๋ามาสะพาย บอกลาสมาชิกใหม่ของบ้าน…ก่อนที่ประตูหน้าจะถูกปิดลงด้วยฝีมือของแฮงค์ที่กำชับให้ชายหนุ่มพาเรเวนไปส่งที่โรงเรียนอนุบาลด้วย

 

 

 

 

ชาร์ลส์มองไปรอบตัว…โต๊ะอาหารว่างเปล่า อ่างล้านจานที่มีจานวางรอล้าง และเด็กหญิงตัวน้อยที่ยิ้มร่าให้พร้อมเรียกเขาด้วยชื่อที่เจ้าตัวดูจะชอบนักหนา

 

 

 

 

“มี๊ชาร์ลส์…โรงเรียนค่ะ” แม่หนูสื่อสารเป็นคำๆ ที่เขาเข้าใจได้ “เร็วสิคะมี๊ชาร์ลส์…สายไม่ดีนะ เรเวนรู้”

 

 

 

 

เจ้าของชื่อพยักหน้ารับล้าๆ…สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้รู้สึกว่าพลังชีวิตโดนลิดรอนไปหลายขุม เขาตกเป็นเหยื่อของแก็งค์เด็กประถม ก่อนจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกชอบเพศเดียวกัน และตอนนี้ก็มีสถานะเป็นหม่ามี๊ไปแล้วเสียด้วย

 

 

 

 

ให้ตายเถอะ…เขาเป็นอลิซที่ตกลงมาในโพรงกระต่ายที่มีชื่อว่า ‘งานดูแลลูกๆ ของอีริค เลนเชอร์’ ชัดๆ!

 

 

 

 

 

 

 

 

tbc.

 

 

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตามสัญญาในทวิตค่ะ…บทสองตามมาทันใจเพื่อเมอร์รี่คริสต์มาสให้นักอ่านทีน่ารักทุกคน ;D

 

 

 

สารภาพว่าอึ้งกับเสียงตอบรับค่ะ

 

 

 

 

นึกว่าทุกคนจะเอียนอะไรแนวนี้…ยังคิดอยู่เลยว่าฟิคเลี้ยงเด็กมันโหลแล้วนะ เราเขียนไปจะมีคนอ่านมั้ย ดีใจมากค่ะที่ชอบกัน มีกำลังใจเขียนขึ้นเยอะเลย >///<

 

 

 

ฟิคเรื่องนี้ ชาร์ลส์จะออกแนวโดนเด็กๆและคุณพ่อปั่นหัวค่ะ ต่างกับเรื่องไฮสคูลเนอะ lol ความจริงคือทิพย์ไม่ชอบเขียนพวกฟิคเด็กสื่อรักเลยรู้มั้ยคะ แต่ชาร์ลส์นี่ให้อิมเมจแม่ที่ดีของลูกจริงๆค่ะ นับว่าเป็นแพร์แรกที่รู้สึกมีประกายอยากเขียนเรื่องแนววครอบครัว ฮรี่ๆ

 

 

 

ตอนแรกเมื่อวาน กะจะอ่านหนังสือค่ะ แต่แบบพอเริ่มพิมพ์แล้วมันอยากเอาให้จบบท สำนึกด้านดีมันก็ตะโกนอยู่ในหัวนะคะ

 

 

 

 

แต่ก็นะ สำนึกส่วนเลวมันมาแรงกว่าด้วยหน้าคนคนนี้อ่ะค่ะ

 

 

(มัวร่ากับอีริค…คิดว่าทิพย์จะเลือกเชื่อใครอ่ะคะ?? LOLOL)

 

 

 

นั่นเลยทำให้การโซโล่ฟิคดำเนินต่ออย่างเข้มข้นจนจบอย่างสวยงามค่ะ

 

 

 

 

แปะแถมก่อนจาก…โคเรียนบอยส์ที่เราห่างหายพวกเขาไปนาน

 

 

(แดซอง คัมแบ็คไวไวนะจ๊ะ วีไอพีรออยู่วววว์)

 

 

 

เพิ่งดูธอร์จบไปเมื่อกี๊เลยค่ะ ขอแปะให้หายฟินหน่อย

 

 

 

Dear Santa,
 we have not been good this year
 we have ruined many lives and smiled our way right through it

 

แหม….เขียนขอซานต้าว่า “ขอคนที่นั่งข้างผมตอนนี้เป็นของขวัญนะครับ” อ่ะดิ! LOL

 

 

 

อ่านเรื่องนี้จบแล้วอย่าลืมไปต่อด้วยฟิคไฮสคูลนะคะ วันนี้ทิพย์ดับเบิ้ลอัพฉลองคริสต์มาสเลยค่ะ

 

 

15 responses to “[X-Men Fic][ErikCharles] Where Our Hearts Belong (2)

  1. เด็กๆน่ารักมากค่ะะะ ชอบที่บอกให้ชาร์ลส์ พยายามเข้าล่ะ มากฟฟฟฟ มันดูตลกน่ารักบอกไม่ถูกเลยค่ะ
    ส่วนแฮงค์นี่คิดอะไรยะ เพราะมันเป็นความจริง(ในอนาคต)ล้วนๆเลยแงงงงง
    และแล้วชาร์ลส์ก็กลายเป็นหม่ามี๊ไปโดยปริยาย อยากไปเป็นสตอร์คเกอร์ของบ้านนี้เลยค่ะโฮฮฮ TvT

    Like

  2. น่ารักมากกกกกกเลยค่ะ!! ชอบแนวแบบนี้มากเลย
    อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น ภาษาก็ไหลลื่น
    ว่าแล้วก็ขอตัวไปอ่านต่อนะคะ>3<

    Like

  3. กรีดร้องงงงงง เด็กๆน่ารักมากกกกกกกก
    โดยเฉพาะเรเวน อรั่กกกกกก มี๊ชาร์ลส์สู้ๆนะ
    แค่ลูกๆสี่คนทะโมนนิดๆ(เรอะ)เอ๊งงงงง
    โอ่ยยยย บอกอีกทีเด็กๆน่ารักมากกก
    แงงงง จินตนาการออกเลยยยยว่าแต่ละคนจะเป็นยังไง ฮื้อออออ

    Like

  4. ชอบเรเวนจัง น่าร้ากกกก คิดว่าจะมาทางน้องสาวแก่นๆ หัวดื้อแบบวัยรุ่นแสบๆซะอีก กลายเป็นหนูน้อยเรเวนผิดคาดเลย แต่ที่ไม่ผิดคงเป็น…

    “แด็ดอีริค…มี๊ชาร์ลส์…เรเวนชอบ”

    จ้ะ ทางนี้ก็ชอบจ้ะ ชาร์ล ต้องทำใจนะคะ หลุมของอีริคเขาขุดรอไว้นานแล้ว เพรางั้น ลึกกกกกกกกสุดใจแน่นอนน ฟฟฟฟ

    Like

  5. มี๊ชาร์ลส์ มี๊ชาร์ลส์ มี๊ชาร์ลส์!!!! กรี๊ดดด ฟฟฟฟถพดกยวนตบบ
    เขิลลลลลล หม๊ามี๊ชาร์ลส์ น่าร๊ากเกิ๊นนนนนนนนน
    ไหนจะเด็กๆอีก4คนอีก โถววววววน่าร๊ากกกกกก
    เด็กเเต่ละคนนี้เด็ดๆทั้งน้ัน 55555

    “พวกเราทุกคนสนับสนุนสิทธิมนุษยชนของคนที่ชอบเพศเดียวกัน” โถวว เเฮงค์ พี่ฝากบอกมี๊ชาร์ลส์ด้วยว่าพี่ก็สนับสนุนเหมือนกัน 55555

    Like

  6. แด็ดอีริค มี๊ชาร์ลส์ เก๊าก็ชอบบบบบบบบบบบบบบบนะเรเวนนนนนนนนนน เรเวนเอ๊ยยยยยยย ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอเด็กจริงๆ นอกจากปีกน้อยๆที่หลังแล้วเธอมีหางด้วยมั้ย ฮ่าาาาาาาา เด็กบ้านนี้สอนมาดีมากนะคะมี๊ รู้สิทธิมนุษยชนของคนที่ชอบเพศเดียวกันนะคะมี๊ อ่านแค่นี้ก็รู้สึกปวดหัวตุ๊บๆแทนมี๊แล้วววววว >A<

    Like

  7. อ่ออออออออ เค้ารู้แล้ว เวลาใส่เครื่องหมายมากกว่าน้อยกว่า แล้วข้อความหลังเครื่องหมายมันจะหายไปสินะเนี่ย

    Like

  8. โธ่ชาร์ลส์ ตกกะไดพลอยโจนจริงๆหนูเอ๊ยยยย
    ตื่นมายังงงๆ ก็เจอเด็กแสบแผลงฤทธิ์ใส่
    แต่ดีที่เจอแพนเค้กพิฆาต(?)ของชาร์ลส์ไป ไม่งั้นมีป่วงสุด 5555

    ตกลงอีริคเป็นอะไรกับเด็กพวกนี้? รับมาเลี้ยงทำไม?
    ชาร์ลส์นี่ก็โผล่มาเหมาะเจาะไป ดีนะที่เปรย(?)ไปในคืนนั้น
    ไม่ต้องนอนโรงแรมถูกๆ แถมมีงานทำอีกต่างหาก
    นี่ถ้าเราตกงานเราควรไปผับบ้างสินะ เผื่อมีงานทำมั่ง #ผิด

    ชอบแด๊ดกะมี๊มาก อีริคกลับมาคงได้งงเต็ก
    แต่ดีแล้ว ครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่และลูกๆ (หรือตัวป่วน?) ทั้งสี่ /รู้สึกลูกดก/ ถถถถถถถถ
    เพิ่งสังเกตว่าอีริคชาร์ลส์มันคือคู่พ่อแม่ก็ตอนนี้แหละ ฟฟฟฟ
    พอนึกภาพเขาเลี้ยงลูกจริงๆ นี่โอ้ยยย ฟหดเกหหดฟ บายค่ะคุณสติ

    Like

  9. ดีงามมมม ชาร์ลส์ โถ่ โดนเด็กแกล้งง อยากปลอมตัวไปเป็นลูกม๊าอีกคน55555555 อบอุ่น อบอุ่นสุดๆ น่ารักด้วยแงงง สู้ต่อไปนะ มี๊ฝึกหัด(?) !

    Like

  10. /แดชเข้าหาตอนสองหลังจากตอนหนึ่งโดยพลัน
    นี่มันโมเม้นต์ชาร์ลส์กับเด็กๆล้วนๆเลยแงงงงงง น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ///
    หลงรักแก๊งค์เด็กประถมเข้าให้ซะแล้วล่ะค่ะ55555555
    เด็กทุกคนมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกันด้วย แฮงค์จะออกแนวพี่ใหญ่ แล้วยังพูดจาแอดวานซ์อีก55555555
    ความเป็นพี่เป็นน้องกลมเกลียวกันสุดๆ พร้อมเพรียงกันมากๆ
    นึกแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเฉยเลยค่ะตอนที่แอบย่องลงมาดูชาร์ลส์ทำกับข้าว ก๊าาาก ความคิดแบบเด็กๆนี่มันดีจังเลยน้า;-;

    ปล.ฟิคป๊าม๊าที่เพื่อนบอกคือฟิคนี้นี่เอง น่ารักมากๆค่ะ/น้ำตาไหลย์

    Like

  11. ขออนุญาตฮาแบบนอนสต๊อป 555555555555555555555555555555555555555555555
    555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
    โอ้ยยย พาร์ทนี้ฮามาก ฮาจริงจัง 55555555555555
    โดนแก๊งค์เด็กประถมรุมแล้วชาร์ลส์เอ้ยย
    แล้วเด็กแต่ละคนแสบได้ใจ ฌอนก็โวยวายได้ใจ แน่ใจนะว่านั่นเรียกว่าแอบลงมาดู
    อเล็กซ์มาถึงก็สั่งเลย “ตั้งใจเข้าล่ะ” 555
    อีกคนก็แฮงค์วิชาการโฮโมเซ็กชวล 55555555555555555555555
    ทำไมหนูคิดแบบนั้นล่ะลูก แด๊ดเค้าเคยควงผู้ชายเค้าบ้านรึไง อะไรทำให้คิดงั้น 55
    เรเวนน่ารักอะ บรรจุมี๊ชาร์ลส์ในสาระบบความจำเรียบร้อยแล้ว
    เด็กๆบ้านนี้จริงๆแล้วขาดความอบอุ่นจากแม่สินะ
    รออีกนิด เดี๋ยวรอพ่อมาจัดการทำแม่ให้(?) อีกไม่นานหรอกนะ

    Like

  12. ถูกแล้วเรเวน หนูน่ารักมาก มี๊ชาร์ลส์หน่ะถูกแล้วววววว TvT

    Like

  13. อ๊าาาาา พี่ทิพย์มันทรมานมากเลยกับการดิ้นไปดิ้นมาบนเตียงตอนตีสาม แถมหัวเราะปนไอปนอุทานลำบากมาก T v T อากาศหน้าหนาวมันแย่จริงๆ แต่แย่กว่าคือกัมมันตรังสีโมเอะที่แผ่ออกมาจากชาร์ลส์ อะเฮอะะะะะะะะ *ล้มลงไปกองกะพื้น*

    Like

  14. “แด็ดอีรีค มี๊ชาร์ลส์” โอยยยยย เขินนนนนนน
    มี๊ชาร์ลส์ มี๊ชาร์ลส์ มี๊ชาร์ลส์ แงงงงงง *ดิ้น*

    Like

  15. น่ารักมากๆเลยค่ะ แด๊ดอีริค มิ๊ชาร์ลส์ ><

    Like

Leave a comment