Type: AU fanfiction
* แฟนฟิคชั่นเเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น BL…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
— III —
scherzo
playful; a movement in a piece, generally light and humerous in nature
*
การได้พบกับวงนิวยอร์กฟิลฮาโมนิกออเคสตร้าอย่างเป็นทางการไม่มีอะไรชวนให้รู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาเป็นเรื่องที่ผิด…นักดนตรีทุกคนดูยินดีที่จะได้ร่วมงานกับเขาดังคำเล่าของแฮงค์ และอีริคก็ได้มีโอกาสนั่งฟังทั้งวงซ้อมอยู่สักพักเลยทีเดียว ทำให้ชายหนุ่มได้เริ่มๆ ลองคิดเทียบว่าตนจะกำหนดทิศทางการเล่นเพลงให้เป็นอย่างไรดี
ยังคงไม่มีการตัดสินใจเด็ดขาดถึงเพลงที่จะเล่น แต่ในเมื่อยังเหลือเวลาอีกเกือบห้าเดือน อีริคจึงออกปากเองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องตกลงให้ได้ภายในเจ็ดวันนี้ก็ได้ คำพูดที่ทำให้แฟรงค์ หวง หัวหน้าวงยิ้มออกมาได้ ก่อนจะเริ่มต้นเกริ่นกลายๆ ถึงเพลงที่ได้แสดงไปแล้วทั้งหมดของปีนี้ ซึ่งอีริคก็จดเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือทีหลัง…เอาไว้เป็นลิมิตให้ตัวเองเวลาที่คิดหาไอเดีย
“ผมดีใจมากจริงๆ ครับที่คุณจะมาคอนดักต์ให้วงของเรา” แฮงค์พูดเป็นรอบที่สามสิบของวัน ยังคงยิ้มแบบเกรงๆ อยู่ (อีริคมั่นใจแล้วว่านี่คือยิ้มกว้างแล้วตามฉบับของแฮงค์) ก่อนจะกล่าวถึงอลัน กิลเบิร์ต ผู้กำกับทางดนตรีของวง “แล้วถึงมิสเตอร์กิลเบิร์ตจะบอกว่าอยากให้เป็นซิมโฟนีมากกว่า แต่เขาก็คุยๆ ไว้กับแฟรงค์แล้วล่ะครับว่าถ้าคุณคิดว่าเป็นคอนแชร์โตน่าจะดีกว่า ก็ตามนั้นก็ได้”
อีริคส่ายหน้า “ไม่ล่ะ…พอมาได้ฟังวงนายเล่นสดๆ แบบนี้แล้ว ฉันว่าซิมโฟนีนั่นแหละดีแล้ว เหมาะกับเสียงของพวกนายที่สุดแล้วล่ะ”
แฮงค์ยิ่งยิ้มมากกว่าเดิม และในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนคนเดียวนอกเหนือจากชาร์ลส์ที่อีริคได้คุยเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งานด้วย…เขาจึงตัดสินใจถามคำถามที่อยากรู้คำตอบมาตั้งแต่เมื่อวานออกไป
**
ชาร์ลส์ตื่นมาในเช้าวันถัดมาพร้อมกับลืมไปอีกครั้งว่าตนไม่ได้อยู่ในอพาร์ตเมนต์นี้คนเดียว
นั่นจึงทำให้หลังจากที่นอนเคลิ้มๆ อยู่บนเตียงแล้วคิดว่าเสียงจากห้องครัวเป็นความฝันของตัวเองอยู่ชั่วครู่ ร่างสมส่วนก็ลุกพรึ่บขึ้นมาจากที่นอนพร้อมตื่นเต็มตาอย่างตกใจว่าใครเป็นคนก่อเสียงนั่น ก่อนจะถอนหายใจเมื่อจำได้…ตอนนี้เขามีสิ่งที่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงกับคำว่ารูมเมทแล้ว
ดวงตาสีฟ้าสุกใสมองนาฬิกาตรงหัวเตียง แล้วก็สงสัยขึ้นมาว่าอีริค เลนเชอร์ตื่นขึ้นมาทำอะไรตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งแบบนี้
ชาร์ลส์ตัดสินใจหาคำตอบให้ตัวเองด้วยการเดินออกจากห้องนอนไปที่ครัว ก่อนจะได้สัมผัสกับการตื่นขั้นเต็มตาอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นอาหารร้อนๆ จากบนเตาที่ไม่เคยถูกใช้อะไรมากไปกว่าต้มน้ำชงเครื่องดื่ม…อีริคยืนอยู่ตรงหน้ามัน ห่างไกลจากมาดวาทยกรระดับโลกยิ่งกว่าครั้งแรกที่ได้พบกันด้วยชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงวอล์มสีเทา มือเรียวยาวกำลังใช้ตะหลิวพลิกอะไรสักอย่างสีเหลืองทองในกระทะอยู่ ชาร์ลส์มองเคาเตอร์ที่มีเศษมันฝรั่งกับเปลือกไข่วางค้างอยู่แล้วก็ถามออกมาก่อนกล่าวทักเสียอีก
“ทำอะไรอยู่น่ะ?”
อีริคหันไปทางต้นเสียง รู้สึกอยากหัวเราะหึๆ ชอบกลกับภาพของชาร์ลส์ในเสื้อกับกางเกงเข้าชุดกันแถมผมยุ่งยิ่งกว่ารังนก แต่กำลังตาวาววับและจับจ้องแค่เพียงอาหารในกระทะ “อรุณสวัสดิ์”
ชาร์ลส์เลื่อนสายตาจากการมองกระทะไปมองหน้าอีกฝ่ายแทน ถ้อยคำเป็นงานเป็นการโดนลืมไปชั่วครู่ในตอนเช้าตรู่แบบนี้ “นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”
“นั่งเถอะ” อีริคอยากจะกลอกตาขึ้นมาเบาๆ…ตัดปัญหาการต้องมาตอบคำถามด้วยการพยักเพยิดไปทางโต๊ะนั่งทานอาหารที่เบียดอยู่ตรงอีกมุมของครัว เขารู้ว่ามันยังคงเป็นเรื่องแปลกอยู่ดีในสมัยนี้ที่จะหาผู้ชายทำอาหารเป็นได้เจอ…แต่ด้วยการที่อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่สมัยจบไฮสคูล อีริคก็พบว่าความสามารถนี้เป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นเยอะ นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจมนุษย์ประเภทชาร์ลส์ เซเวียร์ผู้ดำรงชีวิตอยู่แค่จากอาหารซื้อสำเร็จรูปเลย…เพราะสำหรับเขาแล้ว อาหารที่ดีที่สุดสำหรับวันปกติคืออาหารที่ได้ทำด้วยตัวเอง
และนั่นจึงทำให้หลังจากมีชีวิตอยู่แค่สามวันในนิวยอร์ก…อีริคก็รู้ชัดเจนว่าตนคงต้องเป็นบ้าแน่ถ้ายังไม่ทำอะไรสักอย่างกับเรื่องอาหารการกินในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ การตระหนักรู้ที่เป็นแรงผลักดันให้ชายหนุ่มตัดสินใจถามคำถามที่ทำให้แฮงค์มองหน้าเขาแบบแปลกๆ ว่าซุปเปอร์มาร์เกตที่ใกล้อพาร์ตเมนต์ของชาร์ลส์ที่สุดอยู่ที่ไหน ก่อนจะใช้เวลาตอนเมื่อเย็นวานในการซื้อของสดเข้ามาแช่ในตู้เย็น…การกระทำที่เห็นได้ชัด(และอีริคก็ไม่ประหลาดใจสักนิด)ว่าเจ้าของอพาร์ตเมนต์ไม่รู้เรื่องเลยว่าได้เกิดขึ้น
“อืม…” ชาร์ลส์ไม่ได้ไปนั่งรอตามคำบอก แต่ตัดสินใจหางานให้ตัวเองได้ในที่สุด “เดี๋ยวฉันชงชาก็แล้วกัน…ของนายเอาเป็นกาแฟใช่มั้ย?”
“ชาก็ได้” อีริคยักไหล่ ทอดอาหารในกระทะเพิ่มอีกชุดในเมื่ออีกฝ่ายตื่นมาแล้ว…มันสุกพอดีกับตอนที่เอิร์ลเกรย์ของชาร์ลส์พร้อมเทใส่ถ้วยได้ อีริคเลื่อนถ้วยซอสสีเหลืองอ่อนข้ามโต๊ะไปให้อีกฝ่ายตอนที่เห็นว่าเจ้าตัวกำลังจะลงมือจัดการอาหารแบบเปล่าๆ เลย
“ใส่นี่ก่อน”
ชาร์ลส์มองเขาอย่างสงสัยแต่ก็ราดซอสก่อนกินโดยดี แล้วก็ทำให้อีริคเกือบสำลักชาด้วยเสียงครางอืออาดังๆ “อีริค! นี่มันอร่อยมากเลย!! มันคืออะไรน่ะ??”
“แพนเค้กมันฝรั่ง…” เขาตอบช้าๆ เพราะยังรู้สึกว่ารับกิริยาของชาร์ลส์ไม่ค่อยทัน “…ราดซอสแอปเปิ้ล”
“มันอร่อยมาก” ชายหนุ่มผมดำพูดราวกับจะบอกให้เขามั่นใจได้ทั้งๆ ที่ยังเคี้ยวแพนเค้กอยู่ตุ้ยๆ “ฉันไม่ได้กินอาหารเช้าอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้ว”
ฉันคิดว่านายไม่ได้กินอาหารเช้าอะไรเลยมานานแล้วมากกว่า อีริคคิดตอบในใจ ยังคงแอบสะพรึงทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ แต่สิ่งที่พูดออกไปก็มีแค่ประโยคสั้นๆ ว่าถือซะว่าเป็นการตอบแทนเรื่องพาสต้าที่ชาร์ลส์อุตส่าห์ซื้อมาให้เมื่อวันก่อน
ชาร์ลส์บอกว่าตนยินดีเป็นคนล้างจานเองเมื่ออีริคเอ่ยขอตัวจากโต๊ะอาหารเพราะต้องเตรียมตัวออกไปตามนัดกับแฮงค์ ซึ่งอีกฝ่ายก็ถามย้ำนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าตกลงโดยดี…เขาส่งเสียงตอบรับไปจากอ่างล้างจานเมื่อได้ยินอีริคพูดลาก่อนปิดประตูอพาร์ตเมนต์ ก่อนจะเช็ดมือแล้วยิ้มภูมิใจหลังจากที่ไม่เหลือภาชนะใดให้จัดการอีกแล้ว
แน่นอนว่ารอยยิ้มนั้นจืดๆ ลงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบนตะแกรงผึ่งนั้นมีถ้วยเซรามิกจากเมื่อคืนวานวางอยู่ก่อนแล้วสี่ใบถ้วน
**
เขามีสอนจนถึงแค่เที่ยงวัน แต่ชาร์ลส์ก็ยังไม่ได้กลับอพาร์ตเมนต์ทันทีเพราะมีประชุมอาจารย์จนถึงเกือบบ่ายสอง หลังจากนั้นเขาก็แวะที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเล็กน้อย ก่อนจะใช้เวลาหลังกลับมาถึงที่พักแล้วในห้องทำงานอย่างต่อเนื่อง…จะออกมาก็แค่เพื่อชงชาถ้วยใหม่เท่านั้น
ชายหนุ่มกำลังคร่ำเคร่งกับการปรับแก้เอกสารการสอนอยู่ตอนที่เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น ดวงตาสีฟ้าไม่ได้ละจากหน้าจอแล็ปท็อปกับหน้าตำราอ้างอิงด้วยซ้ำตอนร้องบอกให้อีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาเลย
อีริคเดินล้ำเข้ามาในเขตห้องทำงานแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น “ฉันทำทอร์เทลลินีไว้นะ นายจะกินเลยมั้ย?”
“โอ…ขอบคุณนะ” ชาร์ลส์เงยหน้าขึ้น กระพริบตานิดๆ เพื่อปรับความคิด “ไม่เป็นไรล่ะ…ฉันอยากทำนี่ให้เสร็จก่อน นายกินเลยเถอะ”
อีริคพยักหน้า บอกว่าถ้าอย่างนั้นตนจะตักใส่จานไว้เผื่อให้ก็แล้วกัน ก่อนจะปิดประตูห้องตามหลังเงียบๆ
ตอนที่ชาร์ลส์ออกมาจากห้องทำงานนั้น ทอร์เทลลินีบนโต๊ะอาหารก็เย็นไปแล้ว…แว่วเสียงฝักบัวออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มผมดำจัดการอาหารส่วนของตัวเองจนหมดในแค่ชั่วเวลาที่รอให้ชาถ้วยใหม่ได้ที่ นึกสงสัยขึ้นมานิดหน่อยว่ามันถือเป็นเรื่องเสียมารยาทไหมที่เขาไม่มานั่งทานอาหารพร้อมๆ กับอีริค
ก็คงนิดหน่อยแหละ ชาร์ลส์ยอมรับกับตัวเอง หากก็ครุ่นคิดต่อ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ดูมีท่าทางไม่พอใจอะไรนี่นะ
เขาหันไปมองรอบๆ ห้องอย่างเรื่อยเปื่อยต่อ…ก่อนจะสะดุดตาเล็กน้อยกับกองหนังสือบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา พวกมันคือสมุดโน้ตเพลงเล่มหนาสำหรับคอนดักเตอร์ที่มีสภาพหลากหลายแตกต่างกันไป บางเล่มก็ดูใหม่หน่อย บางเล่มก็ดูคร่ำคร่าและปกม้วนงอ บางเล่มก็คือการถ่ายเอกสารมาเย็บสันห่วงเอง และหลายเล่มเลยทีเดียวที่ถูกหุ้มปกให้เป็นสีขาวพร้อมมีชื่อเพลงพิมพ์ไว้ชัดเจนด้วยฟอนต์เดียวกัน…บ่งบอกให้พอเดาได้ว่าคงยืมมาจากห้องสมุดภายในของทางวงดนตรี
อ๋อ…สงสัยยังเลือกๆ เพลงอยู่เลยสินะ…
ชาร์ลส์คิดกับตัวเองพลางจิ้มทอร์เทลลินีเข้าปากอีกชิ้น…กองสมุดโน้ตเพลงถูกวางซ้อนกันไว้เป็นสองกอง และมีแค่หนึ่งเล่มแยกออกมา…ดินสอที่คั่นอยู่ระหว่างหน้ากระดาษบอกให้รู้ว่าอีริคคงกำลังดูเพลงของเล่มนี้อยู่ ซึ่งแค่มุมเล็กๆ นี้…ก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่าเจ้าตัวเป็นคนที่มีระเบียบในการทำงานเอกสารมากกว่าชาร์ลส์แค่ไหน
ชายหนุ่มผมดำกลอกตากับตัวเองพร้อมถอนหายใจแรงๆ…วางจานอาหารลงในอ่างล้างแล้วหยิบถุงชาจากในถ้วยทิ้งลงถังขยะ
อย่างน้อยก็ดีแล้วล่ะนะ ชาร์ลส์คิดกับตัวเองตอนกลับมานั่งในห้องทำงานของตัวเอง โชคดีแล้วที่รูมเมทของเขาเป็นพวกบ้างานแล้วก็โลกส่วนตัวสูงพอๆ กันจนไม่ได้มองการไม่ใช่เวลาด้วยกันเป็นเรื่องเคืองใจอะไร
tbc.
************************************
note:
-สูตรแพนเค้กมันฝรั่งของอีริค อร่อยมากเลยค่ะ เราทำแบบกากๆเองยังกินได้ คนทำเป็นนี่ต้องอร่อยเหาะแน่ๆ>>German Potato Pancakes with Applesauce
-สูตทอร์เทลลินีของอีริค(อีกเช่นเคยถถถ) ตามนี้เลยค่ะ>>Creamy Tomato Basil Tortellini
-ไม่เกี่ยวแต่จะแนบไว้ให้ด้วย…พี่ฟาสในโหมดทำอาหารเช้าค่ะ #พนมมือ >>Because Michael Fassbender rocking sweatpants in the kitchen is hella hot
************************************
โฮล่าาาา ช่วงนี้เหมือนเราตกหลุมผู้ชายไถลน้ำแข็งเนอะคะ แต่อย่ากังวลไปค่ะ ตกหลุมเชริคมายังไง เราก็จะอยู่ในหลุมเชริคต่อไปยังงั้นค่ะ อิๆ
บทนี้เราว่าค่อนข้างสั้น แต่หลักๆคืออยากให้เห็นน่ะค่ะว่าเวลาวันนึงๆของสองคนนี้ ถึงอยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้เจอกันเท่าไหร่หรอก ขนาดอยู่ห้องกันแล้วทั้งคู่ยังไม่ได้เจอกันเลย เพราะเราอยากเขียนเคมีของสองคนนี้ในแง่คนแปลกหน้าที่ไม่ได้มีเหตุให้ได้คุยกันรัวๆแบบตอนใน xmfc ค่ะ ในหนังน่ะ เพราะเป็นมิวแทนต์เหมือนกันเลยคุยกันได้ยาวเลย แต่เราอยากเขียนในฟิคนี้ว่าถ้าเป็นสองคนที่ไม่มีอะไรร่วมกันเลย(ความสนใจ การงาน แนวทางการใช้ชีวิต) อีริคกับชาร์ลส์น่าจะค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ยังไงค่ะ
อาจจะอัพเรื่องนี้ไม่ถี่ แต่มั่นใจได้แน่ค่ะว่ามีตอนต่อ เรื่องนี้เขียนเพลินมากๆเลย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
ทิพย์เอง
เอาจริงๆ เราชอบนะคะ ที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันได้โดยแทบไม่มีบรรยากาศ awkward แบบน่าลำบากใจ อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็โลกส่วนตัวสูงและมีเรื่องที่ต่างคนต่างต้องทำทั้งคู่ด้วยก็ได้ แต่ยังไงก็ชอบอยู่ดี ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ healthy ในด้านความรู้สึก พลอยให้เวลาอ่านเรื่องของเขาทั้งคู่เราก็พลอยสบายใจไปด้วย
แต่ถึงจะโลกส่วนตัวสูงและจดจ่ออยู่กับงานตัวเองกันยังไง ทั้งคู่ก็เริ่มที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าวันแรกๆ แล้วนี่เนอะ ต้องยกความดีความชอบให้นิสัยไม่ชอบกินของสำเร็จรูปของเอริคนะคะ 55
LikeLike
สิ่งที่ชอบในตอนนี้คือตรงที่เขียนเกี่ยวกับการเป็นรูมเมทกัน(อ้าว ก็ทั้งตอนเลยนี่555) เพิ่งจะผ่านประสบการณ์การเป็นรูมเมทมาเร็วๆนี้ค่ะ(ถึงจะไม่กี่วันก็เถอะ) แบบว่า รู้สึกว่าอีริกเป็นรูมเมทที่ดีอ่ะ เพราะเราจะเจอปัญหาแบบว่า เราทำงานบ้านแต่เขาไม่ทำ แต่ก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นแขก ถึงเขาจะทำกับข้าวกินเองแต่เราก็ต้องมาล้างจานล้างหม้อให้ ทิ้งขยะกับเศษอาหารผิดที่ผิดทางบ้าง ชาร์ลส์นี่โชคดีที่สุดแล้วค่ะ อีริกไม่ค่อยกวนด้วย แถมยังเป็นพ่อบ้านให้อีก จุดนี้ให้คบเขาในฐานะเมทก็คุ้มแล้วค่ะ ฟฟฟฟฟฟ
LikeLike
อีริคในโหมดทำอาหารที่คิดไว้ตอนแรกก็โฮกแล้วนะคะ แต่พอจิ้มลิงค์ที่พี่ทิพย์แนบมาด้วยปุ๊บ… อหหหหห ฟกดเ้าสสเกหฟฟหกดฟ เทียบไม่คิดกะที่คิดไว้เลย โซฮอทกว่าเยอะ โซโฮกค่ะหุ่นพี่ฟาสเนี่ย555555555 เมนูอาหารนั้นอร่อยอย่างแท้จริงเราขอมุดใต้โต๊ะทำงานอีริคยันเลย— ถถถถถถ มันหอมๆมันๆละมุนๆเนื้อแพนเค้ก พอมาเจอกับรสซอสแอปเปิลละแบรบบบบ /ติดปีกขึ้นสวรรค์เทอร์โบ
ชอบความดูไม่มีอะไรในแต่ละวันแต่มันมีอะค่ะ เหมือนจะเห็นความน่ารักของอีกฝ่ายมากขึ้นละนกหลุมรักช้าๆแบบไม่ปุบปับ เหมือนวะนแรกมาแล้วไม่มีอะไรแต่หลังๆมานี่ยิ้มได้กับการกระทำ โง่ยยยย มันน่าซุกกอดจริงๆฟฟฟฟฟฟ นี่แค่ทำอาหารยังฮอทขนาดนี้ ถ้าเข้ายิมนี่เราคงเป็นลมตาย—
LikeLike
อ่านถึงแพนเค้กแล้วหิวค่ะ ฟฟฟฟ มันน่ากินมาก
ชอบบรรยากาศนิ่งๆอย่างนี้จังค่ะ ไม่หวือหวาแต่สบายใจ
เอริคในโหมดไม่มีเรื่องให้หงุดหงิดช่างเป็นคนดี น่าขอมาอยู่ด้วยมากๆเลย ฮือ ขอคนดูแลแบบนี้ มันดีต่อใจ
จะรอตอนต่อไปนะคะ * v *
LikeLike
นี่กดตามสูตรอาหารไปรัวๆ มาอ่านช่วงนี้ก็เพิ่มระดับความหิวไปอีก 555 ช่วงนี้เรื่อยๆมาเรียงๆ แต่เคมีเข้ากันดี๊ดี คือแบบมีมุมส่วนตัว แต่ก็มีเวลาส่วนรวมบ้าง ฮาาา น่ารักดีค่ะ
LikeLike
โฮกกกกกกกกก อยากกิน(อาหารที่)อีริค(ทำ)มากๆๆๆๆๆค่ะ
สครีมแรกก็เกี่ยวกับของกินเลย ตะกละมาก 5555555 เราชอบอีริคที่เผยมุมใจเย็นออกมาให้เห็นนะคะ คือปกติเขาจะร้อน ส่วนชาร์ลส์เย็น แต่จะเป็นแบบนี้ได้เรื่อยๆไหม หรือจะแปลงร่างเป็นอสูรกายบนเตีย—- โอเค หยุดนอกเรื่อง พอ!!
คือชอบบรรยากาศแบบนี้นะคะ รู้สึกว่าการที่อินโทรเวิร์ดสองคนมาอยู่ด้วยกันมันก็จะประมาณนี้แหล่ะ แต่เรายังเห็นสายใยบางๆค่อยๆล้อมพวกเขาไว้ด้วยกัน ให้ค่อยๆเข้าใจกันมากขึ้นๆแบบไม่ต้องพูดกัน แต่เข้าใจกันจากการใส่ใจและสังเกตพฤติกรรมน่ะค่ะ คือบรรยากาศของเรื่องนี้มันลำเลียงไปเรื่อยๆจนเราไม่มีวูบความคิดอยากให้อีริครุกชาร์ลส์เร็วๆเลยค่ะ คือทั้งสองคนดูเย็นชาแต่ก็อบอุ่น งงไหมคะ แงงงงงง
ติดขอบจอรอตอนต่อไปเช่นเคยค่าาาา
ปล.ชาร์ลส์ในชุดเสื้อกางเกงเข้าชุดกันน่ารักมากค่ะ ในหัวนี่จินตนาการเป็นชุดนอนลายแฮมสเตอร์ อะไรก็ไม่รู้ 555555
ปล2. YOI เห็นกระแสในทวิตแรงมากเลยค่ะ ยังไม่ได้ดูเลยยยย
LikeLike
ฟิคแนวนี้ถึงแตกต่างออกไปจากเดิมแต่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ เอาจริงๆก็อยากลองอ่านแนวนี้ดูบ้างเหมือนกันนะคะ ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ (/////) ขอบคุณพี่ทิพย์มากค่ะที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา♡
ปล.แพนเค้กทำหิวมากค่ะฟฟฟฟฟฟฟ
LikeLike
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (4) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
อยากกินทุกเมนูของคุณคอนดักเตอร์ค่ะ
อ่านแล้วเห็นภาพ พอกดเข้าไปดูสูตรอาหาร เจอรูป แงงงงหิวเลยค่ะ
LikeLike
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปแบบนี้น่ารักจังเลยค่ะแงง ถึงจะไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่การอยู่ด้วยกันก็ไม่อึดอัด พอถึงเวลาคุยก็ดูคุยได้เรื่อยๆ สบายๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ค่อยๆเติบโตแบบน่ารักดีนะคะ งื้อ \\ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ //q//
LikeLike
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (5) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (6) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (7) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (8) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
อยากกินแพนเค้กมันฝรั่งกับทอร์เทลินีฝีมืออีริคจังเลยค่ะ
ผู้ชายทำอาหารนี่เป็นอะไรที่ฮอตจริงๆ แฮ่
ไว้จะจดสูตรไปลองทำบ้างค่ะ! อาศัยพลังมโนว่าเป็นฝีมืออีริค #ผิดๆ
ชอบความสัมพันธ์แบบนี้มากเลยค่ะ คนโลกส่วนตัวสูงสองคน ฮรอล
ตอนเราอยู่หอกะเมทก็เป็นงี้เลยค่ะ ต่างคนต่างอยู่สุดๆฮา #เกี่ยวมั้ย
LikeLike
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (9) | (Note: I was possessed when I wrote this)·
อ่านฟิคพี่ทิพย์นอกจากจะชื่นใจแล้วยังได้สูตรอาหารชวนหิวด้วย5555 จากภาพแล้วรู้เลยว่าต้องอร่อยมากแค่ไหนจนชาร์ลส์ร้องดีใจแบบนั้น เจ้ามนุษย์หนูขาวปากแดง♡
แอบเหมือนคู่แต่งงานเล็กน้อย ต่างกันที่อันนี้เป็นสามีที่ตื่นมาทำอาหารให้ภรรยาที่ลืมตัวทุกทีว่าไม่ได้อยู่คนเดียว555 ชาร์ลส์ตอนดีใจกับอาหารเช้าคงเป็นหัวฟูๆแต่หน้ายิ้มจนแก้มกลม อยากบีบเลยแงงงง
และพี่ฟาสฮอตมากค่ะ หล่อมากกกก ถ้าตื่นมาเจอแบบนี้บ้างจะยอมงัดตัวเองออกจากเตียงทุกเช้ามานั่งมองเมทสุดฮอตคนนี้ทำอาหารเลยแห่ก
LikeLike
ชอบและอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเราอยากได้เมทแบบนี้จังค่ะชอบความสัมพันในตอนนี้ของทั้งคู่ไม่ได้ซีเรียสกับการต้องมีบทสทนามากมายหรือการนั่งโต๊ะร่วมกันทานอาหาร
LikeLike
Pingback: [XMFC Fic][ErikCharles] Adagio Sostenuto (11) | (Note: I was possessed when I wrote this)·